หัวใจร้อนๆของนายเย็นชา

บทที่ 7 สามีของฉันคือผู้ชายที่ไร้เงิน ไร้บ้าน ไร้รถ



บทที่ 7 สามีของฉันคือผู้ชายที่ไร้เงิน ไร้บ้าน ไร้รถ

ต้องบอกว่า แขนเรียวๆของเขาควบคุมพวงมาลัย อย่างคล่องแคล่ว รถกำลังวิ่งแล่นไปข้างหน้าด้วยความ รวดเร็ว นภสรมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของเขาเป็นเวลา นานก่อนที่จะดึงสติกลับมา : “รถ…………….”

“เดี๋ยวก็มีคนมาจัดการ”

ณ สำนักงานเขต

“กรอกแบบฟอร์มก่อนนะคะ หลังจากนั้นค่อยไปถ่าย รูปทางด้านนู้น…………

“ยิ้มหน่อยค่ะ เข้าใกล้กันอีกนิดนึง..………..

จนกระทั่งนภสรเดินถือหนังสือเล่มสีแดงที่ได้มาสดๆ ร้อนๆก่อนออกจากประตูสำนักงานเขต หลังจากรู้สึก ตัวก็รีบหันไปมองชายชุดดำผู้ลึกลับและดูมีเสน่ห์อย่าง ปองพล

“นายเต็มใจจะแต่งงานกับฉันใช่มั้ย?”

ปองพลสายตาจริงจัง ถามกลับไปอย่างรู้สึกสนใจ : “แล้วเธอบังคับฉันได้ด้วยเหรอ?”
นกสรสีหน้าแสดงถึงความสงสัย แต่เสียงกลับเย็น ชา : “นายรู้เหรอว่าฉันเป็นคนยังไง? เมื่อวานตอนอยู่ ที่ club beautiful night ที่คนพวกนั้นพูดเป็นเรื่องจริง ทั้งหมด แม่ฉันเสียชีวิตตั้งแต่ฉันเกิด พ่อฉันติดคุก ตอนม.ปลายฉันก็เคยทำแท้งมาก่อน!”

เธอพูดคำพูดพวกนี้ออกมาอย่างมีเจตนา อยากจะเห็น ใบหน้าที่ต่อให้ภูเขาพังทะลายอยู่ตรงหน้าก็ไม่สะทก สะท้านของเขา ว่าตอนมันสีหน้าเปลี่ยนมันจะเป็นยังไง

แต่ว่า เขามีเพียงแค่รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม บวกกับสีหน้าที่ มีสีดำเข้มลึกลับนั้น : “อย่างอื่นฉันไม่รู้ แต่ส่วนเรื่องที่ว่า เธอทำแท้งหรือเปล่านั้น ฉันรู้ดีกว่าคนพวกนั้นอีก”

พูดจบ มุมปากก็เผยยิ้มกว้างมากขึ้น

“นาย……… นภสรเริ่มเข้าใจที่เขาต้องการสื่อแล้ว สีหน้าเริ่มแดง

ปองพลมองดูสีหน้าที่อายจนทำตัวไม่ถูกของเธอ อย่างรู้สึกพึงพอใจ ยื่นแขนยาวๆออกไป โอบไหล่เธอ เอาไว้ : “ไปกันเถอะ คุณนาย ถึงเวลากลับบ้านแล้ว”

นภสรมองแขนของเขาที่อยู่บนไหล่ของเธอ ใบหน้า แสดงความไม่พอใจ : “เอาแขนนายออกไป!”

เธอไม่ชินกับการสัมผัสตัวกับคนแปลกหน้า ยิ่งถ้าเป็น เพศตรงข้ามที่ไม่คุ้นเคยยิ่งแล้วใหญ่
ปองพลไม่ได้คลายมือออก ออกแรงดึงเธอขึ้นรถของ นกสรไป

“นายขึ้นมาทำไม?” นภสรมองผู้ชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ ในรถกับเธอ เขายักคิ้วสวยๆคู่นั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

ปองพลโบกเล่มทะเบียนสมรสไปมา : “ก็ต้องกลับ บ้านเธอน่ะสิ”

เมื่อเห็นว่านภสรไม่พูดอะไร ปองพลก็เอนตัวลงมา อยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาแสดงถึงความเข้าใจทุกอย่าง : “หรือเธอคิดว่าที่ฉันยอมแต่งงานกับเธอก็เพียงเพราะ อยากได้หนังสือสมรสเล่มนี้อย่างเดียวงั้นเหรอ?

นภสรเอนตัวถอยไปข้างหลังเล็กน้อยอย่างรู้สึก ละอายใจ แผ่นหลังพิงกับหน้าต่างรถ เสื้อผ้าบางไป หน่อย จนเธอรู้สึกเริ่มหนาว

เธอไม่รู้ว่าทำไมปองพลถึงยอมตกลงเซ็นต์หนังสือ สมรสกับเธอ แต่เธอต้องการที่จะได้หนังสือสมรสเล่มนี้ มาก ไม่ได้อยากเป็นสามีภรรยากับเขาจริงๆ

แต่ว่า เมื่อได้เห็นแววตาที่จริงจังของปองพลแล้ว เธอทำได้แค่พูดโกหกไปอย่างหน้าไม่แดงใจไม่เต้น : “เปล่า”

“งั้นก็ดี”

ปองพลพูดไปพร้อมกับยกมือขึ้นมา ทำเหมือนจะลูบหัวเธอ แต่นกสรเอี้ยวตัวหนี ทำให้มือเขาลูบกลาง อากาศ

ปองพลดึงมือกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึงเล็กน้อย นกสรยิ้มมุมปาก เธอรู้สึกสะใจเล็กน้อย

เธอคิดอยู่ครู่นึง : “แต่งงานแล้วก็ควรจะไปอยู่บ้าน นายไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันไม่มีบ้านที่เมืองเมฆหรอกนะ” ปองพลหลับตา เบาๆ เอนร่างพิงไปข้างหลัง เสียงดูไร้อารมณ์ความรู้สึก ใดๆ

บ้านไม่มี รถก็ยืมของเขามา?

นภสรหันไปมองสังเกตปองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง เสื้อที่สวมอยู่บนตัวเขาดูไม่ออกว่าเป็นยี่ห้ออะไร แต่ ดูแล้วคุณภาพค่อนข้างดี แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของถูก แถมยังดูโดดเด่นในสายตาคนทั่วไป

ดูยังไงก็ไม่น่าจะจนขนาดนั้นนี่นา!

แต่ก็ดูไม่เหมือนคนกำลังพูดโกหก

สรุปว่า สามีสายฟ้าแลบของเธอคนนี้ จริงๆแล้วเป็น ผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงินไม่มีรถไม่มีบ้าน?

นกสรกัดฟันกรอด ไม่สนใจแล้ว ไม่ยากเกินกำลังที่เธอจะเลี้ยงเค้าไปสักพัก รอให้เธอได้ส่วนแบ่งหุ้นส่วน มาก่อน เธอก็จะขอหย่ากับเข้าทันที

นกสรพาเขากลับมาถึงอพาร์ทเม้นต์ส่วนตัวของเธอ

สองห้อนนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ เหมาะกับการอยู่คนเดียว หากอยู่ร่วมกันสองคนล่ะก็ อาจจะดูอึดอัดอยู่บ้าง

นภสรเปิดประตูเข้าไปด้านในก่อน เมื่อลองค้นๆดู ก็ เจอกับรองเท้าสลิปเปอร์ของผู้ชาย เธอจัดวางต่อหน้า ปองพลอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย : “ใส่นี่สิ!

ปองพลก้มหน้าลงมองรองเท้าสลีปเปอร์ของผู้ชายคู่ นั้นดู ก่อนจะเริ่มนึกขึ้นได้ช้าๆ ว่าเธอเป็นหญิงโสดตัวคน เดียว แต่กลับมีรองเท้าสลีปเปอร์ของผู้ชายไว้ในห้อง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ