บทที่ 10 ไปตายซะ!
“กรี้ด!” ไลลากรีดร้องเสียงดังลั่น เธอตวัดมือ ไปปัดชามในมือของน้ำรินทิ้ง และพยายามดิ้นรน เพื่อลงจากเตียงอย่างบ้าคลั่ง สองมือของเธอบีบคอ น้ำรินแน่น
น้ำรินพยายามดิ้นหนี แต่กลับดิ้นไม่หลุด ทั้ง สองล้มลงไปที่พื้น ไลลาคร่อมอยู่บนตัวของน้ำริน เธอบีบคอน้ำรินอย่างสุดแรงเกิด!
“ไปตาย ไปตาย เธอไปตายซะ!”
“โอ้ย!…ช่วยด้วย!
น้ำรินถูกบีบคอจนหน้าแดงก่ำ เธอหาโอกาส เอาศีรษะของเธอโขกกับศีรษะของไลลาอย่างแรง แล้วอาศัยจังหวะที่ไลลาคลายมือออกรีบลุกขึ้นวิ่ง หนีไป
ไลลาถูกน้ำรินโขกศรีษะจนโซเซไปริมเตียง น้ำรินไม่กล้าหันกลับมามอง เธอวิ่งไปด้านพลางพูด ด่าว่า “อีบ้า ” แต่วิ่งออกไปไม่ไกลเท่าไร เธอก็ไป ชนเข้ากับหน้าอกของคน ๆ หนึ่งที่บริเวณมุมทาง เลี้ยว
“คุณทำอะไร?” กวีที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องหมอคนนั้นกำมือของน้ำรินเอาไว้แน่น เขาเอ่ยพูด ด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “คุณน้ำริน!”
“ฉัน…ฉันไม่ได้ทำอะไร” น้ำรินตกใจเพราะ สีหน้าของกวี เธอก้าวถอยหลังกลับไปเล็กน้อย แล้ว พูดออกมาเบา ๆ ว่า “ฉันก็แค่…ฉันก็แค่อยากจะมา เยี่ยมไลลา”
“ไม่จำเป็น!” กวีขมวดคิ้ว “ต่อไปถ้าผมเห็นว่า คุณมาปรากฎอยู่ต่อหน้าไลลาอีก ก็อย่าหาว่าผมไม่ เตือนก็แล้วกัน!”
พูดจบ กวีก็รีบก้าวยาว ๆ เดินไปยังห้องผู้ป่วย
น้ำรินจับลำคอของตัวเอง เธอตกใจกลัวจน หน้าซีด เธอรู้สึกโมโหขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมกัน? ทำไม อะไรดี ๆ จะต้องตกเป็นของไลลาตลอด? ทั้ง ๆ ที่ ๆ พวกเธอทั้งสองมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือน กัน ทำไมไลลาถึงโชคดีขนาดนี้?
น้ำรินเดินออกไปอย่างหมดแรง เธอเดินออกไป เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับแม่ของเธอพอดี
ดูเหมือนว่าแม่ของเธอรอเธออยู่ด้านนอกนาน แล้ว เมื่อเห็นน้ำรินเดินออกมา เธอก็รีบเข้ามือดึงมือแล้วถามว่า “คุณธามได้พูดอะไรกับเธอหรือ เปล่า?”
ริมฝีปากของ รินสั่นระริก เธอพยักหน้า “พูด แล้วค่ะ พี่ธามกับไลลาหย่ากันแล้ว”
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี” แม่ของน้ำรินพยักหน้า แล้วเธอ ก็กำชับต่ออีกว่า “เธอต้องแต่งงานเข้าไปในตระกูล ฉัตรเฉลิมให้ได้ รู้ไหม? ที่ฉันเลี้ยงเธอมาตั้งหลายปี นี้ไม่ได้เลี้ยงฟรี ๆ หรอกนะ ถ้าไม่ได้ฉัน เธอก็คงหิว ตายไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นตั้งนานแล้ว ที่ บ้านเราเลี้ยงเธอมาก็เพื่อต้องการให้เธอไปแต่งงาน กับเศรษฐี เข้าใจใช่ไหม? ถ้าคุณธามเขาไม่เอาเธอ เธอก็ไม่ต้องกลับมาที่บ้านให้ฉันเห็นหน้าอีก!”
น้ำรินก้มหน้ารับฟัง เธอกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น เมื่อนึกถึงท่าทางที่กวีเป็นห่วงไลลาเมื่อสักครู่นี้ แล้ว พอเอามาเทียบกับแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ… เธอ พยักหน้าแรง ๆ “หนูจะต้องแต่งงานกับพี่ธามให้ได้ ค่ะ!”
ขณะนั้น ภายในห้องผู้ป่วย เมื่อกวีมองเห็น ประตูเปิดค้างไว้ก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เขารีบเดิน เข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็เห็นภาพที่ไลลากำลัง ถือเศษชามที่แตกแล้วนั่งเหม่อลอยอยู่ที่พื้น
บนพื้นมีเศษชามข้าวต้มแตกกระจายอยู่เต็มไป หมด มือของไลลากำเศษชามที่แหลมคมเอาไว้ ปาก ของเธอสั่งเทาเหมือนกับว่ากำลังพึมพำอะไรอยู่
กวีขมวดคิ้วแล้วกอดเธอ เขาได้ยินเธอร้องไห้ สั่นระทม “พี่คะ พี่…ฉันท้องเหรอคะ? แล้วลูกของ ฉันล่ะ? ลูกของฉันล่ะคะพี่?”
กวีนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พยักหน้าตอบเธอ “เธออยากได้เด็กคนนี้มากขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่ว่า ธามจะปฏิบัติกับเธออย่างไรเนี่ยนะ?”
ไลลาไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแล้ว เธอกอดท้อง ของตัวเองแล้วสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของเธอซีดเผือด “ลูกของฉัน ลูกของฉัน ลูกของฉัน….”
เธอพยายามจะคืบคลานไปยังบริเวณที่ชาม ข้าวต้มหล่นแตก ข้าวต้มที่หกเลอะอยู่บนพื้นเย็น หมดแล้ว กวีห้ามเธอ แต่ไลลากรีดร้องจะเข้าไปให้ ได้ “ลูกของฉัน ลูกของฉัน!”
“พอได้แล้ว” กวีถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ไลลา พอได้แล้วน่า
ในมือของไลลากำเศษชามที่แตกเอาไว้แน่นคมกระเบื้องแทงเข้าไปในเนื้อของเธอจนเลือดสด ๆ ไหลออกมา เธอร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง “พาฉัน ไปเถอะค่ะ..พี่ พาฉันไปจากที่นี่!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ