ตอนที่ 10 ผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้คุณไม่สนใจ
นารากฏต่อสายภายใน สั่งให้คนยกกาแฟเข้ามา 2 แก้ว
กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟผสมเข้ากับอากาศที่หนาว เย็นเล็กน้อย ประกอบกับแสงอุ่นๆจากดวงอาทิตย์ที่ส่ง เข้าจากทางหน้าต่าง เข้ากับบรรยากาศได้น่าแปลก
ที่มาของบรรยากาศแบบนี้ มาจากสายตาของปณิดา
ดวงตาที่ละเอียดคู่นั้น คล้ายกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ เหมือนมีอะไรจะพูด
“คุณปนิดา คุณมีอะไรอยากจะถามฉันคะ” นาราแค่ เสี้ยวนาทีก็อ่านใจเธอออก
“ขอถามนอกเรื่องสักหน่อยนะคะ คุณสนิทกับคุณธีม
นต์ไหม?”
“ไม่สนิทเท่าไหร่ค่ะ” คำถามของเธอดึงดูดความสนใจ ของนารา เธอคิดจะทำอะไร? ตอนที่เห็นดวงตานักล่า ของปนิดา นาราก็เข้าใจได้ทันที
“งั้นทำไมเขาถึงต้องมาหาคุณด้วยตัวเอง” ปณิดาถาม อยากแปลกใจ
“อยากที่จะเชิญฉันเข้าไปทำงานใน เอส ที กรุ๊ป ใน ตำแหน่งที่ปรึกษาทนายความ แต่ฉันไม่สนใจ ปฏิเสธไปแล้ว!
ผู้ชายที่ทั้งดูดีมีเสน่ห์ขนาดนี้ คุณไม่สนใจเหรอ?” ปนิ ดาที่มองเธอเป็นศัตรู ก็เริ่มอ่อนลงเล็กน้อย
นาราราวกับว่าได้ยินเรื่องตลก “ ผู้หญิงเรียกได้ว่า ต้องสนใจผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์ทุกคนเลยเหรอ?”
คําตอบกลับของเธอทำให้ปนิดาถึงกับหน้าหงาย สมองของปนิดาเธออยากครอบครองธีมนต์ใบหน้าที่ หล่อเหลาเย็นชา นาราเห็นดังนั้น ถามหยั่งเชิงกลับไป “ทำไมเหรอคะ หรือคุณปนิดา สนใจ?”
สายตาปนิดาบอกได้เป็นนัย นารา ทำเสียงเสียใจ “แต่น่าเสียดายนะคะ ได้ยินมาว่าเขามีคู่มันแล้ว”
“ใครกัน” สีหน้าของปนิดาเริ่มเปลี่ยน กลับเป็นใบหน้า ที่ดูไร้อารมณ์ขึ้นมา แต่ก็ยังคงดูโหดร้าย
“ลูกสาวคนโตของบริษัทนาโนเบย์ เหมือนชื่ออะไร แล้วนะ………….จรรย์ธร
“นังนั่นเหรอ” ปนิดาทำเสียงเยาะเย้ย แค่จรรย์ธรเรื่อง จิ๊บจ๊อย ไม่อยู่ในสายตาเธอ
ระหว่างที่ทั้งสองสนทนาพูดคุยกัน นาราทำให้เธอ ประทับใจไม่น้อย มองดูแล้ว สายตาที่เย็นชาของเธอดู ไม่เหมือนทนายคนอื่นที่ชอบยกยอตัวเอง
เธอปัดฝุ่นออกจากกระโปรงยาว จัดผมเล็กน้อย “คุณ น่าจะคงเคยดูข้อมูลทางคดีของฉันมาบ้างแล้ว?”
“ก่อนที่จะสัมภาษณ์ ต้องทำความเข้าใจข้อมูลเบื้อง หลังของลูกค้า เรื่องราวคดีที่ผ่านมาเป็นงานที่จำเป็น” วกกลับมาที่เรื่องงาน นารามีที่หน้าเข้มงวดและจริงจัง สายตาเฉียบแหลม สังเกตการณ์ท่าทีของปนิดาอยู่ ตลอดเวลา
ปนิดา ชอบความตรงไปตรงมาของเธอ “แต่ข้อมูล บอกได้ไม่ละเอียดครบถ้วน” ดวงตาเธอเบิกกว้างมี ความกังวลอยู่ไม่น้อย
หากคุณปนิดาไม่ถือสา ช่วยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอีก ครั้งได้ไหม?”
ดวงตาปนิดาสั่นไหว มองเธอด้วยความแปลกใจ พยัก หน้า บวกกับสายตาที่ผ่อนคลาย “สามีคนที่ 4 ของฉัน ชื่อ โมไนย อายุ 52 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอุด ตัน อยู่อยู่อาการก็กำเริบและจากไปทันที”
“ฝั่งของตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบไหม?”
“เข้ามา แพทย์นิติเวชได้เขียนระบุในใบมรณบัตร ว่า สามีของฉันเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุโรค กล้ามเนื้อหัวใจอุดตัน เป็นการเสียชีวิตแบบปกติทั่วไป”
“งั้นแล้วทำไมคุณถึงต้องฟ้องร้อง?”
ทันใดนั้นสีหน้าปนิดาก็เริ่มเปลี่ยน พร้อมทั้งอารมณ์ก็ เปลี่ยนตามไปด้วย กินฟันพูดออกมา “สามีของฉันเสีย ชีวิตอย่างกะทันหัน ไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ตามหลัก แล้วฉันมีสิทธิที่จะได้รับมรดกของครึ่งนึงของเขา แต่ เขามีลูกชายที่เกิดจากภรรยาเก่าชื่อ นีติมัต เขาบอกว่า บริษัทสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพ่อกับแม่ของเขา ปฏิเสธที่จะยกมันให้กับฉัน
แต่ที่น่ารังเกียจไปมากกว่านั้นคือ ขนาดชื่อบ้านก็ยัง เป็นชื่อของไอผีนั่นและภรรยาเก่าของเขา นีติมัต ก็ยัง เอาศพของพ่อตัวเองมาให้ฉันเป็นคนจัดการ และยัง บอกอีกว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดมรดก แล้วยัง ไล่ให้ฉันออกไปจากคฤหาสน์ ส่วนแม่ของเขาก็ตาย ไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ฉันนี่แหละที่เป็นคุณหญิงอย่าง แท้จริง”
นาราทนฟังเรื่องราวที่เธอเล่าจนจบ ครุ่นคิดอยู่ชั่ว ครู่ ถามด้วยน้ำเสียงเข้ม “ก่อนที่คุณกับคุณโมไนยจะ แต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน ได้มีการทำหนังสือรับรอง ทรัพย์สมบัติก่อนแต่งงานไหม”?
ปนิดาส่ายหัว
นาราหมุนปากกาในมือ เคาะลงบนเอกสาร หน้าตา ครุ่นคิด ปนิดาไม่กล้าที่จะรบกวนเธอ
คดีของเธอเองค่อนข้างจัดการยาก เธอรู้ ดังนั้นเธอ ถึงสืบเสาะหาทนายหลายครั้ง จนได้มาเจอเธอ
นาราเอ่ยออกมากด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและทรง พลัง “ในเมื่อไม่มีพินัยกรรม และไม่ได้มีการทำหนังสือ รับรองทรัพย์สินก่อนสมรสเอาไว้ ตามกฎหมายสืบทอด มรดก ในมาตรา 2 บรรทัดที่ 10 ระบุไว้ว่าหากผู้ตายไม่ ได้ทำพินัยไว้อยากถูกต้อง ลำดับแรกของการสืบทอด มรดก ควรจะเป็นคู่สมรส ลูกชายลูกสาว พ่อแม่ อ้าง ตามข้อมูลที่คุณให้ฉัน เห็นได้ชัดว่าพ่อกับแม่ของคุณ โมไนยเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่สามารถเป็นผู้สืบทอด มรดกได้ และคุณเป็นผู้สืบทอดลำดับแรกตามกฎหมาย คุณมีสิทธิที่จะสืบทอดและรับมรดก…….
ปนิดาฟังเธอวิเคราะห์แบบนี้แล้ว สายตาเริ่มดูสดใส ขึ้น ตัดบทอย่างระวัง “คุณทนายนารา ถ้าหากฉันกับนีติ มัตจะฟ้องร้องกันสักตั้ง จะชนะได้สักกี่เปอร์เซ็นต์?”
เวลาค่อยๆล่วงเลยผ่านไป นาราวิเคราะห์คดีให้เธอ อย่างมีหลักการ
กฎหมายมีเกณฑ์การเปรียบเทียบอย่างเป็นมาตรฐาน ของตัวมันเอง คุณกับคุณโมไนย ต่อให้แต่งงานกัน อีกครั้ง คุณก็ได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย มีสิทธิ์ ครอบครองมรดก นอกจากนั้นแล้ว สาเหตุเสียชีวิตของ สามีคุณทางฝั่งของตำรวจก็เข้าไปทำการตรวจสอบ แล้ว แพทย์นิติเวชก็ออกใบรับรองว่าคุณไม่เกี่ยวข้อง กับการตายของสามีคุณ คุณก็ไม่ต้องสนใจที่นีติมัต พยายามบิดเบือนความจริง ต่อให้เขาจะกล่าวหาคุณใน ศาล ก็ไม่มีกฎหมายเป็นส่วนใดประกอบเป็นหลักฐาน ได้!”
ปนิดา ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สายตาจ้องมอง “แต่ถ้าหากว่าต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันจริงๆฉันต้องเตรี ยมเอกสารอะไรบ้าง?”
นาราก้มมองเอกสารที่เธอให้มา มีข้อมูลบางส่วนค่อน ข้างจุกจิกและกระจัดกระจาย “ฉันจะให้คนติดต่อคุณ เอง ถึงตอนนั้นผู้ช่วยของฉันจะไปขอรายละเอียดเพิ่ม เติมจากคุณ อีกอย่างก่อนที่การสืบสวนคดีในศาลจะ สิ้นสุด ฉันขอเตือนคุณ พยายามรักษาภาพลักษณ์ ห้าม แสดงข้อมูลด้านลบใดใดออกมา ให้ความประทับใจที่ดี ต่อผู้พิพากษา เรื่องบางเรื่อง ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไป!”
นาราบ่งชี้แนวทางทั้งหมด เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ทั้ง สองเข้าใจกัน
ปนิดาฟังจบแล้ว ปิดปากยิ้มออกมา “ไม่ต้องเป็นห่วง ภาพลักษณ์ของฉันอยู่ในแง่บวกเสมอ ถ้าจะโทษก็ต้อง โทษผู้ชายน่าเกลียดคนนั้น ควบคุมส่วนล่างของตัวเอง ไว้ไม่ได้”
ระหว่างที่นาราฟังเธอพูด ก็ผ่อนคลายเล็กน้อย ค่อย ค่อยเอนหลังพิงกับเก้าอี้
ปนิดายืนหลังตรง ถอนหายใจ “จะทำไงได้ อายุเริ่ม เข้าวัยทองอย่างฉันนี่แหละ มันถึงจะมีรสชาติ ผู้ชายมัก ชอบคนเหมือนฉันแบบนี้”
ระหว่างที่เธอพูด ก็ขยิบตาให้นาราไปด้วย
นาราจุดประเด็นต่อ จงใจพูดออกมา “ ลุคของคุณปนิ ดานี่มีประโยชน์กับผู้ชายมาก แต่ภูมิคุ้มกันต่อผู้หญิง มีแค่เล็กน้อย ไม่เท่ากับเก็บสะสมปริมาณไฟเอาไว้ รวบรวมเก็บไว้หลังจากที่ชนะคดีจะได้เอาไปไว้ที่คนที่ สมควรวาง
เธอบ่งชี้ถึง…..นิมนต์
ทั้งสองคิดไปพร้อมกัน ปนิดากระแอมออกมา “ฉันมี วิธีของฉัน”
นารายิ้มเป็นเส้นตรงไม่เอ่ยออกมา รวบรวมเอกสาร ชี้แจงอย่างจริงจัง “เรื่องควรพูด ควรเตือน ฉันกำชับไป หมดแล้ว ต่อจากนี้จะต้องทำยังไง ก็อยู่ที่ตัวคุณแล้ว จำ ใส่ใจเอาไว้ว่าอย่าให้ฝ่ายตรงข้ามจับจุดอ่อนคุณได้เด็ด ขาด”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณก็เตรียมตัวทำให้ฉันชนะคดี
นี้!”
“ไม่มีปัญหา” นารายิ้มตอบอย่างมั่นใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ