ตอนที่ 2 ความชอบส่วนตัวที่คาดไม่ถึง
นาราที่ทั้งคืนยังไม่กลับมา จรรย์ธรตื่นแต่เช้า ตั้งใจที่ จะเข้าไปเช็คดูในห้องของเธอ
มองเห็นเตียงนอนที่ว่างเปล่า ยกหางคิ้วขึ้นเล็กน้อย ครั้งนี้ นังปีศาจจะได้รู้จักความตาย
เธอเดินลงไปชั้นล่าง หยิบหนังสือพิมพ์รายงานข่าว เช้าขึ้นมาดูอย่างอารมณ์ดี อยากจะรู้ว่านาราจะทำเรื่อง อับอายขายหน้าอะไรไว้อีกบ้าง พาดหัวข่าวดังเขียน ด้วยตัวอักษรสีแดงโดดเด่น “คุณธีร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ มีอิทธิพล มีความชอบส่วนตัวที่คาดไม่ถึง?”
“คุณธีร์”
“ธีมนต์”
จรรย์ธรกรีดร้องเสียงดัง สายตาจับจ้องไปที่ หนังสือพิมพ์ปรากฏภาพลึกลับของชายสองคนที่กำลัง นอนกอดกัน แม้ว่าจะเซนเตอร์ใบหน้าคุณธีร์เอาไว้ แต่ เธอก็ยังมองลักษณะและเรือนร่างธีมนต์ออก
เธอกำหนังสือพิมพ์แน่น ขมวดคิ้วเข้าหากัน จับจ้อง ไปยังรูปภาพนั้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าแผ่นหลังเกาะ กุมหยดเหงื่อ คล้ายกับว่ามีแมลงมาเคลื่อนไหวไปมาที่ กระดูกสันหลังของเธอ ทำไมคนที่อยู่ในห้องถึงได้เป็น ธีมนต์?
ณ เวลานี้ นารา ที่ทำเรื่องดีดีเอาไว้เมื่อคืน เดิน กรีดกราดกลับมา กวาดสายตามองไปเห็นจรรย์ธรที่ ห้องรับแขก สีหน้าดูที่ขุ่นมัวน่าเกลียดยิ่งกว่ากินอะไร เข้าไปอีก จงใจเดินผ่านร่างของเธอ กระแอ่มเบาๆ เดิน ขึ้นชั้นสองไป จรรย์ธรได้ยินดังนั้น คว้าตัวเธอเอาไว้ ซักถามด้วยเสียงอันเฉียบขาด “นารา เมื่อคืนแกไปทำ อะไรมา”
กล้าดียังไงพาผู้ชายของเธอไปทำอะไรทุเรศแบบนี้
สายตาอันแหลมคมของนารา ริมฝีปากสีแดงยกขึ้น ค่อยค่อยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เยาะเย้ย สะบัดมือเธอ ออก สวนกลับ “พี่สาวจิตใจดีของฉัน ฉันทำอะไร พี่ก็น่า จะรู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
จรรย์ธรจ้องมองเธอ โกรธจนตัวสั่น สายตาเยาะเย้ย ของเธอ กระตุ้นความอ่อนไหวตามสัญชาตญาณ ยกมือ ขึ้นฟาดเต็มแรงเข้าที่ใบหน้ามีเสน่ห์ของนารา แต่นารา ที่ไวกว่า ตบเข้าที่หน้าของจรรย์ธรอย่างจัง
“เพี้ยะ”
จรรย์ธรโดนตบกลับเข้าที่หน้ายกมือขึ้นจับที่ใบหน้า ตัวเองด้วยความเจ็บปวด
ด่าออกมาอย่างแค้นเคือง “แก นังสารเลว กล้าตบฉัน เหรอ แกมันก็แค่เด็กที่คุณพ่อฉันเก็บมาเลี้ยง คุณแม่ฉัน เก็บมาจากถังขยะ!”
เทียบกับ นาราที่มีสีหน้านิ่งเฉย สายตาราวกับว่าโดน ของเหลวที่มีพิษไหลซึมเข้าไปร่างกาย ดึกกระดาษทิช ชู่ออกมา เช็ดมือด้วยความรังเกียจ ดวงตาที่เย็นชาจับ จ้องมองเธอ ยิ้มอย่างทุกข์ร้อน “น่าเสียดาย ผู้ชายของ เธอต้องการผู้หญิงที่เก็บมาจากถังขยะอย่างฉัน เธอรู้ ไหมว่าเมื่อคืนนี้พวกเราทำอะไรกัน ไม่น่าเชื่อว่า กลิ่น กายของคุณธีมนต์ช่างดีขนาดนี้ หน้าอกก็ทั้งแข็งทั้งเย้า ยวน……”
“หุบปาก! แกมันหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เดี๋ยวฉันจะเป็น คนจัดการสั่งสอนแกเอง” จรรย์ธรพูดจบ จะยื่นมือออก ไปจิกผมของเธอ แต่กลับถูกนารารวบมือเธอไว้ได้
เธอทำงานตั้งแต่เด็ก มีพละกำลังมากกว่า จรรย์ธรที่มี ชีวิตสุขสบาย กินดีอยู่ดี
“โอ้ย เจ็บ!” นาราบีบกดเข้าที่ข้อมือของเธอ ฝ่ามือเริ่ม
ชา ข้อมือเริ่มรู้เจ็บแสบ
นารามองด้วยสายตาที่เหี้ยมโหด ดึงเธอเข้าหาตัว ริม ฝีปากแดงพูดกรอกไปที่หูของเธอ “จรรย์ธร ถ้าครั้ง หน้าคิดจะกำจัดฉันละก็ใช้ สมองของเธอคิดหาวิธีที่ ฉลาดหน่อย อย่าคิดทำอะไรที่ไร้เดียงสาแบบเด็กเด็ก ไม่งั้นล่ะก็…ฉันนี่แหละจะเป็นคนจัดการเธอเอง”
พูดจบ ริมฝีปากแดงก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“นังสารเลว โอ้ย…” จรรย์ธรทนแรงกระตุ้นไม่ไหว ตะโกนร้องเสียงดัง อีกมือหนึ่งคิดจะตบนารา แต่กลับถูกเธอจับเอาไว้ได้ทัน
นารามองดูสีหน้าอันเจ็บปวดเธออย่างรู้สึกสบายใจ ใช้สองมือบีบอย่างแรงเข้าที่มือของเธอ จรรย์ธรเจ็บจน เริ่มเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก
“คุณแม่ไม่น่าจะเก็บแกไว้ตั้งแต่แรก โอ้ย แขนฉัน จะ หักแล้ว!”
นารายกคิ้วขึ้น “ใช่ 10 ปีก่อน แม่ของเธอน่าจะบีบคอ ฉันให้ฉันตายไปซะ แต่น่าเสียดาย ที่ตอนนี้พวกเธอไม่มี โอกาสนั้นแล้ว……….…..
“พวกเธอทําอะไรกัน? เสียงอันน่าเกรงขามดังลงมา จากทางบันได หยุดคำพูดของนาราเอาไว้
จรรย์ธรเห็นคุณพ่อกับคุณแม่ลงมา ก็ร้องขอความ ช่วยเหลือทันที คุณพ่อคะ คุณแม่คะ นังผู้หญิงสารเลว คนนี้จะหักแขนของหนูค่ะ!”
การโต้เถียงของทั้งสองคนที่ชั้นล่างปลุกให้นิรุทธ์ กับณัฐนิชตื่น พุ่งเข้าไปด้านหน้าผลักนาราออกไป ดึง ลูกสาวมาไว้ด้านหลังตัวเอง หย่นคิ้วด้วยความโมโห “นารา เธอคิดจะทำอะไร จะตบตีกันเหรอ?”
ใบหน้าจรรย์ธรมีรอยแดงเล็กน้อย ดวงตามีน้ำตา คลอ กัดปากตัวเองอย่างเศร้าใจ รีบฟ้อง “คุณพ่อคะ คุณแม่คะ ดูที่หน้าหนูสิ มันเป็นคนตบหนูค่ะ!”
นารายกมือกอดอกโดยไม่สนใจสายตาของหญิงชาย ชราทั้งสอง ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ ใช่ ฉันเป็นคน ตบเธอเอง ใครใช้ให้เธอกวนประสาท!
“นารา แกนี่มันยังไงกันนะ…………สั่งให้เธอขอโทษ จรรย์ธรเดี๋ยวนี้” นิรุทธ์เดินไปตรงหน้าดุด่าเสียงดัง
“ขอโทษเหรอ? เธอสมควรได้รับคำขอโทษเหรอ?!”
นาราไม่แคร์คำพูดของเขา ค่อยค่อยเดินไปนั่งลงบน
โซฟา
จรรย์ธรรีบร้อน กระทืบเท้า1ที หยิบหนังสือพิมพ์ข่าว เช้าของวันนี้ให้ณัฐนิชดู “คุณแม่คะ ดูข่าวนีสิคะ คุณธีร์ ก็คือคุณธีมนต์ค่ะ มันเป็นกลอุบายของเธอหลอกล่อคุณ ธีมนต์ให้เสียภาพลักษณ์และต้องอับอายค่ะ”
ณัฐนิช มองไปที่พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ สายตา อันโหดเหี้ยมจ้องนารา มองใบหน้าเล็กที่ดูงดงามเหมือน กับZheng Rumeiในตอนนั้น ลึกในใจเธอเริ่มรู้สึกอิจฉา
วกกลับมาที่เรื่องเดิม ชี้ไปที่เธอ คิ้วขมวด “นาราเป็น เรื่องปกติที่เธอรังแกพี่สาว ฉันก็ทนแล้วนะ แต่นี่เธอกล้า ที่จะเอาชนะธีมนต์ ยังมีอะไรที่เธอจะทำไม่ได้อีกบ้าง?”
ด้วยความเกลียดที่ซ่อนลึกอยู่ในดวงตาของนารา ตอกกลับ “ฉันทำเรื่องแค่นี้ มันเทียบได้กับพวกคุณไหม ล่ะ ไม่เข้าใจจริงๆว่าหลายปีที่ผ่านมาคนที่ไม่รู้จักผิด ชอบชั่วดีอย่างพวกคุณถึงมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ ไม่ช้าก็ เร็ววิญญาณของแม่จะมาเอาชีวิตพวกคุณ เตรียมตัวรอไว้ได้เลย”
“หุบปาก” ดูเหมือนว่านาราจะพูดตอกย้ำซ้ำเติมความ เจ็บปวดของพวกเขา นิรุทธ์ตอบโต้ เสียงคำราม “แก เลิกพูดเรื่องไร้สาระที่นี่ได้แล้ว”
“ทําไม กลัวเหรอ แม่ของฉันตายยังไง ชีวิตนี้ฉันไม่มี วันลืม” สีหน้าที่เย็นชา เม้มปากแน่น สายตาอันแหลมคม ดุดันกวาดมองไปที่ทั้งสาม เปรียบเทียบกับความผิด ของนิรุทธ์แล้ว ณัฐนิชต่อว่าอย่างมีเหตุผล “เลี้ยงเธอ มา เป็น10 ปี แต่กลับเลี้ยงคนเนรคุณ กินบนเรือน ขี้บน หลังคา
“ใช่ ฉันมันคนเนรคุณที่เป็นหนามทิ่มแทงพวกคุณ ถ้า พวกคุณไม่อยากเห็นหน้าฉัน ก็ส่งฉันไปอยู่ต่างประเทศ สิ”ตระกูลยิ่งใหญ่หันมณีขังเธอไว้เหมือนอยู่ในกรง หาก ได้ออกไปจากที่แห่งนี้ เธอถึงจะมีความหวังใหม่
ดวงตาของณัฐนิชเปล่งประกายขึ้น เปลี่ยนท่าทีทันใด ยิ้ม ได้ เธออยากไปอยู่ต่างประเทศ วันนี้ฉันจะติดต่อ โรงเรียนที่อเมริกา พรุ่งนี้ให้เธอบินไปเรียนที่อเมริกาได้ เลย”
จรรย์ธร ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจจับแขนแม่ของเธอไว้ “คุณแม่คะ”
ไหนคุณแม่เคยบอกเอาไว้ว่าจะจับตามองนังนี่ไว้ไม่ให้ คลาดสายตา
นารากวาดสายตาเย็นชามองณัฐนิช ในใจเดาออกอยู่ แล้วว่าณัฐนิชคิดจะทำอะไร แต่การได้ออกไปจากที่นี่ มันคือเป้าหมายที่แท้จริงของเธอ
ริมฝีปากแดงยก ลุกขึ้น จ้องตาณัฐนิช “ขอบคุณค่ะ คุณป้า งั้นหนูขอตัวไปเก็บกระเป๋าก่อนนะคะ”
เธอหันตัวกลับ ยิ้มมุมปาก เดินขึ้นบันไดไป
สักวันหนึ่ง เธอจะกลับมา แก้แค้นแทนแม่ของเธอ ให้ ครอบครัวนี้ชดใช้ให้สาสมที่ทำกับแม่ของเธอ
รอให้นาราเดินจากไป สีหน้าที่กังวลของจรรย์ธร ถามขึ้น “คุณแม่คะ ทำไมถึงยอมตกลงให้มันไปต่าง ประเทศ
“แกจะรีบร้อนทำไม นังตัวดีนั่นตอนนี้ฉันควบคุมมันไม่ ได้อีกต่อไปแล้ว เก็บมันไว้ต่อไป มันจะสร้างปัญหาไม่รู้ จบ !”….ณัฐนิชกระพริบตา มือของเธอทำท่าลากยาวไป ที่กลางลำคอ
ทั้งสองเข้าใจกัน นิรุทธ์ลึกๆในใจรู้ลึกสงสาร “คุณ หญิงณัฐนิช ยังไงซะนาราก็เป็นลูกสาวของผม คุณทำ อย่างนี้ไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ?
ณัฐนิชหันกลับไปมองนิรุทธ์ สายตาเป็นไปด้วยความ ดุดัน “โหดร้าย ใครจะโหดเหี้ยมกว่ามัน ไม่กี่ปีมานี้ที่ เกิดเรื่องในบ้านเราไม่เว้นวัน ทั้งท่อก๊าซรั่ว ไฟไหม้ รวม ไปถึงปีที่แล้วที่จรรย์ธรล้มขาหัก คุณกล้าพูดไหมว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันไม่เกี่ยวกับมัน คุณดูข่าวนี่อีก ครั้ง นี้ธีมนต์ ตกหลุมพรางของมัน หากยังเก็บเธอไว้ต่อไป ไม่นานเธอคงฆ่าพวกเราตายกันหมด แก้แค้นให้ผีแม่ ของเธอที่ตายไป
จรรย์ธรก็ช่วยพูดใส่ไฟอีกด้วยอีกแรง “คุณพ่อคะ คุณพ่อยอมให้มันตาย หรือจะให้พวกเราตายคะ?”
นิรุทธ์ได้ยินคำพูดพวกนี้ สีหน้านิ่ง สายตามืดมัว ไม่ พูดอะไรออกมาอีกเลย
นาราซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดของชั้นสอง ได้ยินที่พวกเขา พูด ยกยิ้มมุมปากอยากเยือกเย็น หลังจากที่ส่งเธอไป อยู่อเมริกาแล้วค่อยกำจัดเธอทิ้งงั้นเหรอ กลัวว่าความ สามารถของพวกเขายังคงไม่พอนะสิ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ