ยัยเช็ก ที่เร้าใจของฉัน

ตอนที่ 13 อยู่คนเดียวตอนกลางคืนเหงามาก



ตอนที่ 13 อยู่คนเดียวตอนกลางคืนเหงามาก

คอนโดเอร่า

หญิงสาวเปิดประตูพร้อมกับสายลมเย็นยามค่ำคืน ได้กลิ่นมะนาวสุดหรูหอมสดชื่น นี่คือคอนโดที่ไวทยุ ตจัดเตรียมไว้ให้เธอ ตกแต่งเรียบง่ายไม่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้ง่ายจัดเรียงอย่างเรียบง่าย ทุก สิ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตสำหรับคนทำงานอย่างเธอที่สุด

เธอถอดรองเท้าส้นสูงไว้ที่ระเบียง เดินเท้าเปล่าไป ห้องน้ำและอาบน้ำ สวมชุดคลุมอาบน้ำสะอาดมือถือ บุหรี่ออกมาที่ระเบียง

วิวที่มองจากตรงนี้ช่างสวยงาม เมืองกีธุร์นนี้ประดับ ด้วยไฟนีออนเจ็ดสีหรูหราฟุ่มเฟือยแม้แต่แสงดาวบนฟ้า ยังถูกบดบัง

สายลมกลางคืนที่อบอุ่นแต่ก็เย็นพัดผ่านปะทะใบหน้า โอบล้อมร่างกายของเธอและทะลุผ่านไปยังห้องนอน

“แชะ” เสียงจุดบุหรี่ นิ้วเรียวยาวแตะที่ปุ่มสีแดง ควัน สีขาวลอยคละคลุ้งทำให้โครงหน้าหน้างดงามน่ารักของ เธอเลือนราง

แม้จะมีควันสีขาวกั้นไว้แต่สายตาที่คมกริบแน่วแน่นก็ ยังมีแสงสุกใส

เวลานี้ทุกชั่วโมงทุกวินาทีในสมองของเธอกำลังคิดคำนวณว่าจะจัดการให้ปณิดาเข้าใกล้ธีมนต์แบบง่ายๆ แต่ไม่กะทันหันยังไงดี?

ทอดสายตาไปยังค่ำคืนที่อยู่ไกล ความคิดกลายเป็น ว่างเปล่า

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอมองไปที่ หมายเลขบนหน้าจอ มุมปากเผยรอยยิ้ม

ใช้มือหนึ่งดับก้นบุหรี่ในขณะที่เดินไปทางห้องนอนก็ พูดน้ำเสียงนิ่มนวล “พี่เขย คิดถึงฉันเหรอคะ?”

“เธอรอสายฉันอยู่เหรอ?”

เสียงทุ้มต่ำดูมึนเมาส่งผ่านคลื่นมาเข้าหู ในค่ำคืนเช่น นี้มีคนเมาอยู่จริงๆ

เธอหย่อยตัวลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรงถลกขา ขาวๆขึ้นและตอบอย่างเชื่องช้า “ใช่ เหงามากเลย อยู่ คนเดียวตอนกลางคืนไม่สบายใจเลย!”

“อยากให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนเธอไหม?” ธีมนต์พูด หยอก

“อยู่เป็นเพื่อนฉัน? คุณคงไม่คิดที่จะเอาฉันกับพี่สาว ไปสนุกพร้อมกันหรอกนะ?” เธอใช้น้ำเสียงแสนหวาน อ่อนระทวย เธอกล้าพูดออกมาแบบกล้าหาญและเปิด เผยเช่นนี้ ทำให้ธีมนต์มองเธอด้วยความทึ่ง
“ไม่จำเป็นต้องสนุกคู่หรอก ฉันอยากลองหลายๆท่า กับเธอมากกว่า

นาราขยับตัว เอนตัวนอนลงเพื่อผ่อนร่างกาย “ท่าชาย ชราผลักเกวียนหรือนั่งบนดอกบัวกวนอิมล่ะ แต่ว่า…พอ นึกถึงขนาดของพี่เขย เลิกคิดไปได้เลย ฉันไม่รู้เกรงว่า จะลำบากเกินไป

นิ้วเรียวยาวของเธอเคาะบนโซฟาตามจังหวะใจ ดวงตาชุ่มชื่นมีเสน่ห์ ปากแดงๆวาดรอยยิ้ม ถ้านาราใน เวลานี้มีผู้ชายมาเห็นเข้า คงอดใจไม่ถลาเข้าหาไม่ได้ แน่

“อาหารจานนี้ก็ปฏิเสธไม่กิน เธอเรื่องมากจังนะ” ธีม นต์ไม่ได้โกรธแต่ค่อยๆเล่นสงครามน้ำลายกับเธอ

มุมปากของนารายิ้มและพูด “คุณว่าถ้าพี่สาวฉันรู้ว่า คุณโทรหาผู้หญิงคนอื่นตอนกลางดึก แถมเนื้อหายังล่อ แหลมเป็นเรื่องบนเตียง เธอจะเป็นยังไงกันนะ?”

“ฉันไม่สนว่าเธอจะคิดยังไง สำคัญแค่เธอชอบก็พอ”

ความหมายของเขาก็คือขอแค่เธอชอบ งั้นก็สามารถ บันทึกบทสนทนาของพวกเขาแล้วเอาให้จรรย์ธรก็ได้เห รอ

เธอเป็นคนโง่งั้นเหรอ?

“พี่เขยที่รัก ถ้าคุณโทรมาเพื่อฆ่าเวลาเสร็จแล้วจะวางสายก็ได้นะ เพื่อนคุยในอินเตอร์เน็ตยังต้องเสียค่า บริการเลย แต่ฉันเป็นทนายนะ…”

“พรุ่งนี้ว่างไหม?” ธีมนต์พูดขัดเธอขึ้น

“พรุ่งนี้ฉันต้องไปเล่นกอล์ฟกับลูกค้าที่ออสวอลด์ ไม่ ว่าง!” ดวงตาสวยๆของเธอเบิกกว้างเตือนสติเขา “แล้วก็ พี่เขย แทนที่จะพูดทีเล่นทีจริงฉันชอบพูดตรงๆมากกว่า

“งั้นก็ได้ พวกเราไว้นัดกันใหม่!” ธีมนต์พูดน้ำเสียง เสียดาย

“ลาก่อนพี่เขย คิดถึงฉันด้วยนะ!”

“แม่ปีศาจสาวดูดวิญญาณคนนี้ ถึงไม่อยากคิดก็คง ยากแล้ว!” ธีมนต์ยังไม่อยากวางสายเลย แต่ถึงเวลา ก็ควรหยุด สุดท้ายเขาจะต้องใช้โอกาสวันทั้งวันเพื่อ ทำให้แม่ปีศาจสาวคนนี้สยบให้ได้

นารามองหน้าจอที่มืดลงแล้วยิ้มบนหน้าสวยๆดูเย็นชา จากที่เธอเข้าใจธีมนต์จะต้องบังเอิญไปพบเธอที่สนาม กอล์ฟพรุ่งนี้แน่ๆ…

**

ตระกูลหันมณี ห้องรับแขกขนาดใหญ่ของเก่าเครื่อง ลายครามวางเรียงราย นี่เป็นบ้านของราชวงศ์ที่หรูหรา ที่เก่งใช้เงินทอง แต่ทว่าเงียบเชียบไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของผู้คน พูดให้ถูกเกรงว่าที่นี่จะไม่มีคนมาเยือนเลย

“ทำไมไม่เจอแม่สาวคนนั้นเลยเหรอ?” เสียงณัฐนิชดัง มาก ใบหน้าแก่ๆถูกโต๊ะแป้งแต่งหน้าซะหนา รอยตีนกา ที่หางตาของเธอ เกือบจะฆ่าแมลงวันได้

“ขอโทษคุณผู้หญิง พวกเราจะเร่งให้เร็วที่สุด…

“ให้เร็วที่สุด เธอรับปากกับฉันกี่ครั้งแล้ว แม่สาวนั่น หายไปเป็นปีแล้วนะ ในหนึ่งปีมานี่พวกเธอทําอะไรกัน อยู่?” ณัฐนิชยืนฉุนเฉียวเท้าสะเอวหายใจแรง

กลุ่มนี้ช่างไร้ประโยชน์ นาราหนึ่งปีมานี่ไร้ข่าวคราว ของเธอ อยู่ก็ไม่เจอตายก็ไม่พบศพ เวลานี้เธอเป็น กังวลว่าเธอจะแอบกลับประเทศไปเงียบๆ

“คุณผู้หญิงโปรดอย่ากังวล พวกเราจะเพิ่มคนให้ ค้นหาให้ทั่วทุกตารางพื้นของนิวยอร์ก คุณคอยรอข่าว ได้” คนเป็นหัวหน้ารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ

“ฮี! หนึ่งเดือน ฉันให้เวลาพวกเธอหนึ่งเดือน ถ้าหาคน ไม่เจออย่าคิดจะได้เงินเดือนเลย!”

หลังวางสาย ณัฐนิชโกรธจัดโยนโทรศัพท์ลงบน โซฟา ขมวดคิ้ว เต็มไปด้วยความกังวลถ้านารากลับมา จริงๆเธอควรจะทำยังไง?

แต่ที่บ้านก็สงบสุขดีในช่วงหนึ่งปีมานี่ ไม่มีเหตุการณ์ ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นบางทีเธออาจจะคิดมากไป
หรี่ตาและนวดขมับ ระยะนี้เธอโมโหบ่อยเกินไป วัน หลังนัดกลุ่มคุณนายไปเสริมความงามกันดีกว่า

จรรย์ธรก็เดินเข้ามาจากข้างนอกพอดี ย่ำรองเท้าส้น สูงเสียงดังตึงตึง หน้าตาโกรธจัดดวงตาแดงก่ำ

พอณัฐนิชเห็นลูกสาวก็เอ่ยถาม “จรรย์ธร ลูกเป็น อะไรไป?”

จรรย์ธรเดินไปหาแม่ของตนและนั่งลงทำหน้าน้อยใจ “แม่ค่ะ หนูเจอว่าธีมนต์ไปติดผู้หญิงข้างนอก มีกลิ่น น้ำหอมผู้หญิงบนตัวเขา แถมยังให้คุณหญิงเพ็ญรดีไล่ หนูออกจากบ้านด้วย

เธอเคยมีรูปร่างอวบอ้วนแต่ก็ยอมลดน้ำหนักเพื่อ ทำให้คุณหญิงเพ็ญรดียอมรับเธอ ชอบเธอ แต่ถูกธีม นต์พูดประโยคเดียวทำให้เธอกลับสู่โฉมหน้าเดิม

เธอครุ่นคิดมั่นใจว่าจะต้องเป็นเพราะนังจิ้งจอกข้าง นอกวางแผนไว้แน่ๆ ที่เสี้ยมให้พวกเขาแตกกัน!

ณัฐนิชทำน้ำเสียงถอนหายใจ “ลูกเอ๋ย ลูกนี่ซื่อเกิน ไป!”

“หมายความว่ายังไงคะ?” จรรย์ธรไม่เข้าใจ ว่าตนเอง ทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ

“ลูกต้องเข้าใจเรื่องหนึ่ง ผู้ชายดีเลิศอย่างธีมนต์เป็น เรื่องปกติที่จะถูกผู้หญิงข้างนอกล่อลวง ลูกต้องใจเย็นๆ”

“แต่…ลูกไม่ได้โกรธ หนูเป็นคนจากบ้านร่ำรวย ทำไม เขาถึงทำแบบนี้กับลูก?” ระยะนี้พฤติกรรมของธีมนต์ที่ มีแต่เธอเอาแต่ทำให้ท้อและเสียใจ

“เขาแค่หลงนังจิ้งจอกข้างนอกแค่ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้ลูกควรทำให้ผู้ชายรู้ว่าลูกเป็นคนดี เอาใจใส่เขา เข้าใจเขา โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าเขา ไม่ถามเขาถึง เรื่องผู้หญิงคนอื่น” ณัฐนิชหยุดพักหนึ่ง เกิดแสงแล่บใน ดวงตาและให้คำแนะนำแก่เธอ “อีกด้านหนึ่ง ลูกจะต้อง สืบว่านังจิ้งจอกคือใครคิดจะทำอะไรแล้วจึงแก้ปัญหา ให้ตรงจุด”

“ทำแบบนี้จะเอาหัวใจของธีมนต์กลับคืนมาได้ใช่ ไหม?” จรรย์ธรมองแม่ของตนอย่างไม่มั่นใจ

ณัฐนิชตีมือเธอเบาๆ “ฟังที่แม่พูดสิ ไม่ผิดแน่นอน! ผู้ชายเป็นพวกละโมบชอบของใหม่ พอผ่านไปเขาก็จะ รักบ้าน”

หลังจากฟังที่แม่ของตนพูด เธอก็ตัดสินใจรอให้รู้ก่อ นว่านังจิ้งจอกคนไหนที่ก่อความวุ่นวายอยู่เบื้องหลัง จะ“ฉีก”เธอเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ