บทที่6 ผิดที่ผิดทาง
ถือโอกาสช่วงที่ซุนโสงกำลังเฟลิร์ตกับผู้หญิงคนอื่นอยู่หลินเถา เยารีบรวบกระโปรงตัวเองแล้วสาวเท้าหนีไปยังห้องน้ำ เธอรู้ดีว่า หลังจบงานเลี้ยงเธอจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง ดังนั้นเธอ อยากระบายอารมณ์บ้าง จึงพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองหนี
แต่ทันทีที่เธอโผล่หน้าเข้าไปในห้องน้ำ ภาพตรงหน้าทำเอา เธอตกใจอย่างแรง ผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดทักซิโด้ส่วนอีกคนสวม สูทสีดำยืนเรียงแถวต่อกันทั้งยังหันหน้าเข้าหาผนังที่เป็นกระ เบื้องสีขาว และหันหลังให้เธอ รู้ดีว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เพียงแต่หลินเถาเยาสับสนเหลือเกิน อีกทั้งยังไร้เดียงสานัก เธอ ไม่รู้โครงสร้างของห้องน้ำชาย ดังนั้นจึงตอบสนองไปตามกลไก ธรรมชาติของร่างกาย หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตระหนัก
ชายหนุ่มทั้งสองเมื่อได้ยินเสียงร้องก็หันหน้ามาพร้อมกัน มือ ของพวกเขายังอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน บรรยากาศรอบตัวเริ่ม อึดอัด ทุกอย่างพลันเงียบลง หลังจากโดนจ้องเป็นเวลาสาม วินาที ชายหนุ่มคนหนึ่งก็กรีดร้องแล้วยกมือขึ้นปิดหน้าอก
หลินเถาเยาเองก็ตกใจ เมื่อครู่เธอเห็นอะไรไปบ้าง? พระเจ้า มันคืออะไร? สมองดื้อๆของเธอเห็นหน้าของเจ้าของไอ้นั่นแล้ว จึงปิดตาแล้วกรีดร้องออกมา เธอมันซื่อบื้อจริงๆ เข้าห้องน้ำผิด จริงๆด้วย! ทั้งสองกรีดร้องออกมา เหลือเพียงช่างซิวจื้อที่ยังนิ่ง สงบแล้วรูดซิปขึ้นมา นึกสงสัยที่ทั้งคู่กรีดร้อง ทั้งยังประหลาดใจที่ทำไมเข้าห้องน้ำผิดแล้วยังไม่ยอมออกไปแล้วอีกคนก็ยังไม่ ยอมรูดซิปสักที?
หลังจากที่หลินเถาเยากรีดร้องเสร็จแล้ว เธอแอบเปิดตาดูผ่าน ช่องว่างระหว่างนิ้ว จากนั้นก็ถามผู้ชายคนที่ร้องออกมาเสียงเบา ว่า “เอ่อ คุณคะ… คุณผิดที่รึเปล่าคะ?” ว่าแล้ว เธอก็ชี้นิ้วตรงที่ เขาเปิดโล่งโจ้งไว้
ผู้ชายคนนั้นชะงักไป แล้วร้องไห้ด้วยความเสียใจคล้ายถูก ขืนใจ ชนไหล่ของหลินเถาเขาอย่างแรงไปที่หนึ่งแล้วเดินออกไป จากห้องน้ำอย่างอับอายระคนขุ่นเคือ
หลินเถาเยารู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายคนเมื่อร้องอย่าง น่าอนาถกว่าเมื่อครู่ เธอไม่ได้พูดอะไรผิดไปนี่ ก็เขาเข้าห้องน้ำ ผิดจริงๆนี่นา ก็เขาเอามือปิดผิดจุดจริงๆ ใครจะบ้าเอามือบังอก กันเล่า?
เวลานี้ช่างซิวจือที่ไม่ได้มีท่าทียิ้มแย้ม เขาเอามือดันกำแพงไว้ อีกมือก็กุมท้องตัวเองแล้วระเบิดหัวเราะออกมา
ผู้หญิงคนนี้… น่าสนใจจริงๆ กล้าพูดออกมาได้หน้าตาเฉยว่า ปิดผิดที่ น่ารักแบบใสๆจริงๆ
หลินเถาเยาเพิ่งตระหนักว่าในห้องน้ำยังมีผู้ชายอีกคนที่เพิ่ง ถูกเธอปฏิเสธไปเมื่อครู่อย่างช่างซิวจื่อ เธอมองรอยยิ้มของเขา ในใจมีความรู้สึกว่าถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง มีสิทธิ์อะไรที่ผู้ชายจะ เกิดมาหน้าตาดีกว่าผู้หญิง? เขามีสิทธิ์อะไรที่ยิ้มได้สดใสขนาด นี้? แต่เวลาที่เธอยิ้มถ้ายืมคำพูดของถังหน่วนเวยมาก็คงต้องบอกว่าเห็นฟันทุกอย่างน่าเกลียดละมั้ง? ผู้หญิงกับผู้ชายที่ต่าง กันขนาดนี้เลยเหรอ? ผู้ชายหน้าสวยกับผู้หญิงธรรมดาๆแตก ต่างกันขนาดนั้นเชียว
หลินเถาเยาอับอายจนอยากเอาหัวตัวเองโขกกับผนัง
“นี่คุณ… อย่าหัวเราะสิ!” ถูกซ่างซิวจื้อหัวเราะเยอะเข้าก็เกิด โมโหขึ้นมา หลินเถาเยาที่ทนมาตั้งนานกลับพูดออกมาได้แค่ ประโยคเดียวที่คิดว่าดูดุดันที่สุดแล้ว
“ก็มันตลกนี้… ทำไมจะหัวเราะไม่ได้?” ช่างซิวจื่อหัวเราะจน
น้ำตาไหล รอยยิ้มที่มุมปากยังไม่จางหาย
“โดนคนอื่นเห็นเข้า… คุณคิดว่ามันน่าสนุกนักหรือไง?” หลิน เถาเยารู้สึกขัดเขิน เธอคิดไม่ออกว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้หน้า หนาขนาดนี้
ช่างซิวจื้อมีสีหน้าไม่แคร์ เขาเดินหน้าดันหลินเถาเอาไปติด กำแพง มองเธออย่างยั่วเย้า “ก็ผมไม่ได้ถูกผู้หญิงเห็นเป็นครั้ง แรกนี่ คุณเองก็คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นของผู้ชายหรอกมั้ง ไม่เห็น ความจําเป็นต้องเสแสร้งอะไรเลย?”
หลินเถาเขาพูดอะไรไม่ออก คิดคำพูดโต้แย้งเหล่านั้นไม่ได้ เลยสักนิด ทำได้เพียงมองเขาหน้าแดงก่ำ แต่ก็ทิ้งตึง หรือจะให้ เธอพูดออกไปว่าฉันเองก็ไม่ได้เห็นของคุณครั้งแรก ก่อนหน้านี้ เราก็เคยเห็นของกันและกันมาก่อนแล้วนี่? คำพูดพวกนั้นน่ะ แน่นอนว่าเธอย่อมพูดไม่ออก
ช่างซิวจื่อเห็นเธอโกรธจนหน้าแดง ก็ยิ่งอยากแหย่ หรือว่านี่เป็นครั้งแรก?เหอะ ผู้หญิงยกซุนโสงเป็นพ่อบุญธรรม เกรง ว่าประสบการณ์บนเตียงคงจะโชกโชนกว่าเสียอีกกระมัง
หลินเถาเยาอดกลั้นไม่ใช่”
“งั้นก็ดีใช่เหรอช่างซิวจื้อถอยตัวออกจากหญิงสาว เห็นว่าเธอยังยืนอยู่เดิม จึงหัวเราะ ทำไมครับ อยาก ปลดปล่อยตัวเองอยู่ในห้องน้ำชายนั้น
หลินเถาได้สติมา รีบรวบกระโปรงตัวเองหนี จากตรงแต่เมื่อถึงหน้าประตูกลับอะไรกลับไปกระซิบกระซาบอยู่ใหญ่ ช่างจื้อจึงถามมา คุณ เลี้ยงดูฉันไหม”
ช่างซิวจื่อตาสงสัยสำรวจหลินเถาเขามาสามรอบ ดวงตาเข้มค่อยทอประกายโกรธเคือง ผู้หญิงคนนี้ทำไมหน้าด้านขนาดนี้ ได้ ยางอายที่สุด?
รอยยิ้มช่างซิวเปลี่ยนเป็นรอยพริบตา ถ้าเป็นเพื่อนของช่างซิวจื่อใครได้เห็นรอยเช่นนี้จะรีบพากันหลบให้ไกล เพราะหมายถึงเขากำลัง โกรธ โกรธมากด้วย
“ทำไม ซุนโสงทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด เลยกะจะหาคนดูหน่อย งั้นน้ำเสียงของช่างจื่อตาที่เหมือนกำลังมองการละเล่นในคณะละครสัตว์
หลินเถาเขาก้มหน้าลงไม่เอ่ยอะไร ช่างซิวซื้อพูดถูก เธอคิด
เช่นนั้นจริงๆ ในเมื่อขายแล้วก็ควรต้องเป็นคนที่ดีหน่อย ท่าทาง กัดปากของเธอทำให้ช่างซิวจื่อรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาอย่าง ประหลาด แต่พราะความดูถูกจึงบดบังความสงสารเสียหมด เขา เห็นเธอไม่พูดอะไร ในใจก็ยิ่งทวีความโกรธ
“เธอมีสิทธิอะไรคิดว่าฉันจะเลี้ยงดูเธอ?” ช่างซิวจื่อถาม
หลินเถาเยาส่ายหน้าอย่างตื่นตกใจ เธอไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมถึงพูดอะไรแบบนี้ออกมา อาจเป็นเพราะมือปลาหมึกของ ซุนโสงที่ทำให้เธอตกใจ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเธอไม่เต็มใจ จึงทำให้เธอมีความหวังต่อช่างซิวจื้อ ถ้าหากว่าเขารีบได้ แน่นอนว่าไม่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าไม่ได้แล้ว ก็แค่เลี้ยงเธอ เหมือนเมื่อตอนเริ่มแรกก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
“งั้นเธอมีสิทธิอะไรคิดว่าฉันมีเงินขนาดจะเลี้ยงดูผู้หญิงได้?” หลินเถาเขาเงยหน้าขึ้นมองช่างซิวจออย่างตื่นตระหนก
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำพูดดูถูกของเขามีผลต่อ หลินเถาเขาแค่ไหน เขารู้เพียงว่าลูกสาวบุญธรรมคนนี้คงเป็น ข้าวจืดชืดสำหรับบ้านนี้ไปแล้ว รสนิยมของเขายังไม่ตกต่ำขนาด นั้น ถึงแม้จะผ่านผู้หญิงมามาก ไม่เคยขาดคู่ขา แต่ว่าอย่างน้อยผู้ หญิงแบบนี้ก็ไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้อย่างเปิดเผย เป็นลูก บุญธรรมของคนที่มีเมียแล้ว
“เธอสามารถยอมแลกร่างกายเพื่อเงินได้แล้วยังอยากจะยก ระดับตัวเองอีก?” ช่างซิวจอสาวเท้าเข้าไปใกล้อีกหนึ่งก้าว หลินเถาเยาเห็นท่าที่คุกคามของเขาแล้วก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แผ่น หลังสัมผัสถึงความเย็นจากกำแพง ดวงตาใสบริสุทธิ์มองช่างซิว ซื้ออย่างระทึก ราวกับกำลังถามเขาว่าพูดแบบนี้เพื่ออะไร
“คุณหลินเถาเยาใช่ไหม?” รอยยิ้มที่มุมปากช่างซิวจื้อยังไม่ จางหายแล้วก็ยิ่งกดยิ้มลึกขึ้นไปอีก “ผมคิดว่า โสเภณียังมีเกียรติ ยิ่งกว่าคุณเสียอีก อย่างน้อยพวกเขาก็รู้สถานะตัวเองดี ใช้ ร่างกายเข้าแลก ไม่คิดเป็นเมียน้อยแถมยังอยากได้เกียรติอะไร ด้วย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ