รักที่อันตราย สามีตัวร้าย

ตอนที่8 ฉันมาพบประธานอนุสิทธิ์



ตอนที่8 ฉันมาพบประธานอนุสิทธิ์

พอมาถึงห้องทำงาน ผู้จัดการอานนท์ก็ยิ้มดีใจราวกับ ดอกไม้และแสดงความยินดีให้กับฉัน

ฉันงุนงง เกิดอะไรขึ้นหรอ หรือว่าออเตอร์นั้นสำเร็จ

แล้ว”

“ขอแสดงความยินดีที่สามีของเธอเลื่อนขึ้นตำแหน่ง ไง”ผู้จัดการอานนท์ พูดไปและรอยยิ้มเต็มใบหน้า เพิ่งมา ทำงานหนึ่งปีกว่า ก็ได้เป็นรองหัวหน้าของแผนกบุคคล อนาคตข้างหน้าของสามีคุณต้องรุ่งเรืองแน่ๆ ทิพย์สุดา เธอ นี่แต่งได้สามีที่ดีจริงๆ ”

ฉันตะลึง ในหูมีแต่เสียงหึ่งๆวนเวียนอยู่ คำพูดของผู้ จัดการอานนท์ ฉันไม่ได้ยินเลยสักนิด ในสมองมีแต่เรื่องที่ วินัยได้เลื่อนขึ้นตำแหน่งแล้ว

ทำไมกะทันหันแบบนี้

ไม่รู้ทำไม ฉันนึกถึงคำพูดของอนุสิทธิ์ที่พูดในเมื่อ วาน เขาบอกว่าฉันยั่วยวนเขาเพื่ออยากจะให้วินัยได้เลื่อน ขึ้นตำแหน่งเพิ่มเงินเดือน

แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น

“ทิพย์สุดา ทิพย์สุดา”
ฉันสติกลับคืนมา มองเห็นผู้จัดการอานนท์ กำลัง โบกมืออยู่หน้าฉัน”นี่ เธอดีใจจนอึ้งไปแล้วรึ ทำไมพูดกับเธอ เธอไม่ได้ยินเลยสักนิด

“โทษทีค่ะ…เมื่อกี้ฉัน….รู้สึกตกใจมาก….. “ฉันพูดติดอ้าง

“เค อย่าอึ้งอยู่นั้นล่ะ คืนนี้เลิกงานค่อยไปฉลองกับสามี เธอดีๆ”ผู้จัดการอานนท์ พูดด้วยสีหน้าเข้าใจ

ฉันพยักหน้า”งั้นฉันไปทำงานก่อน

“โอ อย่าเพิ่งรีบ ท่านประธานอนุสิทธิ์บอกว่าเมื่อวาน เธอไปแค่เซ็นชื่อเอกสารเท่านั้น ยังไม่ได้รายงาน ตอนนี้ให้ เธอไปหาเขาอีกรอบ” ผู้จัดการอานนท์ เรียกฉันไว้

“คุณพูดอะไรนะ”ฉันตะโกนอยากตกใจ

ผู้จัดการอานนท์ มองฉันอยากแปลกประหลาด เธอ ตื่นเต้นอะไร”

“ไม่ ไม่ได้ตื่นเต้น ฉันก้มหน้าอย่างลนลาน“ฉันแค่คิด ว่า…เรื่องรายงานแบบนี้ ผู้จัดการคุณไปดีกว่า ฉันแค่พนัก งานเล็กๆจะไปรายงานกับบอสได้ยังไง”

“แม้จะจริงอย่างที่เธอพูด แต่ประธานอนุสิทธิ์เป็นคนที่ เรียกให้เธอไปเอง ถ้าปฏิเสธก็คงไม่ดี ถ้าเธอกล้าปฏิเสธ เธอก็ไปอธิบายกับประธานอนุสิทธิ์เอง ฉันไม่ไป “ฟังน้ำ เสียงของผู้จัดการอานนท์ รู้สึกเขาก็จําใจเหมือนกัน
ฉันทำได้แต่ตอบรับอย่างจำใจแล้วหันตัวเดินออกไป

ห้องทํางาน

ฉันเดินอยู่บนทางเดินอย่างเชื่องช้าตั้งใจถ่วงเวลา เพราะความไม่อยากไป เพิ่งเดินไปถึงหน้าลิฟต์ ก็โดน คนที่โผล่ออกมาจากข้างในกอดไปเต็มๆ

“ทิพย์ ทิพย์ ฉันได้เลื่อนขึ้นตำแหน่งแล้ว ฉันได้เลื่อน ขึ้นตำแหน่งแล้ว”

ฉันตะลึงไป เพราะไม่เคยเห็นวินัยตื่นเต้นขนาดนี้มา ก่อน แถมเขายังริเร่งกอดฉันไปด้วย แม้จะกอดแค่แป๊บเดียว

“ตัวเอง…..

“ทิพย์ คุณมา”เหมือนวินัยก็ได้ปรากกว่าตนเองยั้งสติไม่ อยู่ เลยลากฉันไปที่ปล่องบันได

“ทิพย์ ฉันได้เลื่อนขึ้นตำแหน่งแล้ว เพิ่งประกาศไป เมื่อกี้ ตอนนี้ฉันเป็นรองหัวหน้าของแผนกบุคคลแล้ว”เขา พูดกับฉันด้วยความตื่นเต้นที่ปิดบังไม่ได้

ฉันมองเขาอย่างงุนงง พูดยินดีกับเขาอย่างมั่น เฉย”ใช่ ใช่สิ ฉันได้ยินมาแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะตัว เอง”

“ทิพย์ เงินเดือนของรองหัวหน้ามากกว่าเมื่อก่อนตั้ง เยอะ เราจะได้มีชีวิตที่ดีแล้ว”วินัยยังคงดีใจไม่อั้น แค่พริบตาเดียวเขาก็วาดภาพอนาคตที่สวยงามของเราสองคนออกมา แล้ว

มองดูสภาพที่ภูมิใจของเขา ฟังเขารจนาอนาคต ฉันมี คำพูดเต็มทองแต่ก็กลืนลงไปอีก

“ทิพย์ ทำไมคุณไม่พูดล่ะ คุณไม่ดีใจหรอ”

เห็นฉันไม่พูด วินัยสงสัยไปนิด

ฉันรีบส่ายหน้า ดวงตาขึ้นไปนิดๆ “ไม่ ฉันดีใจมาก ตัว เอง ฉันรู้สึกภูมิใจต่อคุณ เมื่อกี้ผู้จัดการอานนท์ ยังบอกกับ ฉันว่า คุณเป็นรองหัวหน้าของแผนกบุคคลที่อายุน้อยที่สุด ตั้งแต่สร้างบริษัทมา

“ผู้จัดการอานนท์ ช่างพูดจริงๆ ฉันก็ไม่เด่นอย่างที่เขา ว่าหลอก…….…..วินัยหน้าแดงก่ำนิดๆ มีอายบ้างมีได้ใจบ้าง

ฉันสูบลมหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นก็กอดเขาไป แค่ วินาทีเดียว ไม่รอเขาดึงออก ฉันก็คลายมือ ยิ้มแล้วพูด ว่า”ตัวเอง ผู้จัดการอานนท์ให้ฉันไปรายงานกับบอส ฉันต้อง รีบไปแล้ว คุณอยู่ดีๆนะ คืนนี้ฉันจะทำอาหารอร่อยเพื่อฉลอง ให้คุณ”

“ไม่ คืนนี้เราจะไปกินอาหารหรูที่ข้างนอก”เขาตัดสินไป อย่างวีรอาจหาญ

ฉันพยักหน้าตอบรับไป เดินกลับไปนั่งลิฟต์กับเขาด้วยกัน เขาไปแผนกบุคคล ส่วนฉันจะขึ้นไปชั้นยี่สิบ

“คุณเลขาพิมพ์ใจ ฉันมาพบประธานอนุสิทธิ์..…….

ยืนอยู่นอกห้องออฟฟิศ ฉันพูดกับพิมพ์ใจอย่างหวาด

กลัว

เธอมองฉันอย่างแปลกหระหลาด “เป็นเธออีกหรื”

“ค่ะ ผู้จัดการอานนท์ให้ฉันมาพบประธานอนุสิทธิ์..……….

“เข้าไปเถอะ ประธานอนุสิทธิ์กำลังรออยู่”เธอพูดอย่าง ไม่ใส่ใจ ก้มหน้าทำงานตนเองต่อ

ฉันเดินถึงหน้าประตูห้องออฟฟิศของอนุสิทธิ์ สูบ หายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตูไป

ประตูนั้น เปิดออกมาอย่างกะทันหัน

พูดจริง ตอนฉันมาฉันมีอารมณ์โกรธอยู่ แต่ในขณะที่ ประตูเปิดออก ฉันกลับเกือบวิ่งหนีไป

นึกถึงคนที่อยู่ข้างในคืออนุสิทธิ์ ฉันก็ไม่กล้าเข้าไปแล้ว

“เอ๋ ทิพย์สุดา เธอไม่เข้าไปข้างหลังมีเสียงของ พิมพ์ใจดังมา

เอาแต่ยืนตรงนี้ก็ดูโง่เกินไป ฉันหันหน้าแล้วฝืนยิ้มให้เธอ แล้วมองเห็นเธอใบหน้าเต็มไปด้วยความเห็นใจ

เธอคงคิดว่าฉันมาโดนด่าอีกแล้วมั้ง

“เหอะๆ…”ฉันยิ้มแห้งๆแล้วกัดฟัน ก็เข้าไปในห้อง ออฟฟิศของอนุสิทธิ์

ยังไม่รอให้ฉันมองชัดสภาพข้างใน ประตูที่อยู่ข้างหลัง ก็ปิดไปอย่างกะทันหัน

ฉันตื่นเต้นขึ้นมา รีบโดนกลิ่นหญ้าที่จางๆล้อมรอบไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ