จอมนักรบสยบสวรรค์

บทที่ 1 การกลับมาของเทพเจ้าสงคราม



บทที่ 1 การกลับมาของเทพเจ้าสงคราม

บทที่ 1 การกลับมาของเทพเจ้าสงคราม

ต้นเดือนกันยายน ลมหนาวในฤดูใบไม้ร่วง

ใบไม้ที่แห้งเหลืองร่วงหล่นลงบนหัวไหล่ที่กว้างหนา

เจียงชื่อยืนอยู่ใต้ต้นไม้แก่ มองไปบริเวณรอบๆ เป็นอาคารบริษัท เทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง

“พี่ชาย พวกมันร่วมมือกันวางแผนทำร้ายผม ผมอยู่ต่อไปไม่ได้ แล้ว”

เมื่อสองเดือนก่อน

โซ่เงินทุนของเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งขาด ท่านประธานกรรมการ เจียงโม่ต้องแบกรับหนี้สินมูลค่าหนึ่งพันสองร้อยล้าน บริษัทถูก นำไปจำนองกับบริษัทเทียนติงของเหอเย่าหลง

“พี่ ผมขอโทษ ผมขอจากไปก่อน”

เวลาเที่ยงคืน เจียงโม่กระโดดลงมาจากดาดฟ้าของตึก เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ดาวรุ่งในวงการธุรกิจ ก็มาดับลงเช่นนี้

คนที่ตาแหลมต่างมองปัญหาตรงนี้ออก สนามการค้าก็เหมือน สนามรบ เจียงไม่เป็นเครื่องสังเวยที่น่าสงสาร

ในลมหนาว

เจียงชื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้ามองดวงดาวที่อยู่บน ท้องฟ้า

“โม่ พี่ขอโทษ พี่กลับมาช้าไป”

“วางใจเถอะ คนที่ทำร้ายนาย พี่จะให้มันตายไปกับนายทุกคน”

เมื่อ5ปีก่อน เจียงชื่อไปเป็นทหารสู้รบที่เวสเตอร์แลนด์

เริ่มจากการเป็นพลทหาร สังหารข้าศึกอย่างองอาจ ทำผลงาน นับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดก็ได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้คน นับถือเป็นเทพแห่งสงครามซูร่า

บัดนี้ เขากลับมาแล้ว
ในยามดึกสงัด เงาเสียงดังแซกๆ เดินออกมาจากความมืดยื่น สมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กให้กับเจียงชื่อ

เขาคือมู่หยางอี เป็นสหายรักที่ร่วมเป็นร่วมตายในสงครามกับ เจียงชื่อ

“พี่ใหญ่ พวกมันเป็นแค่มดตัวเล็กๆ ทำไมต้องลงมือเองด้วย?”

“แค่พี่สั่งการ ผมรับรอง ภายในสามวันบริษัทเทียนติงกับเหอเย่า หลง ทั้งหมดต้องหายไปจากโลกนี้แน่”

เจียงชื่อส่ายหน้าเล็กน้อย

“เรื่องบางเรื่อง จำเป็นต้องให้ฉันยุติเอง”

“กระผมเข้าใจแล้ว”

มู่หยาง พยักหน้าเล็กน้อย แล้วหายไปอย่างรวดเร็วปานสายลม ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

เจียงชื่อจัดแจงเสื้อเชิ้ต เดินไปยังอาคารเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งที่อยู่

ไม่ไกล
ตอนใกล้จะเข้าอาคาร มีชายชราท่าทางเหี่ยวเฉาคนหนึ่งสะพาย ย่าม เดินหลังโก้งโค้งออกมาอย่างช้าๆ ชนจังๆ เข้ากับเจียงชื่อที่ เนเข้ามา

“ขอโทษครับ…” ชายชราก้มหน้าเตรียมตัวขอโทษ พอเห็น ใบหน้าที่มีความแน่วแน่ของเจียงชื่อ น้ำในเบ้าตาก็เริ่มขึ้นมา ทันที”คุณชายใหญ่ กลับมาแล้ว?”

“ใช่แล้ว ลุงเฉิง ผมกลับมาแล้ว

เฉิงไห่เป็นพนักงานเก่าแก่ของบริษัทจิ้นเมิ่งเทคโนโลยี เห็น สองพี่น้องตระกูลเจียงเติบโตมาตั้งแต่เด็ก สำหรับเจียงชื่อแล้ว เขาไม่เพียงเป็นแค่พนักงานบริษัท ยังเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่สนิท เช่นเดียวกับคุณพ่อ

เฉิงไห่มองดูเจียงชื่อ แล้วก็หันกลับไปดูอาคารบริษัท ความรู้สึก ผิดหวังเกินกว่าจะเอ่ยออกมาได้

“คุณชาย กลับมาช้าไป

ในเวลานี้เอง ชายหนุ่มย้อมผมสีแดงคนหนึ่งปากคาบบุหรี่เดิน ออกมา

“ไอ้แก่ ยืดยาดอะไรอยู่ตรงนั้น?”
“ให้ไปเก็บของไสหัวไปไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้ายังไม่ไป เดี๋ยวพ่อจะต่อยเข้าให้หรอก”

เฉิงไห่พยักหน้าติดกัน “ครับๆๆ ไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้”

เนื่องจากความกลัวกับความรีบร้อน จนมือสั่น หย่ามตกลงบน พื้น ข้าวของข้างในกระจายไปทั่ว

“หึ ตาแก่ตายยาก กล้าทำพื้นฉันเลอะเหรอ?”

หนุ่มผมแดงสาวเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว ยกขาขึ้นยันเข้าที่ท้อง

ของเฉิงไห่

เสียงสนั่นดัง ปัง”

เฉิงไห่ยืนอยู่กับที่ไม่สึกหรอ แต่หนุ่มผมแดงกลับกองอยู่หลัง ประตูใหญ่ที่ห่างไปห้าเมตร

ร่างกายที่กำยำของเลี้ยงชื่อ ขวางอยู่หน้าเฉิงไห่

“แก แกกล้า ดฉันเหรอ?”
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?

เจียง อใช้สายตาที่เย็นชามองดูหนุ่มผมแดง เอาเท้าข้างหนึ่ง เหยีบลงบนหน้าเหอเจียหมิง

“แกเป็นใคร?”

เฉิงไห่ตกใจชั่วครู่ รีบตรงไปถึงเจียงชื่อออกมา พูดด้วยความ กลัวว่า

“คุณชายใหญ่ อย่าวู่วาม เขาคือเหอเจียหมิงเป็นหลานชายของ เหอเย่าหลงประธานกรรมการบริษัท พวกเราหาเรื่องไม่ไหว หรอก รีบไปเถอะ”

“ไป?”

เหอเจียหมิงลุกขึ้นยืนแล้วปัดแขนเสื้อ แค่กวักมือ หน่วยรักษา ความปลอดภัย7-8นายก็กรูกันเข้ามา ล้อมคนทั้งสองเอาไว้

“พวกแกคิดว่าจะไปได้เหรอ?”

เฉิงไห่ตกใจจนมือไม้สั่น รีบพูดไปว่า “ผู้จัดการเหอ ขอโทษด้วย จริงๆ คุณชายใหญ่เขาเพิ่งกลับมาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้โฉมหน้าคุณ ไม่รู้ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของคุณ ผมขอกล่าวคำขอโทษ แทนเขาด้วย”

“ขอโทษเหรอ?” เหอเจียหมิงเดินมาตบที่ใบหน้าของเฉิงไห่เบาๆ “ถ้าพูดคำว่าขอโทษแล้วได้ประโยชน์ จะมีตำรวจไว้ทำไม?”

*เอาเจ้ายุ่มย่าม แล้วก็ตาแก่นี่ ไปทำให้มันตายซะ

“ไม่ต้องยั้งมือ ฉันจะรับผิดชอบแทนพวกนายเอง”

“ลุย!”

หน่วยรักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่งถือกระบองไฟฟ้าล้อมกัน

เข้ามา

เฉิงไห่ร้อนใจจนน้ำตาแทบไหล “คุณชายใหญ่เอ๋ย คุณเจอ หายนะเข้าแล้ว จะทำอย่างไรดีเนี่ย?”

เจียงชื่อส่ายหน้าช้าๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว บังเฉิงไห่ไว้ ข้างหลัง

สําหรับเทพแห่งสงครามซูร่าที่ผ่านสงครามทะเลทรายมา หน่วยรักษาความปลอดภัยแค่ไม่กี่คน ไม่อยู่ในสายตาเขาเลย
ขณะที่บรรดาหน่วยรักษาความปลอดภัยเตรียมตัวจะลุย อยู่ๆ ก็มี รถยนต์BMWสีเงินมาจอดด้านนอกอาคารสำนักงาน

ประตูรถเปิดออก ชายสวมสูทรองเท้าหนังก็เดินออกมาจากรถ

คนผู้นี้ ก็คือประธานกรรมการบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง——เห อเย่าหลง

“เกิดอะไรขึ้น?”

บรรดาหน่วยรักษาความปลอดภัยพอเห็นเหอเย่าหลง ก็ตกใจรีบ

ยืนตัวตรง

เหอเจียหมิงเข้ามาสมทบพูดว่า “ลุงสอง มีคนก่อเรื่อง พวกเรา กำลังจะทำให้พวกมันเห็นซะบ้าง

“อ้อ? ใครมันกล้าขนาดนี้?

เหอเย่าหลงเดินเข้ามา มองดูเสร็จ ก็หัวเราะ

“โอ้ นี่เจียงชื่อไม่ใช่หรือ?”

ได้ข่าวว่าเมื่อ5ปีก่อนเธอไปเป็นทหาร ไม่ส่งข่าวกันเลยทำไมอยู่ๆ กลับมาล่ะ? ”

เหอเย่าหลงพูดกับเหอเจียหมิง “คนผู้นี้ ก็คือพี่ชายคนโตของ อดีตท่านประธานกรรมการ

เหอเจียหมิงแสยะยิ้มในใจ

อดีตท่านประธานกรรมการ เจียงไม่น่ะเหรอ? คนที่แบกหนี้สิน หนึ่งพันสองร้อยล้าน เศษสวะที่ถูกบีบให้กระโดดตึกตาย

น้องชายเป็นเศษสวะ แล้วพี่ชายจะได้แค่ไหนกัน?

เหอเย่าหลงหัวเราะเหอะๆ พูดว่า “เราต่างไม่ใช่คนนอก แค่เป็น เรื่องเข้าใจผิด ไป เข้ามาดื่มสักแก้วก่อน”

เขาดึงเจียงชื่อเดินเข้าไปในล็อบบี้

เหอเจียหมิงแอบแสยะยิ้ม เดินตามมาติดๆ

เฉิงไห่มองดูแผ่นหลังของเจียง อ เดินเข้าไปด้วยความเป็น ห่วง ร้อนใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขารู้จักเหอเย่าหลงเสือหน้ายิ้มผู้ นี้ดี พาเจียงชื่อเข้าไปไม่ใช่เรื่องดีแน่

“คุณชายใหญ่ อย่าเป็นอะไรเป็นอันขาดนะ”
ในบริษัท เจียง อตามเหอเย่าหลงมาที่ล็อบบี้

วันนี้เป็นงานประจำปีบริษัท พนักงานทุกคนแต่งตัวหรูหรามา ร่วมงาน แต่ละคนประดับไปด้วยมุกอัญมณี สวมเงินใส่ทอง ทำตัว อย่างกับพวกไฮโซ

เจียงโน่ตายไปยังไม่ถึงหนึ่งเดือน พวกเขากลับลืมมันนานไป แล้ว แล้วยังใช้ชีวิตอย่างมีรสชาติ มีความสุขเกินใดจะเปรียบ

เหอเย่าหลงพาเจียงชื่อขึ้นเวที ปรบมือ เป็นสัญญาณให้ทุกคน อยู่ในความสงบ

จากนั้น ก็หัวเราะเหอะๆ พูดใส่ไมโครโฟนว่า: “เพื่อนร่วมงานทุก ท่าน ขออนุญาตรบกวนเวลาทุกท่านหนึ่งนาที เพื่อแนะนำผู้ที่อยู่ ข้างกายผมผู้นั

“เขา ก็คือพี่ชายของเจียงโม่ อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ คนละโมบกลัวตาย เศษสวะที่กระโดดตึก——เจียงชื่อ” เหอเจียหมิงมีความสุขจนปากไม่หุบ นําเสียงโห่ร้อง

ผู้คนข้างล่างเวทีใช้สายตายั่วเย้ามองดูเจียง อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ