ตอนที่10 ให้ฉันใคร่ครวญก่อน
ในห้องออฟฟิศที่เงียบจนไม่มีเสียงสักนิด เสียงของ ฉันที่ดังออกมาจนหูจะหนวก
เมืออนุสิทธิ์แก็กระดุมอันที่สองในเสื้อเชิ้ตสีขาวของ ฉันออกมา ฉันเขินอายจนลืมคำขู่ของเขา ยื่นมือไปจับข้อมือ ของเขา “ท่านประธานอนุสิทธิ์ …อย่าทำแบบนี้..……….
เขาหยุดลงมาอย่างเชื่อฟัง ไม่รอให้ฉันได้ถอนหายใจ ออกมา ก็ได้ยินเขาพูดอย่างเย็นชา“ถ้าเธอเดินออกไปด้วย สภาพกระดุมหลุดออกหมด ฉันก็ไม่ถือสาอะไร”
เขาเหมือนไม่ได้พูดเล่น
ก้มหน้าลง ฉันมองเห็นนิ้วมือของเขากำลังดึงคอเสื้อ ของฉัน เหมือนตัดสินใจอยากจะลากเสื้อเชิ้ตของฉันให้เปิด ออก
ฉันตัวสั่นเทาไปนิด จมูกอดระคายเคืองไม่ได้ น้ำตา ทำให้สายตาฉันเลือนไปหมด
ถ้าหากกระดุมเสื้อโดนลากให้หลุดไปหมด ฉันยัง มีหน้าที่ไหนมาเดินออกห้องออฟฟิศนี้
ถ้าฉันผลักเขาออกไป แล้ววินัยจะทำยังไง
ถ้าฉันไม่ผลักเขาออกไป แล้วฉันจะทำยังไงอีก
นัย ฉันควรทำยังไง
ก้มหน้าลง น้ำตาหลุดออกดวงตาทันที แล้วหลุดลง บนหลังมือของอนุสิทธิ์พอดี พริบตาเดียวเขาเหมือนได้ อะไรลวกไป รีบสะบัดฉันออกไป แล้วจับทิชชู่หลายผ่านออก มาจากโต๊ะช้าเช็ดหลังมือ
ฉันรู้ เขาคือรังเกียจความสกปรก แต่ก็โชคดีที่เขา ได้ปล่อยฉัน ฉันรีบกลัดกระดุมด้วยมือสั่นๆ จัดเสื้อผ้าให้ เรียบร้อย
“ทิพย์สุดา นี่เธอทำแบบนี้ เหมือนฉันกำลังบังคับเธอ ขายบริการอยู่ เรื่องนี้เธอเป็นฝ่ายริเริ่มไม่ใช่
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม“ถ้าเธอ ไม่ยินยอม ก็ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ เธอสองคน ออกไปจาก บริษัทฉัน”
เสียงเขาไม่ค่อยดัง แต่พอเข้าไปในหูของฉันกลับดัง จนหูจะหนวก
ฉันยืนแข็งทื่ออยู่นั่น ก้มหน้ามองปลายเท้าของตนเอง ในใจสับสนไปหมด
ฉันอยากตบหน้าเขาแล้วหัวตัวไปเลยมาก และบอก กับเขาว่าฉันไม่เคยริเริ่มอะไรมาก่อนถ้าเขาทำแบบนี้อีก ฉัน จะไปแจ้งความ ฟ้องเขาล่วงละเมิดทางเพศในห้องออฟฟิศ
แต่ม่านตามีใบหน้าที่ชื่นชมยินดีของวินัยออกมา ฉัน ไม่สามารถแข็งใจได้
“พิมพ์ใจ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาทันที มองเห็นอนุสิทธิ์ยืนอยู่หน้า โต๊ะทำงานไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหน กดเพจเจอร์อยู่
“เอาการติดตั้งตำแหน่งเช้านี้ที่ฉันประกาศออก ไป..…………..
“ท่านประธานอนุสิทธิ์ อย่า…ฉัน…..
“เธอยังไง ทิพย์สุดา ความอดทนของฉันมีขีด จำกัด”มือของอนุสิทธิ์ยังคงวางอยู่บนเพจเจอร์ สายตาเย็น ชา
ฉันกัดฟัน“ท่านประธานอนุสิทธิ์ ท่าน ท่านให้เวลา ให้ฉันพิจารณา.….……
“หนึ่งวัน พรุ่งนี้เวลานี้ฉันต้องได้ยินคำตอบ ไม่งั้น….เธอ สองคนเตรียมใบลาออกให้เรียบร้อยเลย”อนุสิทธิ์สะบัดมือ ฉันออกไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
ฉันพยักหน้าอย่างงุนงง ก้มหน้าแล้วเดินออกห้อง ออฟฟิศของเขาอย่างเร็วๆ
ข้างนอกที่ด้วยความกลั้นของประตูนั้น ไม่มีกลิ่นหญ้าไม่มีการบีบบังคับของอนุสิทธิ์ ฉันสูบหายใจเข้าลึกๆด้วยขา สั่นเทา
“เป็นยังไง โดนด่าแล้ว”เสียงของพิมพ์ใจดังมา
“ไม่…….”ฉันมองเธอตาเดียว ก้มหน้าลงอย่างหวากผวา กลัวโดนเอมองออกอะไรไป
พิมพ์ใจเดินเข้ามา ตบไหล่ของฉันเบาๆ น้ำเสียงมี ความสงสาร” ทิพย์สุดา ทีหลังถ้ามีอะไรให้ผู้จัดการของเธอ มารายงานดีกว่า นี่เธอกว่าแทนเขาโดนด่าบ่อยๆเป็นเรื่อง อะไรกัน”
ฉันพยักหน้าตอบรับไป”ไม่ ไม่เป็นไร คุณเลขาพิมพ์ ใจ ฉันลงไปทำงานก่อน”
พูดจบฉันก็ก้มหน้าเดินไปอย่างรวดเร็ว
กลับถึงแผนกธุรกิจ ผู้จัดการอานนท์ ไม่อยู่ ไม่มีใคร สนใจที่ฉันกลับมา ฉันนั่งอยู่ที่ทำงานของตนเอง คว่ำอยู่บน โต๊ะ ในใจหงุดหงิด
ยากเหลือเกินทอดมาถึงเวลาเลิกงาน ฉันคว้ากระเป๋า แล้ววิ่งออกไปทันที
แผนกบุคคลอยู่ชั้นสิบสอง ฉันมองดูตัวเลขบนลิฟต์ อย่าง กระวนกระวายใจ
ใคร่ครวญไปบ่ายหนึ่ง ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา มัน เกี่ยวกับอนาคตของเรา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ