บทที่ 10 จะให้สัมภาษณ์ได้แล้วหรือยัง
ประธานที่ใหญ่ แน่นอนว่าโจวน่าน่าไม่กล้ามีเรื่องด้วย
“คุณโจวครับ” ผู้ช่วย งดันสั้นแว่นตรงจมูกเบาๆ พูดนิ่งๆว่า “แดดมาขนาดนี้ คุณคิดว่าคุณร้อนแล้วคนอื่นไม่ร้อนงั้นหรอ
ครับ?”
ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ช่วยของชื่นสิง โจวน่าน่าไม่กล้าแม้แต่จะ พูด ได้แต่ยิ้มตอบรับไป “ค่ะค่ะค่ะ ฉันจะไม่ให้มีเรื่องอย่างนี้เกิด นอีกค่ะ ฉันจะตั้งใจถ่ายละคร ”
ผู้ช่วยส่งตอบลืมไปหนึ่งว่า “อย่างงั้นก็ดี เพราะยังไงค่าเช่า รายวันที่นี่ก็แพงพอใช้ได้!”
โจวน่าน่าพยักหน้า
ส้งเหวินเซินพูดจบก็เดินจากไป โจวน่าน่าโมโหเก็บอาการไว้ ไม่ได้ จึงมองบนให้หลังของเขาหนึ่งที่ “อะไรกันคิดว่าตัวเองเป็น ใครกัน ถึงได้อวดดี…”
นึกไม่ถึงว่าสังเหวินเซินจะหันกลับมา ทำให้โจวน่าน่าตกใจจน แทบสำลัก รีบกลืนคำพูดที่เหลือเข้าไปแทบไม่ทัน
สั่งเหวินเซ็นมองไปที่เธอ หัวเราะเย็นๆ “อ้อ ใช้แล้วค่ะคุณโจว ท่านประธานบอกว่าให้คุณตั้งใจทำงานหน่อย ไม่เช่นนั้นก็ใสหัว ออกไปจากที่นี่ คุณ ฟังเข้าใจใช่ไหมครับ?” “เข้า เข้าใจค่ะ!”
โจวน่า สีหน้า ขาว
เพิ่งหวั่นซึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆดูโจวน่าน่าที่ถูกบีบให้พ่ายแพ้ในใจ เธอรู้สึกสะใจไปไม่รู้เท่าไหร่
ได้ยินสั่งเหวินเซินพูดอย่างนี้ เธออดกลั้นขำไม่ไหว แล้วรีบเดิน เข้าไป ยื่นใบสัมภาษณ์ไปให้โจวน่าน่า ยิ้มอ่อนๆ “คุณโจวคะ ครบ30นาทีแล้วค่ะ จะให้สัมภาษณ์ได้หรือยังคะ?”
“ได้สิได้สิ ได้อยู่แล้ว”
โจวนาน่านรับใบสัมภาษณ์ไว้ รอยยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้คน ชื่นชอบ “ขอโทษด้วยนะคะคุณเชิง เป็นเพราะว่าฉันถ่ายละครจน เหนื่อยมากจนหลับไป คุณคงจะไม่โทษฉันใช่ไหมคะ?”
ส่งเหวินเซินยังไม่ไป เพิ่งหวั่นซิงก็รู้ดีว่าผู้หญิงอย่างหล่อนคง ไม่กล้าทําอะไรตอนนี้
เพิ่งหวั่นซึ่งยิ้มอ่อนๆ “ไม่หรอกค่ะ”
ส่งเหวินเซินเหมือนจะพอใจมาก แล้วครั้งนี้ก็เดินจากไปแล้ว
จริงๆ
พอเขาเดินจากไป รอยยิ้มปลอมๆของโจวน่าน่าก็หายวับไป ทันที โยนใบสัมภาษณ์ไปที่นิ่งเหวิน แล้วยังมองตาขาว ให้กับเชิง
หวั่นชิง
ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนส่งร่มบังแดดกับไอศกรีมถั่วเขียวมาให้ น
ได้กินไอศกรีมถั่วเขียวในไต้ร่มนี้ ทำให้เพิ่งหวั่นซิงรู้สึกเย็น สด น นมามากเลยทีเดียว
แต่ว่าการที่แค่มาสัมภาษณ์แล้วมีการบริการดีขนาดนี้เลยน
หรอ?
ในใจเธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร
“เธอนี่ก็ทําเร็วๆหน่อยสิ เวลาของฉันมันมีค่ามากนะ เดี๋ยวก็ยัง มีอีกหลายฉากที่ต้องแสดง!” ช่างแต่งหน้ากำลังเติมแป้งให้โจ วนาน่าอยู่ โจวน่าน่าก็ยังไม่ลืมที่จะวางสีหน้าให้พวกเธอ
“อุ้ย!” เพิ่งหวั่นซิงตั้งใจทําปากกาอัดเสียงที่อยู่บนมือตกลงไป บนพื้นหญ้า ทำปากจู่ๆแล้วพูดว่า “นี่ไม่ได้ปิดที่อัดเสียงมาตลอด เลยหรอเนี่ย แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวอะไรที่ไม่สำคัญก็ค่อยไปลบ ออกทีหลังแล้วกัน”
โจวน่าน่าที่ยังอยากจะด่าคนอยู่ก็หยุดคำด่า ไว้ที่ลำคอ พูด ไม่ออกสักค่า
ถ้าหากผู้หญิงคนนี้เอาเสียงเธอที่อยู่ในเทปนี้ไปปล่อยหล่ะก็ มี หวังเธอไม่ได้มีโอกาสอยู่ในวงการบันเทิงนี้ต่อไปแน่
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นสีหน้าบูดบึงของโจวนาน่า เพิ่งหวั่นซึ่งยื่นไอ เพดไปให้เธอ “คุณโจวคะ ฉันว่าคำถามพวกนี้ไม่ลบจะดีกว่านะ คะ คุณคิดว่าไงคะ?”
โจวนาน่าโมโหจนวันหูจะออกมาแล้ว เธอไอเพดไว้แน่น “ได้ค่ะ เอาตามที่คุณพูดเลยค่ะ
อาจจะเป็นเพราะว่าเครื่องอัดเสียงนี้ยังอยู่ในมือของเพิ่งหวั่น ซึ่ง โจวนานาก็เลยทำตามทุกอย่าง สัมภาษณ์ทั้งหมดไม่เกินครึ่ง ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีถ่ายรูปกับพวกทีมงานของ สถานีอีกด้วย
เพิ่งหวั่นชิงลุกขึ้น ยื่นมือออกไป: “ขอบคุณค่ะ คุณโจว”
โจวน่าน่าเอาแต่จ้องไปที่ปากกาอัดเสียงนั่น
เชิงหวั่นซึ่งนึกขึ้นได้ ยื่นปากกาอัดเสียงนั้นไปให้เธอ “ขอโทษ ด้วยนะคะ! คุณโจว เมื่อฉันจำผิดหน่ะค่ะ ที่จริงปากกาอัดเสียงนี้ เสียอ่ะค่ะ ดังนั้น…
“พริบ!” โจวน่าน่าโมโหจนโยนบทที่อยู่ในมือทิ้ง ขึ้นไปยืนบน เก้าอี้ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ “ชื่อเซ่งหวั่นซึ่งใช่ไหม? ฉัน จําเธอไว้แล้ว!”
เพิ่งหวั่นซึ่งยิ้มกลับ: “ไม่ต้องจำหรอกค่ะ ไม่ต้อง
ช่างกล้องทั้งสองคนมองดูโจวน่าน่ากับผู้ช่วยที่เดินออกไป หัน ไปยกนิ้วโป้ง ให้เพิ่งหวั่นซิง
“เก่ง ใช้ได้เลยนะเธอ หวั่นซิง คนเรื่องมากขนาดนี้เธอยังมีวิธี จัดการจนได้!”
“พวกนายก็ชมฉันเกินไป” เพิ่งหวั่นซิงเม้มปาก ทันใดนั้นก็รู้สึก ว่ามีคนแอบจ้องเธอจากชั้นบนอยู่ตลอดเวลา “ภารกิจเสร็จสิ้น กลับกันเถอะ? กลับสถานี!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ