บทที่ 15 ถึงเวลาที่เธอต้องไปทำงานที่บริษัท
เธอดูเหมือนจะเข้าใจในคำพูดของคุณท่าน ยังไงก็แต่งงานเข้า มาอยู่บ้านเขาแล้วก็ต้องทำหน้าหน้าที่ศรีภรรยาให้สมบูรณ์ซึ่ง เธอก็เข้าใจดี
“ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” เธอพยักหน้าสองสามครั้งและยิ้มอย่างเชื่อ
“อืม”
คุณท่านค่อยๆยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบเบาๆ จากนั้นก็วางลง
พลางพูดว่า
“ตอนนี้เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของ พ่อเธอนะ เดี๋ยวตระกูลโม่จะจ่ายให้ เมื่อเธอเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ แล้ว เธอจะไม่เสียผลประโยชน์เลยซักบาท แต่เธอต้องรีบไปลา ออกจากงานอย่างว่านั้นซะ อย่าทำให้ตระกูลโม่ต้องเสื่อมเสียชื่อ เสียง”
ฟังตอนแรกก็ดีอยู่หรอก จนกระทั่งสองประโยคสุดท้าย ทำให้ ให้หานก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ทำไมฉันถึงต้องลาออก? ฉันก็ต้องมีงานทำ ฉันไม่อยาก พึ่งพาพวกคุณไปตลอดนะ”
ระยะเวลาที่ตกลงกันแค่สองปี ถ้าหลังจากสองปีเธอกลายเป็น กาฝากนั่งงอมืองอเท้าสบายๆแล้วจะทำอย่างไร คุณท่านขมวดคิ้วเล็กน้อย คิ้วสีเทาๆของเขาแสดงท่าทีอย่างเอาจริงเอาจัง “ผู้ หญิงที่แต่งงานแล้วแบบเธอมันสมควรที่จะไปสถานที่อโคจรผับ บาร์แบบนั้นไหม แล้วถ้าต่อไปเกิดมีลูกขึ้นมาจะทำอย่างไร เรื่อง งานเดี๋ยวฉันจะเป็นคนจัดการให้เธอเอง เดี๋ยวถึงเวลาเธอก็ไป ทํางานที่บริษัท ไปเป็นผู้ช่วยให้ถึงเซียน ไปคอยช่วยเขา
ให้หานได้ยินดังนั้นเธอก็ตกตะลึง
อะไรนะ? นี่เธอจะต้องไปทำงานใกล้ชิดกับโม่ถึงเซียนเห
รอ?
“คุณปู่คะ เขาจะยอมเหรอคะ”
ในหัวของโห้หานเต็มไปด้วยภาพของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอ ความรังเกียจเมื่อคืน
จะให้เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาได้อย่างไร
มองไปทางไหนก็มืดมนไปหมด ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองเลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“เธอเป็นภรรยาของเขานะ เขาจะไม่ยอมได้ยังไง
คุณท่านท่าทางดูจริงจัง ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องถูกต้องตาม ธรรมเนียม
ให้หานทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ถอนหายใจลึกๆ ดูที่ท่านพูด ตามนั้น ไว้รอดูก็แล้วกัน
ผับบาร์โรงแรมพวกนั้นมันไม่เหมาะสำหรับเธออีกต่อไป เป็นแหล่งมั่วสุมมอมมอนผู้คน
“ค่ะ วันนี้ฉันจะเข้าบริษัทไปลาออก ตามที่คุณท่านบอกค่ะ”
“อืมม” คุณท่านมองเธออย่างพอใจ
เช็คเงินที่อยู่ในมือมันทำให้คนร้อนรนได้ ถือไว้เกรงว่าจะ ควบคุมตัวเองไม่ไหว
ให้ทานหันมองสีหน้าของคุณท่านที่ดูสดใสอย่างชัดเจน ใบหน้าที่แดงระเรื่อ อิ่มเอมมีความสุข
เธอยิ้มบางๆพลางพูดว่า “ถ้างั้นเชิญคุณมีความสุขกับการ จิบชายามเช้าตามสบายนะคะ หนูขอตัวออกไปข้างนอกก่อน”
เธอหยิบเช็คในมือเธอขึ้นมาเล็กน้อย
คิ้วสีเทาหม่นๆของคุณปู่ยกขึ้นเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจแล้ว “ได้
ไปเถอะ”
ให้หานเดินไปถึงประตูก็ได้ยินเสียงมาจากในบ้าน “ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปถือว่าเธอเป็นหลานสะใภ้ของตระกูลโม่แล้ว จะต้องฟัง และทำตามคำสั่งจากตระกูลโม่เท่านั้น
เธอยิ้มด้วยสีหน้าเจื่อน แล้วพูดว่า “ทราบแล้วค่ะคุณปู่
หลังจากที่เธอเดินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลโม่ เธอก็ตรงดิ่ง ไปโรงพยาบาลเพื่อนำเช็คไปจ่ายให้คุณหมอ
จากเรื่องไม่คาดคิดครั้งที่แล้วทำให้เธอยังรู้สึกช็อคอยู่ ครั้งนี้เธอจึงต้องยนเช็คให้คุณหมอด้วยมือของเธอเอง เธอถึงจะมั่นใจ
เมื่อเงินถูก โอนเรียบร้อย การผ่าตัดก็เริ่มขึ้นทันที
มันเป็นการรอคอยที่แสนจะยาวนาน เธอเดินวนไปวนมารอบๆ
โรงพยาบาลเป็นสิบๆรอบ
ตัวหนังสือสีแดงที่สว่างมาจากห้องผ่าตัดมันช่างสะดุดตา เหลือเกิน เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าเธอจะต้องทนทรมานต่อไป
ในที่สุดความกระวนกระวายใจนั่งไม่ลงกว่าสามชั่วโมงก็ได้
สิ้นสุดลงเสียที
การผ่าตัดสําเร็จเป็นอย่างดี
ขณะที่เดินออกมาจากห้องผ่าตัด บังเอิญว่าหัวหน้าทีมผ่าตัด
เป็นคุณหมอหลินพอดี
เมื่อเห็นให้หานก็อดประหลาดใจไม่ได้
“เธอไปหาเงินสามแสนมาจากไหน เงินไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย นะ”
หญิงสาวที่ยืนอยู่ที่กำแพง เดินปรี่เข้ามาอย่างดีใจ หลังจากที่ ได้ยินคำถามนั้นสายตาเธอก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งเฉย
ครู่เดียว เธอก็ค่อยๆยิ้มอ่อนๆออกมา “ยืมเพื่อนมา เขามีพอดี ก็เลยไปขอร้องเขามา”
คุณหมอหลินก็ดูสดใสขึ้นมาทันที “อ้อ มิน่าล่ะ ฉันก็ว่าคุณจะ ไปหาเงินเยอะขนาดนี้มาจากไหนแค่ช่วงเวลาแป๊บๆ ไม่ต้องกังวลนะ ไม่มีอะไรแล้ว การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นดี ไม่จ่าย เงินไปฟรีๆหรอก”
“ดีแล้วค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณ…..
ให้หานหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมริมฝีปากบางๆ คลี่ยิ้มมุมปากที่ แสดงความรู้สึกขอบคุณ แววตาเป็นประกายวิบวับจนไม่ สามารถละจากเธอได้เลย
ด้านข้างของคนๆหนึ่งที่คุ้นเคย ทำให้เธอตะลึง
เป็นอะไรไปเหรอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ