บทที่ 13 เขาพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า
“ไข่แล้ว” เพิ่งหวั่นชิงหันไปมองขึ้นสิ่งที่กำลังขับรถอยู่ ถามขึ้น ว่า “อาชายสามคะ…วันนี้อาได้ไปบริษัทหรือเปล่าคะ?
“ทำไมหรอ?” ชื่นสิ่งมองเธอจากกระจกหลัง
“คือฉันโทรหา นเงินไปหลายสาย แล้วส่งข้อความไปให้อีก ด้วย แต่เขาไม่ตอบกลับมาเลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าเขายังอยู่หรือเปล่า”
เหมือนจะมีแต่การที่ได้พูดต่อหน้ากับชื่นสิงในเรื่องของคู่กัน เฉิน มันทำให้ใจของเธอสงบนิ่งขึ้น ไม่คิดฟุ้งซ่านขนาดนั้นแล้ว
ยังไงแฟนหนุ่มของเธอ ก็คือคู่หันเฉินนี่นา!
ระหว่างฟัง ลู่ชื่นสิงขมวดคิ้ว ดูเคร่งเครียดขึ้น
ช่วงบ่ายที่เขาเข้าบริษัท ได้ยินคนอื่นบอกว่าหันเฉินวันนี้ติด ธุระ ออกไปตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้ว
แต่หันเฉินก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ออกไปข้างนอกแล้วไม่ ยอมรับสายของเซิ่งหวั่นชิง?
“อาชายสามคะ?” เห็นเขาไม่ตอบ เพิ่งหวั่นซึ่งก็ทักถามไปหนึ่ง
“ผมยุ่งมาก ไม่ทันได้สังเกต” คำว่า อาชายสาม ทำให้สีหน้า ของขึ้นลงเย็นชายิ่งขึ้น น้ำเสียงเยือกเย็น “บางทีเขาอาจจะงาน ยุ่งก็ได้หล่ะมั้ง” เห็นน้ำเสียงของฝ่ายชายไม่ค่อยดี ซึ่งหวั่นซิงค์ไม่กล้าพูด เยอะ เลยนั่งเงียบๆอยู่ที่นั่น
ในวันที่ฝนตก บนถนนมีรถเยอะมาก เพิ่งหวั่นซึ่งเห็นลู่ชั้นสิ่ง เปลี่ยนเส้นทางรถ ก็นึกว่าเขากลัวว่าทางข้างหน้าจะติด แต่ผ่าน ไปแค่ไม่กี่นาที รถก็หยุดจอดไว้ที่ห้างในใจกลางเมือง
เพิ่งหวั่นซึ่งยังมึนงงอยู่ ชั้นสิ่งที่ได้ลงจากรถไปแล้ว หลังจาก นั้นก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ พูดเสียงต่ำว่า “ไปเปลี่ยน เสื้อผ้าก่อน แล้วผมค่อยไปส่งคุณกลับบ้าน”
หา?”
เพิ่งหวั่นซิงอยากจะบอกว่ากลับบ้านไปเปลี่ยนก็เหมือนกัน แต่ พอเห็นลู่ชื่นสิงกางร่มขืนไว้อยู่ด้านนอกประตูรถ เหมือนกับว่าถ้า เธอไม่ยอมลงรถเขาก็จะไม่ไปไหน จึงทำได้แค่ลงรถไป
ภายในห้างเปิดแอร์อุณหภูมิปานกลางไว้อยู่ อากาศเย็นๆ เพิ่ง
หวั่นซิงที่ใส่แค่เสื้อบางๆไว้ก็ชัดวออกมา ทันใดนั้นก็มีเสื้อคลุม สูทคลุมมาจากด้านหลังของตัวเธอ
เสื้อสูทตัวนั้นยังมีกลิ่นน้ำหอมเฉพาะของผู้ชายคนนั้น ซึ่งหวั่น ซึ่งรู้สึกเก้ๆกังๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดปฏิเสธ เธอก้มหน้าเดิน พยายาม เปลี่ยนจุดสนใจไปที่อื่น
ล่นสิงเหมือนจะมองออกว่าเธอเดินโยกเยก “ขาเป็นอะไรไป
หรอ?”
เพิ่งหวั่นซึ่งรีบตอบ “เปล่าค่ะ ไม่เป็นไร เมื่อบิด โดนข้อเท้านิด หน่อย
แววตาของลู่ซ่น งดูเข้มขึ้น ก็ไม่พูดอะไร แต่แค่ขยับเข้าไป เดินใกล้ๆกับเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะล้ม
ชั้น3เป็นร้านขายเสื้อผ้าทั้งชั้น มีครบทุกแบรนด์
ลูนสิงบอกให้เพิ่งหวั่นซึ่งเลือกตามสบาย “เลือกไปสักสอง
สามชุดสิ เผื่อไว้”
เชิงหวั่น ง:
เดินเข้าไปในร้านหนึ่ง เพิ่งหวั่นซิง สุ่มเลือกแล้วเข้าไปลองสอง
ผ่านไปไม่กี่นาทีก็ออกมา เธอเห็นลู่ชื่นสิงห์วรองเท้าสีเทาส้น เรียบมาทางนี้ เธอยื่นมือไปรับ แต่เขาก็ไม่ได้ยื่นให้เธอ แต่พูดว่า
“นั่งลง”
เพิ่งหวั่นซึ่งพยักหน้า นั่งลงไปอย่างเชื่อฟัง
ชื่นสิงนั่งลงไปคุกเข่าหนึ่งข้าง ถอดรองเท้าส้นสูงให้เธอ แล้ว สวมรองเท้าคู่นี้ให้เธออย่างทะนุถนอม
ฝ่ามือของเขาใหญ่ และอาจเป็นเพราะต้องจับปากกามาเป็น หลายๆปีจึงทำให้ผิวมือด้านเล็กน้อย แล้วรวมถึง….
“อาชายสามคะ แต่ก่อนอาก็ชอบเล่นเกมส์ใช่ไหมคะ?” ใน ความทรงจําของเธอ คนที่ชอบเล่นเกมส์นั้นมือจะด้าน เพราะแต่ ก่อนเธอก็เคยเป็น ของ
มา แต่เพราะว่าหลายปีมานี้ไม่ค่อยได้เล่น มือก็หายด้านบ้างแล้ว การกระทำของสู่ชั้นสิ่งที่หยุดไปสักพัก “อืม” ตอบกลับหนึ่งที่
เพิ่งหวั่นชิงราวกับว่าค้นพบสิ่งแปลกใหม่ “จริงหรอคะ? ทำไม บังเอิญจัง? ตอนที่ฉันเรียนมหาลัยอยู่ ฉันก็ชอบเล่นมากเลยค่ะ แต่หันเงินเล่นไม่เป็น หลังๆฉันก็เลยไม่ค่อยได้แตะมันอีกเลย
นึกย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังเคยแต่งงานกับคนในเกมส์ด้วย นะ มีสามีในเกมส์ แต่ก็ไม่เคยได้เจอหน้ากัน
มีครั้งหนึ่งเธอเคยนัดกับเพื่อนเล่นเกมส์คนนั้น แต่เขาก็ไม่ได้ มาตามนัด หลังจากนั้นรูปโปรไฟล์ของเขาก็เปลี่ยนเป็นภาพสีดำ และไม่เคยเห็นเขาออนไลน์อีกเลย
จนมาถึงทุกวันนี้ เพิ่งหวั่นซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร
พอพูดถึงเรื่องอดีต แววตาของเพิ่งหวั่นซึ่งก็ดูสดใสขึ้นมา
ลู่ชื่นสิงสวมรองเท้าให้เธอและไม่พูดอะไร พอได้ยินประโยคที่ ว่า “หันเฉินเล่นเกมส์ไม่เป็น หลังๆฉันก็เลยไม่ค่อยได้แตะมันอีก เลย ทําให้เขาลงมือแรงขึ้น จนทำให้เพิ่งหวั่นซิงร้อง “โอ้ย” เจ็บ ออกมาหนึ่งที่เบาๆ บทสนทนาก็จบอยู่ตรงนั้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ