บทที่ 2 ไถ่บาป7วัน
บทที่ 2 ไถ่บาป7วัน
บนเวที เหอเย่าหลงเงยหน้าขึ้น ใช้สายตาดูถูกมองดูเจียง อ เขาชอบความรู้สึกที่ได้เหยียบย่ำคนมากที่สุด
ทว่า สีหน้าของเจียง อกลับไม่เปลี่ยนเลย
เหอเย่าหลงเข้าใจผิดนึกว่าเจียง อตกใจจนไม่กล้าพูดจึงยั่วยุ ต่อ: “ขอโทษด้วย ฉันเป็นคนตรงๆ แบบนี้ ถ้าทำร้ายถูกเกียรติที่ เปราะบางของเธอ เช่นนั้นก็เสียใจด้วย
“ที่จริง เธอมาทำอะไร ใจฉันรู้ดี เธอแค่อยากใช้การตายของน้อง ชายมาไถเงินฉันล่ะ?”
“คนพรรค์อย่างเธอ ฉันเห็นมาเยอะแล้ว”
เหอเย่าหลงยักไหล่แล้วพูดต่อ: “ว่าแต่ ไม่ใช่จะไม่ให้เงินเธอ ขอ แค่ยอมพูดต่อหน้าคนอื่นว่า ‘เจียงโม่แม้ต้องโทษประหารก็ไม่อาจ ชดใช้ได้ ฉันก็จะตกลง…. (เอ็ม) ……สักห้าพันหยวน โอเคไหม?
อัปยศ
ช่างน่าอัปยศยิ่งนัก!
ข้างล่างมีเสียงโห่หัวเราะดังขึ้นมา ทุกคนหัวจนงอหงาย บางคน แทบจะพ่นน้ำเหล้าออกมาจากปาก
แต่ว่า การเผชิญความสบประมาทเช่นนี้ กลับไม่เห็นท่าทาง โกรธของเจียงชื่อเลย
การไม่แสดงออกใดๆ เช่นนี้
หรือจะบอกว่าเขาเป็นเศษสวะตั้งแต่หัวจรดปลาย ได้แต่รับคำ ไม่ กล้าพูด
หรือจะบอกว่าเขาเป็นพญาหงษ์มังกรท่ามกลางมนุษย์ มีนิสัยที่ มองข้ามโลก ไม่สะท้านดั่งภูผา
เหอเย่าหลงมีความรู้สึกไม่สะใจ เพราะเขาดูเจียงชื่อไม่ออก
หลังจากผู้คนหัวเราะเสร็จ เจียงชื่อก็ตรงไปที่ไมโครโฟน
“ตอนนี้ ถึงตาผมพูดบ้างแล้ว”
น้าเสียงเขาราบเรียบ เสียงต่ำลึก เป็นความรู้สึกถึงความขรึมที่มี อำนาจ ทำให้พวกที่หัวเราะหุบปากไปชั่วขณะ อดมองมาที่เขาโดยไม่ได้
เจียง อพูดว่า: “วันนี้ที่ผมมาที่นี่ เพื่อที่จะแจ้งเรื่องหนึ่งกับพวก คุณ ภายใน7วัน ให้พวกคุณทุกคนไปคุกเข่าที่หน้าสุสานน้องชาย ผมเป็นเวลา 5 ชั่วโมง เพื่อไถ่โทษ
“หา?”
ผู้คนข้างล่างเวทีมองหน้ากัน ต่างไม่เข้าใจความหมายของเจียง
ชื่อ
“คนคนนี้บ้าเหรอเปล่า? พูดอะไรงี่เง่า”
“จะให้พวกเราคุกเข่าให้คนเศษสวะ? เขาคู่ควรเหรอ?”
“ไม่ไหวแล้ว อยากจะทำให้กลิ้ง ไอ้โง่นี่โผล่มาจากไหน ไม่มีใคร จัดการเหรอไง?”
เจียงชื่อไม่สนใจคำวิจารณ์ของผู้คนข้างล่าง พูดต่อไปว่า: “7วัน ให้หลัง คนที่ไม่ทำตามที่ผมบอก จะต้อง…”
เขานําสมุดโน้ตเล่มเล็กสีน้ำเงินออกมา จะต้องถูกผมบันทึก เป็นบัญชีดำ”
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงโห่หัวเราะดังไปทั่วงาน
“บัญชีดำ? โอ้โฮเฮ้ย กลัวจังเลย”
“ทําไมไม่บอกว่าจะบล็อก QQ วีแชทของพวกเราซะด้วยเลยล่ะ? ฮ่าๆๆๆ”
“ไอ้นี่สมองเสื่อม มีน้องชายแบบไหนก็มีพี่ชายแบบนั้น
การข่มขู่ของเจียงชื่อ ไม่มีใครใส่ใจสักคน ต่างเห็นเจียงชื่อเป็น ตัวตลก
แต่ถ้ามีคนรู้จักอดีตของเจียงชื่อเข้าใจความหมายของเจียงชื่อ ก็จะไม่มองแบบนี้ เมื่อชื่อของคุณอยู่ในบัญชีดำของเจียงชื่อ คุณก็ เตรียมโลงศพไว้ล่วงหน้าได้เลย
เจียงชื่อเก็บสมุดเล่มสีน้ำเงินเล่มเล็กไปแล้ว
“จําไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ 7 วัน”
พูดจบ เขาก็ลงจากเวที เดินไปที่ประตูใหญ่ล็อบบี้
“หยุดนะ ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วเหรอ?”
เหอเย่าหลงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ ทันใดนั้น บอดี้การ์ด จำนวนหนึ่งก็ปิดปากประตูเอาไว้ไม่ให้โอกาสเจียงชื่อจากไป
เหอเย่าหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น: “เธอเห็นที่นี่เป็นอะไร อยากมาก็มาอยากไปก็ไปเหรอ ?”
“ถิ่นของฉัน ไม่ใช่ที่ให้ใครที่ไหนมาปล่อยตดเหม็นแล้วก็ไปได้”
“เจียงชื่อ เห็นแก่ผีน้องชายเธอใช้ชีวิตช่วยให้ฉันขึ้นตำแหน่ง ฉันก็จะให้โอกาสเธอสักครั้ง วันนี้ ขอแค่เธอคุกเข่าลงยอมรับ ความผิด ฉันก็จะอนุญาตให้เธอ…เอิ่ม…คลานออกจากประตูนี้”
เหอเจียหมิงพาบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้ แต่ละคนเอา กระบองไฟฟ้าออกมา
เมื่อครู่เขาเห็นเจียงชื่อก็ไม่ชอบหน้าเลย ตอนนี้สามารถจัดการ เขาได้อย่างเปิดเผยแล้ว
“คุกเข่า”
“ขอโทษ”
“คลานออกไปเหมือนหมาซะ!”
พนังงานของเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งส่งเสียงโห่กันระงม ทนรอดูการ แสดงของเจียงชื่อแทบไม่ไหว
เหอเจียหมิงใช้กระบองไฟฟ้าชี้ไปที่เจียงชื่อ “เร็วเข้า ได้ยิน
ไหม?”
เจียงชื่อยังคงเฉยเมยต่อไป
การรบกวนจากภายนอก ไม่สามารถรบกวนเขาได้แม้แต่นิดเดียว อารมณ์ของเขาเหมือนไม่เคยถูกก่อกวนมาก่อน
เหอเย่าหลงพูดอย่างเหลืออดว่า : “ดูท่าทาง คนบางคนจะไม่รู้ จักคำว่าผู้อ่อนแอมักตกเป็นเหยื่อ
“เขาไม่ยอมทำ ก็บังคับให้เขาซะ!”
“ครับ!”
เหอเจียงหมิงพาบอดี้การ์ดเดินไปทางเจียงชื่อ
สามเมตร
สองเมตร
หนึ่งเมตร!
ในระยะหนึ่งเมตรที่พวกเขาเข้าใกล้ตัวเจียงชื่อ ก็ไม่เห็นเจียงชื่อ จะขยับตัว ได้ยินแต่เสียงดังออกมา บอดี้การ์ดสองนายก็ลอยออก
ไป
ปัง ปังสองครั้ง บอดี้การ์ดสองคนล้มลงบนพื้นอย่างหนัก ปาก กระอักเลือดหมดสติไป
นี่มัน…
ที่เกิดเหตุอยู่ๆ ก็เงียบสงัด
“เมื่อก็เกิดอะไรขึ้น?
ไม่รู้ พริบตาเดียวสองคนนั้นก็ลอยออกมา หมดสติไป
“เล่น… เล่นกลเหรอ?”
เหอเจียหมิงกลืนน้ำลาย ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในใจ
“หมอนี่เป็นสัตว์ประหลาดเหรอไง?”
“พวกนายที่อยู่ ลุยเข้าไป!
บอดี้การ์ดที่อยู่มองหน้ากัน แล้วก็บุกเข้าไป ถือกระบองไฟฟ้า หมายจะตีหัวเจียงชื่อให้แตก
เจียง อแค่กวาดมือ ก็เหมือนลมกระโชกแรงพัดคนพวกนั้นออก ไปในคราวเดียวกัน
จากนั้น เขาก็ยกขาขึ้น เป็นเงาสายฟ้า บอดี้การ์ดก็ถูกขาเข้าที่ ท้องให้อย่างจังกันทุกคน ปังๆๆๆๆ เสียงดังเป็นระลอกออกมา แค่ พริบตาเดียว บอดี้การ์ดทั้งหมดก็กระอักเลือดกองอยู่บนพื้น
มีกระดูกหักไปหลายท่อน นอนเกลือกกลิ้งเจ็บปวดอยู่บนพื้น
ไม่มีใครหัวเราะอีก
พวกเขาเริ่มเข้าใจ ผลลัพธ์จากการถูกเป็นบัญชีดำมันร้ายแรงแค่
ไหน
เจียง อเดินมาถึงตัวเหอเจียหมิง วางมือบนหัวไหล่ของเขา เหอ เจียหมิงตกใจจนขาทั้งคู่สั่น คุกเข่าลงในทันที
“พี่ใหญ่ ผมสำนึกผิดแล้ว อย่าอัดผมเลย”
“ผมสนิทกับเจียงไม่มาก พวกเรายังไปดื่มเหล้าด้วยกันบ่อยๆ
“พี่ใหญ่ชื่อ ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ ปล่อย… ปล่อยผมไปเถอะ”
เจียง อยิ้มหี ฝ่ามือตบลงบนหัวไหล่เหอเจียหมิงสองสามแปะ ทุกแปะนําเอาเหอเจีย
หมิงต้องสะดุ้งโหยง
“ถนอมชีวิตไว้ให้ดีๆ
เจียงชื่อหันตัวไปทางประตูใหญ่ ทุกคนเปิดทางกันอัตโนมัติ ไม่มี ใครกล้าขวางสักคน
พอเห็นเจียงชื่อออกไป เหอเจียหมิงก็ถอนใจโล่ง
จากนั้น ก็ลุกขึ้นยืนซ่อนยิ้มพูดว่า “เจียงชื่อ วันนี้นายไม่ฆ่าฉัน เป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงที่สุด นายจะไม่มีโอกาสหน้าอีกแล้ว”
พอเจียง อเดินออกจากประตูใหญ่ เฉิงไฟก็รีบตามติดมาทันที
“คุณชายใหญ่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เจียงชื่อยิ้มแล้วตอบว่า “แน่นอนไม่เป็นไร ผมก็ออกมาดีๆ ไม่ใช่ เหรอ?”
“งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว”
“ลุงเฉิง ที่นี่ไม่เหมาะจะอยู่นาน ลุงกลับไปก่อน ไว้ว่างผมจะไป หา”
“ได้ งั้นผมขอตัวก่อน คุณชายรักษาตัวด้วย
หลังจากเฉิงไห่จากไป เจียงชื่อก็มาที่ถนนเพียงลำพัง คูเป้สีดำ คันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าเขา
เปิดประตู ขึ้นรถ
มู่หยางอีเห็นเจียง อนั่งที่หลังรถแล้วก็อดถามไม่ได้ว่า: “พี่ใหญ่ ทำไมต้องให้เวลาพวกเขา3วัน? จากกำลังของพี่ คืนนี้ก็สามารถ กําจัดพวกมันได้หมด ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว”
เจียงชื่อไม่ตอบแต่ถามกลับ: “นายรู้ไหมทำไมแมวต้องจับหนู?”
“กิน?”
“ไม่”
“แมวไม่กินหนู ที่จับหนู ก็เพื่อดื่มกับช่วงการเล่นกับหนู ใน ระหว่างนี้ ทั้งที่หนูรู้ว่าจะต้องตาย แต่ก็ไม่สามารถหนีกรงเล็บของ แมวได้ อยากให้ปล่อยก็ยากอยากให้ตายก็ไม่ได้ ต้องกระเสือก กระสนทนทุกข์
“มนุษย์ พอรู้ว่าตัวเองต้องตาย ก็จะทำทุกทางให้รอด สุดท้ายพอ รู้ว่าไม่มีทางรอด ก็จะเกิดความสิ้นหวังและทุกข์ใจ”
“ให้พวกมันตายง่ายๆ เป็นการลงโทษที่ไม่สาสม
“ฉัน จะทำให้พวกมันสิ้นหวัง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ