บทที่ 9 นภสร นรมนเขาเป็นห่วงเธอนะ
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เสียงของนกสรมีความเกร็ง เพียงแค่หยิกแขนตัวเอง
โดยไม่รู้ตัว เพื่ออยากจะให้ตัวเองตื่น ปองพลที่ยืนอยู่ข้างๆมองแขนที่ว่างเปล่าของตัวเอง
สายตาก็หม่นหมองลง ริมฝีปากบางๆนั้นกลายเป็นเส้น
ตรง
ใบหน้าแผ่รังสีอำมหิต แต่ไม่นานก็กลับสู่ปกติ รวดเร็ว ซะจนคนไม่ทันสังเกตเห็น
“สร ไม่แนะนำคุณผู้ชายคนนี้ให้รู้จักหน่อยเหรอ?” ปองพลเอื้อมแขนโอบไหล่ของนภสรอย่างเป็น
ธรรมชาติ แถมยังยื่นมือช่วยเธอรวบผมรอนที่ระอยู่ ตรงหน้าอกของเธอออก ดูสวีทหวานแหววกันมาก
เสียงที่เรียก “สร” ทำเอานภสรถึงกับเหวอ ตั้งแต่คุณ พ่อเข้าเรือนจำไป ก็ไม่มีใครเรียกเอแบบนี้อีกเลย
นภสรหันมองด้านข้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าปองพลไม่ ได้แสดงสีหน้าอะไร เธอถึงนึกขึ้นมาได้ว่า คนๆนี้คือสามี สดๆร้อนๆของเธอนั่นเอง
ส่วนเธอกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ไม่มีวันเป็นไปได้ แน่นอน……
ขอบคุณปัญหาต่างๆของตระกูลไชยกาลที่ผ่านมาใน ช่วงหลายปีนี้ นกสรเติบโตขึ้นเยอะมากๆ เธอควบคุม อารมณ์ตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อหันกลับไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ดวงตาใสสะอาด : “คนนี้คือคุณชายบ้านตุงคนาคร ชื่อ นทจร”
จากนั้นเมื่อหันไปมองนทจรอีกครั้ง ตัวเธอก็เริ่มเอียง ก่อนจะไปพิงแนบอยู่ที่อ้อมอกของของปองพล ก่อนจะ เอ่ยปากพูดอย่างยิ้มแย้ม : “นี่คือสามีของฉัน ปองพล”
นทจรมองนภสรด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ประหลาดใจ : “นภสร เธอล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย?”
ช่วงนี้เขาค่อนข้างยุ่ง ช่วงก่อนก็ไปดูงานต่างจังหวัด ได้ข่าวว่านภสรกลับประเทศมาแล้ว งานที่มีอยู่ในมือก็ ยังจัดการไม่เสร็จ ก็รีบกลับมาก่อนเลย คิดไม่ถึงว่านภ สรแต่งงานเร็วขนาดนี้ ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงมาก่อน เลยด้วยซ้ำ
“นทจร!”
นรมนเอ่ยชื่อเรียกนทจร แล้วเดินก้าวฉับๆเข้ามาทาง พวกเขา แทบจะควบคุมความสงบเรียบร้อยของตัวเอง ไม่อยู่
เธอเห็นนภสรมาแต่ไกล ไม่คิดว่าแค่มาเดินช็อปปิ้งก็ ยังจะมาเจอกับเธออีก
“นทจร ไหนบอกว่าจะเลือกเสื้อผ้าไง? แล้วมาอยู่ที่ โถงห้างได้ไง เล่นเอาฉันเดินหานายอยู่ตั้งนาน” นรมน เดินมาอยู่ข้างๆนทจร ยื่นมือมาจับชายเสื้อของเขาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ ท่าทีน่าสงสาร
นทจรก้มหน้าแล้วจับมือเธอขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่ ลูบไป ที่แก้มของเธออย่างปลอบโยน : “ขอโทษนะ แค่รู้สึกว่า อากาศด้านในมันร้อน อยากออกมาสูดอากาศข้างนอก สักหน่อยน่ะ”
นรมนเหมือนเด็กที่ได้ลูกอม ฉีกยิ้มขึ้นมาในทันที ก่อน จะทําเป็นเอียงคอแล้วมองมาที่นกสรอย่างประหลาด ใจ : “ นภสรก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอเนี่ย? อยากจะซื้อ เสื้อทําไมไม่บอกก่อนล่ะ นทจรพึ่งกลับมาถึงพอดี พา เธอมาด้วยได้นะ”
เมื่อเห็นสภาพแบบนี้ของนรมน นภสรก็อยากจะฉีก หน้าของเธอให้เละกันไปข้าง แต่เธอก็ต้องเก็บอารมณ์ เอาไว้
นภสรใช้มือบิดกระดุมแขนเสื้อของปองพลอย่าง ลืมตัว สายตาก็จ้องมองไปที่แขนที่เกี่ยวกันของนทจร และนรมน
ก่อนจะพูดปัด : “ไม่ดีกว่าอ่ะ พวกเราเป็นคู่แต่งงาน ใหม่ ไม่ชอบให้ใครมาเป็นก้างขวางคอเท่าไหร่”
นรมนพึ่งสังเหตเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆนภสร สีหน้า เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ที่แท้ก็เป็นผู้ชายที่นอนกับนภสรในคืนนั้นนี่เอง ผู้ชาย หล่อเหลาที่เธอเคยเริ่มคุยกับเขาก่อน แต่เขากลับไม่ ใส่ใจ
“นภสร นรมนเค้าเป็นห่วงเธอนะ…….” นทจรไม่ชอบที่ นภสรใช้น้ำเสียงแบบนี้ในการพูดสักเท่าไหร่ เรื่องที่เธอ แต่งงานแล้วก็ทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่ออยู่แล้ว
นรมนเป็นห่วงเธอจริงๆ เป็นห่วงซะจนกลัวว่าเธอจะ อยู่อย่างมีความสุขเกินไป
“เราไปกันเถอะ” นภสรเงยหน้ามองปองพล ดวงตาดู เหนื่อยล้าเล็กน้อย แฝงไปด้วยความอ้อนวอน
ปองพลไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ พา เธอก้าวเท้าฉับๆออกจากตรงนั้นไป
“นทจร ดูหล่อนสิ นิสัยยังเหมือนเดิมไม่มีผิด ไม่รู้จัก
รักตัวเองบ้าง อยู่ๆก็ไปกับผู้ชาย…….
นรมนพูดไปพูดมาดวงตาก็เริ่มแดงก่ำ ดูเหมือนพี่สาว ที่เป็นห่วงน้องสาวที่ดื้อของเธอแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
สีหน้าของนทจรจริงจังขึ้นมา : “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เมื่อนรมนเห็นสีหน้าที่จริงจังของนทจร เธอหน้า ละห้อย สายตาเย็นยะเยือก เสียงสะอึกสะอื้น : “ก็ ก็ ไม่มีอะไร เพียงแค่…………..
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ