ตอนที่ 2 ชนช่องปืน
ฉันยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าหวาดผวา จนถึงห้องออฟฟิศเปิด ออกมา เลขาพวกนั้นเดินออกมาอย่างเร็วๆ ทุกคนต่างก็หน้าม่อย คอตก ทำให้ฉันกลัวยิ่งขึ้น
ฉันคิดว่า เรื่องรายงานเลื่อนไว้ก่อนก็ไม่เป็นไร แต่เอกสารที่ ต้องรีบเซ็นใบ…….
“เอ่อ…..คุณเลขาพิมพ์ใจ”ฉันเดินไปหาพิมพ์ใจ เลขาที่ ประธานอนุสิทธิ์ให้ความสำคัญที่สุด ยิ้มประจบ “ผู้จัดการ อานนท์บอดว่ามีเอกสารใบหนึ่งต้องให้ท่านประธานเซ็นค่ะ
พิมพ์ใจเขม็งฉันและพูดว่า”เอาไว้คราวหลังเถอะ”
“แต่ผู้จัดการอานนท์บอกว่า ต้องรีบ…”
“งั้นเธอเข้าไปเองเลย”พิมพ์ใจ โบกมือ แล้วขมวดคิ้วกลับไป นั่งที่โต๊ะทำงานของตนเอง
โธ่เอ๋ย นี่จะบีบเอาคนตายหรือไง ฉันยืนอยู่ตรงกลางห้อง
ออฟฟิศเลขา มองไปยังพวกเลขาที่ก้มหน้าอยู่อย่างใจร้อน
พวกเขาทําเหมือนมองไม่เห็นฉัน ไม่มีใครมาช่วยเลย ฉันยืน อยู่พักใหญ่ สูบหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปถึงหน้าประตูของห้อง ออฟฟิศประธานและเคาะไป
ยังไงก็ต้องตาย โดนบอสต่าออกไปดีกว่าไม่ทำสักอย่างแล้ว โดนผู้จัดการอานนท์ว่าตั้งเยอะ
“เข้ามา
เสียงเย็นยะเยือกดังออกมา ฉันอดตัวสั่นไม่ได้ แล้วเปิดประตู เดินเข้าไปอย่างหัวแข็ง
“ท่านประธานอนุสิทธิ์ ฉันคือทิพย์สุดาของแผนกธุรกิจ ฉัน……
“ทิพย์สุดา”
ประธานอนุสิทธิ์ที่ยืนอยู่หน้าต่างหันตัวกลับมา อาทิตย์ผ่านหน้าต่างเข้ามา ส่องบนตัวเขาเหมือนชุบคลุมแสง
แสง
ให้เขา
ความสูง185ซม. รูปร่างสัดส่วนสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา
เหมือนแกะสลัก
ฉัน ใจลอยไปนิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าประธานอนุสิทธิ์คือผู้ชาย ที่หล่อที่สุดที่ฉันเคยเห็น หล่อกว่าวินัยของฉันด้วย
“ผู้จัดการของแผนกธุรกิจคงไม่ใช่เธอมั้ง”อนุสิทธิ์เดินเข้ามา วิเคราะห์ฉันไปมาและถามขึ้น
เขาเข้ามาอย่างกะทันหัน และยังพากลิ่นที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลก มาด้วย คือกลิ่นหญ้าที่ไม่รู้เคยได้ดมที่ไหนมา
“คือผู้จัดการอานนท์………..
“ในเมื่อคือผู้จัดการอานนท์แล้วเธอมาทำอะไร”อนุสิทธิ์พูดน้ำแสงเย็นชา
ฉันนึกถามฉันอยู่ เลย
ฉันเลยนะ พนักงานของฉันไปเรียนแบบรายงานข้าม ตำแหน่งมาตั้งแต่เมื่อไหร เสียงยังคงหรือว่าเธอตั้งใจจะมายั่วยวนฉัน
มือเขาแรง
เอ๋ย น่าใครยอมเข้าเข้ามาเท่ากับความชัดเลย
ท่านกับลอยตามผู้จัดการอานนท์ฉันเอกสารใบมาให้คุณ
เพื่อพิสูจน์ตนเอง ฉันยกจับเอกสารอยู่มาเขาดู อนุสิทธิ์ขมวดคิ้วยังคงจ้องมองฉันไม่มีอารมณ์
นี่เป็นอะไรกัน ฉันมองเขาอย่างหวาดกลัว ท่านประธาน
อย่าขยับเขาสั่ง แล้วมหัวหายใจที่ร้อนคอฉัน รู้สึกคันๆ ชาๆ
ไม่มีประสบการณ์ใกล้ชิดแบบนี้กับผู้ชายรู้สึกขาสองข้างอ่อนเพลีย เลยประธาน คุณจะอะไร
“ใช่เธอ เขาเงยหน้า ดวงตาดำมืดจ้องมองฉัน
“อะไร”ฉันรีบผลักมือของเขาออกไป สุดท้ายก็ได้หลุดพ้น จากมือที่แข็งราวกับเหล็กของเขา ถอยไปสองก้าว มองเขาอย่าง ระมัดระวัง
เขาหน้ามืดลง “ทิพย์สุดา เมื่อคืนเธออยู่ที่ไหน ”
“ฉันหรอ”
ไม่เข้าใจว่าประธานอนุสิทธิ์จู่ๆถามแบบนี้มาทำไม รู้สึกว่าถ้าไม่ตอบความจริงไป ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
แต่ฉัน
ไม่ได้คิดมาก ฉันรีบตอบไป”ฉัน เมื่อวานฉันกับสามีฉลองการ แต่งงานครบรอบหนึ่งปี
“เธอแต่งงานแล้ว” ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของอนุสิทธิ์มีความ
ตกตะลึงแวบไป
ฉันพยักหน้า” ใช่ค่ะ ฉันแต่งงานมาหนึ่งปีแล้ว “งั้นไม่ใช่เธอ” อนุสิทธิ์พูดด้วยเสียงต่ำ
ฉันไม่เข้าใจเขาหมายความว่าอะไร แต่รู้สึกว่าเขาไม่ได้โกรธ มากแล้ว เลยรวบรวมความกล้ายื่นเอกสารในมือไปให้เขาท่าน ประธานอนุสิทธิ์ ผู้จัดการอานนท์ให้ฉันมารายงานกับคุณ และ เอกสารใบนี้ต้องการให้คุณเซ็นชื่อด้วยค่ะ ”
อนุสิทธิ์รับไปแล้วอ่านคร่าวๆ และรีบเซ็นชื่อแล้วโยนให้ ฉัน”หากพนักงานเล็กๆทุกคนต้องมารายงานกับฉันหมด งั้นพวกผู้จัดการที่ฉันใช้เงินเยอะๆจ้างมาก็ต้องไล่ออกหมดเลย ออก ไป”
โธ่เอ๋ย นิสัยของบอสนี่แปลกประหลาดจริงๆ ฉันหน้าซีดขึ้น และตอบรับไป แล้วก็วิ่งออกห้องออฟฟิศประธาน
พอออกมา ตาหลายคู่ก็จ้องมองมาที่ฉัน
ฉันหยุดชะงัก แล้วฝืนยิ้มให้พิมพ์ใจ “คุณเลขาพิมพ์ใจ ฉันเซ็น ชื่อเรียบร้อยแล้ว ลงไปก่อนนะ”
“อิ่มพิมพ์ใจอาจจะดูออกว่าฉันก็โดนด่าไปใหญ่ เลยพยัก หน้าอย่างเห็นใจ
นั่งลิฟท์ลงไปกลับถึงแผนกของตนเอง ฉันเอาเอกสารใบนั้น ให้ผู้จัดการอานนท์ เขาอ่านดูแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ “ทิพย์สุดา เอทํางานได้ดีมาก ทีหลังต้องพยายามต่อนะ”
เมื่อกี้ยังบอกว่าฉันมีปัญหาในด้านธุรกิจ แล้วตอนนี้กลับมาบ อกว่าฉันทํางานได้ดีแล้ว เขาอยากหาคนไปชนช่องปืนมากกว่า
ฉันพูดปราศรัยกับเขาไปกคำแล้วก็ออกไป
โดนผู้จัดการอานนท์หลอกใช้ ฉันรู้สึกไม่พอใจมาก เลยอ้าง ไปทำธุระนอกบริษัทเพื่อไปเที่ยว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ