หลงรสสวาทเมียล้างหนี้

บทที่ 1



บทที่ 1

โครม! เพลง!

“กรี๊ดดด…

เสียงข้าวของภายในห้องรับแขกตกแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี เพราะฤทธิ์การอาละวาด ตามด้วยเสียงร้องกรี๊ดจนแสบแก้วหู ของคุณหนูเจ้าอารมณ์ ที่หวีดตะคอกดังลั่นเพราะโกรธจัด

“ลีน่าไม่ยอม ลีน่าไม่ยอมแต่งงานกับไอ้พ่อเลี้ยงบ้านนอกคน นั้นเด็ดขาด”

“ลีน่า ใจเย็นๆ ก่อนลูก นั่งลงคุยกันก่อนนะลูก”

นวลพรรณ ผู้เป็นมารดาเข้าไปโอบกอดร่างบางที่กำลังสั่นเทา เพราะความโกรธจัด พร้อมกับเอ่ยปลอบ หวังให้ลูกสาวทำตาม คําพูดของตนเอง

“ไม่นั่ง คุณแม่ไม่ต้องมายุ่งกับลีน่า…น่าขอบอกตรงนี้เลยว่า ลีน่าไม่ยอมแต่งงานกับไอ้พ่อเลี้ยงที่มีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย ไม่ยอมแต่งงานกับพ่อเลี้ยงจนๆ ไร้รสนิยม วันๆ เอาแต่จมปลัก อยู่แต่กับวัวกับควายที่เขาเลี้ยงไว้เป็นฝูง

ขณะตะคอกปฏิเสธเสียงห้วน โกรธจนหน้า หน้าแดง อลีน่า ก็สะบัดตัวหนีให้พ้นจากอ้อมแขนของมารดา เท่านั้นยังไม่พอ ยัง ผลักมารดาให้ถอยห่างจากตนเองด้วย
“พ่อเลี้ยงไม่ได้เป็นเหมือนที่ลีน่าพูดเลยนะลูก” ผู้เป็นมารดา พยายามหว่านล้อมลูกสาว “คุณแม่ไม่ต้องมาโกหก คนบ้านนอกแบบนั้น จนก็จน ไม่รู้ อ่านออกเขียนได้ หรือได้เรียนหนังสือหรือเปล่า” อลีน่าดูถูก

ดูแคลนว่าที่เจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน

“พ่อเลี้ยงเรียนจบปริญญาเอกด้านสัตวแพทย์มาจากอเมริกา มีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์เลยนะลีน่า”

“ฮี! คนจน คนบ้านนอก จะมีปัญญาไปเรียนถึงเมืองนอกเมือง

นาด้วยหรือคะ แล้วใบปริญญาที่ได้มา เขาซื้อมาหรือเปล่าคะ ผู้เป็นมารดาเอ่ยพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกอลีน่าเอ่ยขัด เค้น

เสียงดูถูก ดูแคลนคนที่กำลังตกเป็นหัวข้อการสนทนาในขณะนี้

“พ่อเลี้ยงเขาไม่ได้ซื้อใบปริญญามาหรอกลูก พ่อเลี้ยงเรียนจบ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ใช่ว่าจะสอบเข้าไปเรียนกันได้ ง่ายๆ”

นวลพรรณเอ่ยบอกประวัติพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของฟาร์มเลี้ยงวัว พันธุ์เนื้อที่ดี และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ไม่ว่าผู้เป็นมารดา จะหว่านล้อม นำเสนอคุณสมบัติอันดีเลิศเพียงใด อลีน่าก็ไม่คิด จะทำตามคำสั่งของมารดา

“พอแล้วค่ะ คุณแม่ ไม่ต้องมาสาธยายถึงความดี ความชอบ ของพ่อเลี้ยงคนนี้ให้ดีน่าฟัง ยังไงๆ ลีน่าก็ไม่แต่งงานกับเขา ลีน่า ไม่เอาชีวิตทั้งชีวิตไปจมปลักอยู่กับพ่อเลี้ยงบ้านนอกหรอกค่ะ”
“แต่แกต้องแต่ง! นี่คือคำสั่ง ได้ยินไหม ลีน่า”

ปกรณ์ ผู้เป็นพ่อมีสีหน้าเคร่งเครียด ขณะส่งเสียงเข้ม หลังจาก นั่งฟังลูกสาวโวยวายเป็นเวลานานแล้ว และเสียงตวาดของบิดา ทำเอาอลีน่าต้องวิ่งตามองด้วยความไม่พอใจ

“คุณพ่อ! ลีน่าไม่แต่งค่ะ”

อลีน่ายังคงปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม พร้อมกับตีหน้าบึงตึง จ้องมองบิดาเขม็งอย่างไม่มีเกรงกลัวกับคำสั่งของท่าน

“ลีน่าต้องแต่ง ถ้าอยากมีที่ซุกหัวนอน มีรถยนต์หรูๆ ขับ มีเงิน ให้แกจับจ่ายใช้สอยไม่หยุดมือ แกต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยง

คำพูดของผู้เป็นพ่อ ทำเอาอลีน่าต้องขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง

เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“คุณพ่อหมายความว่ายังไงกันคะ ทำไมถึงพูดว่าเราจะไม่มีที่ ซุกหัวนอน”

สีหน้าของปกรณ์เต็มไปด้วยริ้วรอยของความทุกข์ ส่วนนวล พรรณก็มีสีหน้าไม่ย่ำแย่ไปกว่าสามี ยังตาแดงมีหยาดน้ำตา เอ่อคลอเบ้าด้วย

“คุณแม่ ร้องไห้ทำไมคะ บอกลีน่าว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับ ครอบครัวของเรา” อลีน่าเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อไม่ได้รับคำตอบ สักที

ผู้เป็นพ่อถอนหายใจยาว ยอมปริปากบอกพูดถึงสถานการณ์ อันเลวร้ายของครอบครัว หลังจากปิดบังไว้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว

“เราเป็นหนี้พ่อเลี้ยงตริน ยี่สิบล้าน

“ยี่สิบล้าน!” อลีน่าร้องเสียงหลงหลังจากได้ยินจำนวนเงินมาก

โข

“ใช่ลูก”

ผู้เป็นพ่อเอ่ยพูดไม่ทันจบประโยค อลีน่าก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอีก หนอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย

“คุณพ่อเอาเงินมาทำอะไรตั้งมากมายคะ ถึงได้เป็นหนี้หัวโต ขนาดนี้”

“พ่อจะเอาเงินมาทําอะไร ถ้าไม่ใช่เอามาให้แกกับแม่ของแก

ถลุงเล่น” ปกรณ์ตอบเสียงห้วนระคนโกรธกริ้ว หลังจากถูก

ลูกสาวตำหนิคิดว่าเป็นความผิดของท่านแต่เพียงผู้เดียว

“แกคิดว่าเงินที่แกเอาไปซื้อรถสปอร์ตมาขับโฉบไปโฉบมา พ่อเอาเงินมาจากไหน เงินที่แกเอาไปซื้อเสื้อผ้า เครื่อง

สําอาง รองเท้าราคาเป็นหมื่นๆ ก็เป็นเงินที่พ่อเอามาจากพ่อ เลี้ยงตรินทั้งหมด”

พอถูกบิดาพูดแทงใจดำ ทำเอาอลีน่าถึงกับนิ่งเงียบไม่กล้า เถียงแม้แต่คำเดียว ทำได้แต่กัดปาก กำมือแน่นด้วยความขัดใจ

ทางด้านของผู้เป็นพ่อ ยิ่งคิดถึงเรื่องหนี้สินที่ถูกเจ้าหนี้เร่งรัด มาหลายวันแล้ว ก็ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ ผุดลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยบอกต่อ

“ตอนแรกพ่อเลี้ยงตรีนให้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่! เรา ต้องเอาโฉนดที่ดินไปไว้กับพ่อเลี้ยง

“คุณพ่อเอาโฉนดที่ดินไปไว้กับพ่อเลี้ยงบ้านนอกคนนี้ตั้งแต่ เมื่อไรคะ” อลีน่าเอ่ยถามออกมาได้ หลังจากนิ่งเงียบไปนาน หลายนาที

“เกือบห้าปีได้แล้ว”

“ทำไมคุณพ่อทำแบบนี้” อลีน่าตวาดถามด้วยความไม่พอใจ

“แล้วแกจะให้พ่อทำยังไง มีธนาคารไหน สถาบันการเงินไหน บ้างที่จะให้ยืมเงินยี่สิบล้านโดยไม่เอาดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว

ปกรณ์ตวาดกลับ ทําเอาอลีน่านิ่งเงียบในทันที เพราะที่บิดา พูดมานั้นล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น สถาบันการเงินแห่งไหนจะโง่ ปล่อยกู้โดยไม่เอาดอกเบี้ยเลย

“พ่อเลี้ยงตนไม่เอาดอกเบี้ย เขาแค่เงินต้นคืนเท่านั้น

“คุณพ่อก็ให้เงินเขาไปสิค่ะ จะต้องคิดมากทำไมกัน

อลีน่าไม่รู้สถานการณ์ทางด้านการเงินของครอบครัว จึงรีบ เอ่ยบอกบิดาไปเช่นนั้น แต่แล้วก็ต้องหุบปากสนิทกับคำพูดของ บิดาในประโยคต่อมา

“จะให้พ่อเอาเงินจากไหนไปให้พ่อเลี้ยงตริน ตอนนี้เงินใน บัญชีกองกลางมีไม่ถึงหมื่น แทบจะไม่พอใจในทุกวันนี้ด้วยซ้ำไป”

“ไม่ถึงหมื่น?”

อลีน่าร้องเสียงหลง ไม่ได้ห่วงครอบครัวมากกว่าห่วงความสุข สบายของตัวเอง ขณะโวยวายต่ออย่างหัวเสียว่า

“แล้วน่าจะเอาเงินจากไหนไปเที่ยวอิตาลีกับเพื่อนๆ ล่ะคะ น่านัดกับเพื่อนไว้แล้ว พวกเขากำลังจะจองตั๋วเครื่องบิน จอง โรงแรม ถ้าคุณพ่อไม่มีเงินให้ลีน่าไปเที่ยว ลีน่าก็ขายหน้าเพื่อน แย่”

“ไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องไป บ้านกำลังจะถูกยึด เงินไม่มีซื้อข้าวสาร กรอกหม้อ แกยังมีกะจิตกะใจไปเที่ยวอีกหรือ ลีน่า! พ่อไม่มีเงิน ให้แกเอาไปถลุงเล่นแล้ว ได้ยินไหม

ปกรณ์ตวาดกลับ ก่อนจะวกมายังเรื่องคอขาดบาดตาย ที่เขา กำลังเครียดปวดหัวแทบระเบิด และคิดไม่ตกว่าจะแก้ไขปัญหา อย่างไร

“พ่อเลี้ยงตรินต้องการเงินต้นคืนทุกบาททุกสตางค์ ถ้าเราไม่มี เงินไปให้เขา…เขาจะยึดบ้านของเรา คราวนี้แกจะเอาที่ไหนซุก หัวนอน”

“คุณพ่อ คุณแม่ก็คิดสิคะ คิดหาทางออกกับเรื่องนี้

อลีน่าสั่งเสียงเข้ม กำลังหงุดหงิดเรื่องที่ตนเองจะไม่ได้ไปเที่ยว ยุโรปกับเพื่อนๆ กลุ่มไฮโซ ที่รับปากกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่า จะเดินทางในอีกเจ็ดวันข้างหน้านี้
“ทางออกอยู่นี่ไง ลีน่า พ่อเลี้ยงตนต้องการหลาน และ ต้องการให้ลีน่าแต่งงานกับลูกชายของเขา แล้วพ่อเลี้ยงตนจะ ยกหนี้สินให้กับพวกเรา”

เมื่อบิดาวกกลับมาเรื่องแต่งงานกับพ่อเลี้ยงบ้านนอกอีกหนอ ลีน่าถึงกับเต้นแรงเต้นกา กรีดร้องโวยวายตอบเสียงดังลั่นห้อง

“แต่งงานใช้หนี้? กรี๊ดดด ลีน่าไม่แต่งเด็ดขาด ลีน่าไม่เอาไอ้ บ้านนอกเนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นสาบวัวมาเป็นตัวแน่ๆ บอกตาม ตรงค่ะว่าลีน่าเอาไอ้พ่อเลี้ยงบ้านนอกคนนั้นมาเป็นผัวไม่ลง

“ดี ถ้ายังงั้นก็ปล่อยให้เขายึดบ้านไป จากนั้นเราก็ไปเช่าห้อง เล็กๆ อยู่ด้วยกัน” ผู้เป็นพ่อประชดกลับ ใบหน้าแดงเพราะความ โกรธจัด

“ทำไมต้องให้ลีน่าแต่งงานใช้หนี้ด้วย ทำไมไม่หาเงินด้วยวิธี อื่นเพื่อไปใช้หนี้ให้เขา คุณพ่อ คุณแม่ไปยืมเงินคนอื่นมาใช้หนี้ พ่อเลี้ยงดรินสิคะ”

“ลีน่า!” ผู้เป็นพ่อตวาดเสียงดังกับความคิดตื้นๆ ของลูกสาว “จะให้พ่อมากหน้าไปยืมเงินใคร ตอนนี้พวกเพื่อนๆ เขารู้กันทั่ว ว่าพ่อถังแตก ใครจะกล้าให้ยืมเงิน อย่าว่าแต่ให้ยืมเลย แค่ไป ขอพบ พวกเขายังปฏิเสธไม่ยอมให้พอเข้าไปพบเลย แล้วแกคิด หรือว่าพ่อจะยืมเงินนับสิบๆ ล้านจากพวกเขาได้”

“ถ้ายังงั้นคุณพ่อก็คิดหาวิธีอื่นสิค่ะ”

“พ่อบอกไปแล้วว่า พ่อเลี้ยงตนต้องการหลาน และต้องการ ให้ลูกสาวของพ่อแต่งงานกับลูกชายของเขา เพื่อเป็นการล้างหนี้สินทั้งหมด”

พอบิดาเอ่ยบอกถึงความต้องการของพ่อเลี้ยงตริน และนั่น ก็ทำให้อลีน่าฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ในทันที ก่อนจะเสนอความคิด กับบิดาว่า

“พ่อเลี้ยงตรินอยากให้ลูกสาวของคุณพ่อแต่งงานกับลูกชาย ของเขา แล้วทำไมคุณพ่อไม่ส่งลูกสาวอีกคนของคุณพ่อให้ไป แต่งงานล้างหนี้ล่ะคะ”

“ลีน่ากำลังหมายถึง…

ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามไม่เต็มเสียงนัก และไม่ทันได้เอ่ยถึงลูกสาว อีกคนที่เขาแทบลืมไปแล้วว่ามีลูกคนนี้อยู่ อลีน่าก็เอ่ยตอบว่า

“ใช่ค่ะ ลีน่าหมายถึงนังพิมพ์มาดา

น้ำเสียงที่เอ่ยถึงน้องสาวต่างมารดาเต็มไปด้วยความจง เกลียดจงชัง และยิ่งนึกถึงใบหน้าของอีกฝ่ายก็ยิ่งเผยความ เกลียดชังให้เห็นผ่านทั้งสีหน้าและแววตา

“จะให้พ่อไปพูดกับพิม เพื่อให้พิมไปแต่งงานแทนลีน่ายังงั้น หรือลูก” ปกรณ์เอ่ยถามราวกับไม่เห็นด้วยในความคิดนี้

“ก็คุณพ่อบอกเองไม่ใช่หรือคะ ว่าพ่อเลี้ยงตนต้องการให้ ลูกสาวของคุณพ่อแต่งงานกับลูกชายเขา เพื่อเป็นการล้างบาง หนี้สินทั้งหมด นังพิมก็เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกัน ทำไมไม่ส่ง นังพิมให้ไปลงนรกแทนลีน่าล่ะคะ จริงไหมคะ คุณแม่”

เสนอความเห็นไปแล้ว ในตอนท้ายอลีน่าก็ไม่ลืมหันไปขอเสียงสนับสนุนจากมารดาด้วย

นวลพรรณรีบเออออห่อหมกตามลูกสาว เพราะนางเองก็ไม่ได้ อยากให้ลูกสาวไปแต่งงานกับคนบ้านนอก ไม่อยากให้ลูกสาว เอาชีวิตไปทิ้งอยู่ที่ฟาร์มแห่งนั้น

หากมีวิธีอื่นที่จะล้างหนี้ของครอบครัวได้ นางก็พร้อม สนับสนุนอย่างเต็มที่ นางเกลียดพิมพ์มาดาและแม่ของเธอไม่ ต่างจากที่ลูกสาวของนางเกลียด เพราะแม่ของพิมพ์มาดาใช้ ความสาว ความสวยมายั่วยวนสามีของเธอ กระทั่งตั้งท้องมีพิมพ์ มาดาเกิดมาเป็นมารอีกคน

“จริงด้วยค่ะ คุณพี่มีลูกสาวสองคน แล้วทำไมคุณต้องให้น่า เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงคนเดียว คุณควรส่งลูกสาวอีก คนของคุณไปแต่งงานเพื่อล้างหนี้

“พิมพ์มาดา? คุณจะให้ผมส่งพิมพ์มาดาไปแต่งงานในครั้งนี้

ปกรณ์ถามภรรยาด้วยความไม่มั่นใจ หัวสมองเต็มไปด้วย ความคิดจะเข้าไปพูดกับพิมพ์มาดาอย่างไรให้พิมพ์มาดายอมทำ ตามคำขอร้องของเขา เพราะก่อนหน้านี้เขาแทบจะไม่เคยไป เยี่ยมเยียน ทั้งๆ ที่บ้านพักของลูกสาวอยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าสิบ เมตรด้วยซ้ำไป

“นะคะ คุณพ่อ ส่งนังพิมพ์มาดาไปเป็นเครื่องสังเวยให้กับคน บ้านนอกพันธุ์นั้นเลยค่ะ อลีน่ากระตุ้นให้บิดาทำตามที่เธอและ มารดาเสนอไป

ปกรณ์นิ่งเงียบไปหลายนาทีเพื่อตัดสินใจ กว่าจะเอ่ยตอบออกมาได้ในที่สุด “ก็ได้ พ่อจะส่งพิมให้ไปแต่งงานแทนลีน่า”

“ดีค่ะ คุณพ่อ นัง เอ้ย! น้องพิม ควรทำหน้าที่ของลูกที่ดี เพื่อ ตอบแทนบุญคุณของพ่อบ้างค่ะ

อลีน่าหันไปคลี่ยิ้มกับมารดา เมื่อมีคนมารับเคราะห์แทนตัว เธอแล้ว พิมพ์มาดาสมควรถูกส่งไปแต่งงานกับพ่อเลี้ยงบ้านนอก ที่วันๆ เอาแต่คลุกอยู่กับวัวตัวโตๆ ไม่ใช่เธอ ที่ต้องไปแต่งงาน ในครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ อลีน่าไม่เคยยอมรับว่าพิมพ์มาดาเป็นลูกของพ่อ เธอ และนวลพรรณ ไม่เคยยอมรับว่า พิมพ์มาดา เป็นลูกของสามี

นาง

แต่ในวินาทีนี้ แม่ลูกทั้งสองต่างก็รีบยกยอให้พิมพ์มาดาเป็น คนในครอบครัว เพื่อส่งให้พิมพ์มาดาไปทำหน้าที่แต่งงานเพื่อ ล้างหนี้แทนอลีน่า

ผู้เป็นพ่อไม่เอ่ยพูดอะไรออกมา นอกจากเดินออกจากห้องนั่ง เล่นตรงไปยังบ้านพักหลังเล็กของพิมพ์มาดา เพื่อกล่อมลูกสาว ให้ทำหน้าที่เมียล้างหนี้ให้กับพ่อเลี้ยงหนุ่ม ผู้เป็นเจ้าของฟาร์ม เพาะพันธุ์วัวเนื้อที่ดีและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ