ไม่เทพแล้วไงครับ...จอมมาร

ตอนที่ 1 ทําไมปีศาจถึงได้อัญเชิญผู้กล้ากัน!!



ตอนที่ 1 ทําไมปีศาจถึงได้อัญเชิญผู้กล้ากัน!!

ผม “ซาชิ” ชื่อของผมอาจฟังดูแปลกๆ จากที่ถามคุณพ่อ มา คุณพ่อบอกว่า มันมาจากคำว่า “ซาชิกิวาราชิ” เป็นชื่อ ของเทพอารักษ์ที่นิสัยดี กระทั่งผมโตพอที่จะหาข้อมูล ต่างๆ ได้ ผมจึงเริ่มหาความหมายของชื่อตัวเอง “ซาชิกิ วาราชิ” ชื่อของเทพอารักษ์ที่หากมาอยู่ด้วยจะนำพาซึ่ง ความมั่งคั่ง แต่ผมกลับไม่ค่อยชอบใจเท่าไร นั่นก็เพราะ ว่า “ซาชิกิวาราชิ” เป็นชื่อของเด็กผู้หญิงน่ะสิ!

คุณแม่ของผมเป็นนักเขียนนิยายแนวแฟนตาซีชื่อดังอัน ดับต้นๆ ของประเทศ ส่วนคุณพ่อเป็นเจ้าของบริษัทผลิต เกมและอนิเมะรายใหญ่ คุณพ่อได้ผูกขาดผลงานของ คุณแม่ไว้ทั้งหมด หรือ…ถ้าจะพูดให้ถูก บริษัทของคุณพ่อ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณแม่ เพื่อความฝันสูงสุดของคุณแม่ ที่อยากจะเห็นตัวละครในนิยายของตัวเองได้โลดแล่นอยู่ ในโทรทัศน์ คุณแม่ที่ไม่เก่งเรื่องบริหารกับคุณพ่อที่แต่ง เรื่องราวและออกแบบตัวละครไม่เป็น จึงถือว่าเป็นทีมที่ ดีเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องทั้งหมดนั้นได้ปิดเป็นความลับกับ เพื่อนๆ ในห้องของผม ไม่มีใครรู้เลยว่าผมเป็นลูกของคน ที่มีชื่อเสียงขนาดนี้

และด้วยเหตุนี้ งานบ้านทุกอย่างก็เลยตกอยู่ที่ผม แต่ผม ชอบนะ! เพราะอะไรนะเหรอ? นั้นก็เพราะผมมีสิทธิ์ที่จะ ได้อ่านนิยายก่อนใครๆ และได้ลองเล่นเกมใหม่ก่อนคน อื่นๆ แน่นอนว่าผมก็ได้เงินเดือนจากคุณพ่อและคุณแม่ใน ฐานะคนตรวจสอบคุณภาพด้วย
ผมได้อ่านผลงานของคุณแม่มากมายตั้งแต่ผมจำความ ได้ คุณแม่แต่งนิทานด้วยตัวเองและเล่าให้ผมฟังตั้ง แต่เด็กๆ ทำให้ผมใฝ่ฝันถึงวีรบุรุต ผู้กล้า ที่ถูกเจ้าหญิง อัญเชิญไปเพื่อคลี่คลายปัญหาต่างๆ แข็งแกร่ง อ่อนโยน และความเท่ การถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกช่างน่าตื่นเต้น จนทำให้ผมหวังที่จะถูกอัญเชิญไปต่างโลกโดยเจ้าหญิง เข้าสักวัน ก็นั่นเป็นความฝันเล็กๆ ของผม แม้จะไม่มีทาง เป็นจริงก็เถอะ!

แต่ ณ เวลานี้ หญิงสาวคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่บัลลังก์สูงจาก พื้นที่ผมยืนอยู่ เธอดูสง่า ผมยาวสีแดงดูสวยงาม หุ่นดีจน ทำให้ชายใดเหลียวมองอย่างไม่ต้องสงสัย แต่…แววตา นั้นคมกริบจนน่ากลัว แค่ได้มองก็ทำให้ผมตัวเกรงจนขยับ ไม่ได้ ที่แขนของเธอมีเกร็ดและกรงเล็บสีแดงที่คล้าย ถุงมือยาวดูอันตรายมากพอที่จะบีบคอผมให้ตายได้ด้วย มือเดียว และปีกที่ดูเหมือนปีกของมังกรอยู่ข้างหลังของ เธอ

ด้านข้างของเธอนั้นมีโครงกระดูกร่างยักษ์ถือดาบที่ใหญ่ กว่าตัวผมสองเท่ากับสิ่งมีชีวิตสีเขียวตัวใหญ่ถือกระบอง ยืนอยู่ขนาบทั้งสองข้างของเธอ พร้อมทั้งชายแก่สวมชุด คลุมพร้อมกับไม้เท้าที่ดูแปลกตาที่เหมือนจะมองผมแบบ ไม่วางตาอยู่ไม่ไกลจากผมเท่าไร

“เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ดูอ่อนแอนี่นะหรือ…ผู้กล้า’?”

“ใช่แน่นอนขอรับ กระผมได้ใส่คำอธิษฐานลงในเวทอัญเชิญด้วยขอรับ ไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน”

ผมต้องรีบทําความเข้าใจบทสนทนาของผู้หญิงคนนั้น กับกับชายที่แก่ยื่นอยู่ข้างๆ ด้วยความหวั่นใจ สงสัยผม คงจะถูกอัญเชิญให้มาเป็นเสบียงแทนแหงๆ ผมจำเป็น ต้องได้ข้อมูลมากกว่านี้ สะกดความกลัวและแตกตื่นของ ตัวเองไว้ก่อน นิ่งเงียบรับฟังบทสนทนา แต่พอฟังดีๆ พวก เขาเรียกเราว่า “ผู้กล้า”…สินะ!

“โซป๊อป! นี่เจ้าอยากให้ข้าเอาเจ้านั่นไปต่อสู้กับมนุษย์ อย่างนั้นหรือ?! นี่เจ้าคิดอะไรอยู่กัน?! ข้าจะไม่ยอมฝาก ความเป็นไปของอาณาจักรให้กับเจ้านั่นแน่ๆ มันต้องเป็น เรื่องผิดพลาด! ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไรว่าเจ้านั่นจะกอบกู้ อาณาจักรของข้าได้?!”

“ท่านจอมมาร ได้โปรดให้โอกาสแก่เขาด้วยเทอญ

ขอรับ”

ที่ผมรู้ในตอนนี้คือ…ชายแก่ที่อยู่ข้างๆ ผมชื่อ “โซบ๊อป” กำลังพูดเข้าข้างผมอยู่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเป็น “จอมมาร” แล้วผมต้องไปต่อสู้กับมนุษย์สินะ อืม…นั่นสินะ…นั่น สิ…จอมๆๆๆๆ มาร บ้าไปแล้ว!!! เดี๋ยวๆๆ ผมมาที่นี่ได้ยังไง แล้วยังเป็นเรื่องผิดพลาด แถมยังต้องไปสู้กับมนุษย์อีก นี่ มันเรื่องอะไรกัน! ถ้าจอมมารอยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นที่นี่ก็เป็น อาณาจักรปีศาจนะสิ!!!
“เจ้าจะให้ข้าให้โอกาสกับเจ้านั่นสินะ…เฮ้อ! เช่นนั้นโซ ป๊อป ข้าเจ้าดูแลเจ้านั่นเจ็ดวัน เจ้านั่นต้องมีผลงาน 1 อย่าง และเจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องของเจ้านั่น อย่าให้เจ้า นั่นมาเกะกะลูกตาข้าเวลาอยู่ในปราสาท และหลังจากนั้น หากเจ้านั้นไม่สามารถทำผลงานได้ก็ปล่อยให้มันไปตาย ไกลๆ ซะ! เพราะคนอ่อนแอข้าไม่ต้องการ!!”

“ตามประสงค์ของท่านจอมมารขอรับ”

“เดี๋ยวสิ! นี่คุณจะอัญเชิญผมมาตามใจ พอไม่พอใจก็ จะปล่อยให้ตายเลยหรือไง?!ผมพลั้งปากพูดออกไป โดยที่ไม่ได้คิด เพราะการตัดสินชีวิตคนแบบนี้มันขัดกับ สามัญสำนึกปกติทั่วไปนี่นา

“ใคร…อนุญาตให้เจ้าส่งเสียงกัน!!”

“ผมเป็นคนที่ถูกอัญเชิญมาตามที่คุณต้องการ เรื่องนี้มัน ก็ต้องเกี่ยวกับชีวิตของผมอยู่แล้ว อย่ามาตัดสินแบบไร้ ความรับผิดชอบอย่างนี้นะ!!”

“นี่เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร!! ทำไมข้าจะทำแบบนี้กับเจ้าไม่ ได้กัน คนอ่อนแอไม่มีสิทธ์อะไร…ทั้งนั้น!!!”

“เออ…ท่านจอมมาร กรุณาสงบใจของท่านด้วยเถอะ ขอรับ” ชายแก่ที่ชื่อโซป๊อบก็พูดขึ้นมาขัดจังหวะของผม กับจอมมาร
“ผู้กล้า ท่านผู้นี้มีนามว่า ‘สกาเล็ต ซาตาน’ จอมมารของ อาณาจักรมืดที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ ท่านได้โปรดสำรวมด้วย ขอรับ แล้วข้าจะอธิบายท่านอีกครั้งหนึ่งเองขอรับ”

“จะเป็นใครก็ช่าง ผมจะใส่ใจคนที่ไม่สนใจชีวิตของผม ทําไมกัน พวกคุณต้องการผมเอง ผมก็อยู่ของผมดีๆ ที่ โลกของผม แต่ก็ถูกอัญเชิญมาตามใจชอบ แถมไม่พอใจ แล้วจะปล่อยให้ตายไปเฉยๆ ถ้าไม่อยากได้ก็ส่งผมกลับ ไปสิ!”

“ท่านผู้กล้า! พอเถอะ! อย่าทำแบบนี้เลย”

“เป็นจอมมารทั้งทีแต่กลับอัญเชิญมนุษย์มาเป็นผู้กล้า เพี้ยนหรือเปล่าเนี่ย?!”

“นี่เจ้าคงไม่รู้สินะว่าการอัญเชิญเจ้าต้องให้พลังเวท มากมายแค่ไหน กว่าจะส่งเจ้ากลับต้องใช้เวลาห้าสิบปีก ว่าจะรวบรวมพลังเวทได้ ซึ่งข้าคงไม่ใช้ส่งเจ้ากลับหรอก เพราะมันเปลืองพลังเวทและเป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี” จอมมารตอบกลับด้วยท่าทีที่ไม่ยี่หระต่อสิ่งใด้ พร้อมทั้ง ส่งสายตามเหมือนกับมองหนอนแมลงกลับมาทางผม

“คุณนี่สมกับเป็นปีศาจจริงๆ เลยนะ” ผมถึงกับกัดฟันพูด

“อ้อ! และอีกเรื่องหนึ่งข้าจะบอกให้เอาบุญ เวทอัญเชิญที่พวกข้าใช้ไปนั้น เป็นเวทอัญเชิญปีศาจ สามารถอัญเชิญได้แต่ปีศาจเท่านั้น เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะ ออกมาจากเวทอัญเชิญได้ก็มีแต่ปีศาจเพียงอย่างเดียว แล้วเจ้าที่ออกมาจากเวทอัญเชิญปีศาจ จะเป็นอะไรได้ กันเล่า….นอกจาก!”

“นี่คุณพูดเรื่องอะไรกัน!?” หลังจากที่พูดจบแล้ว จอม มารก็ส่งสายตากวนประสาทออกมาไม่หยุด

“โชบ๊อป เอาเจ้านี่ออกไปได้แล้ว!”

“ขอรับท่านจอมมาร” “ตามข้ามานี่สิขอรับ ท่านผู้กล้า!”

“เดี๋ยวสิ!!ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย!! เดี๋ยว!!”

ช่วงที่ผมยังสับสนอยู่กับคำพูดของจอมมารคนนั้น ผม ก็ถูกมือเย็นๆ ลากออกมาจากห้องโถงเดินไปตามทางที่ มืดมน ผมไม่ได้สังเกตเลยว่าสิ่งรอบข้างเป็นอย่างไร ผม ทั้งโมโห ทั้งตกใจ ทั้งประหลาดใจ สับสนไปหมด ผมไม่ เข้าใจว่าทำไมจอมมารถึงได้กล้าพูดเหมือนกับผมเป็น ปีศาจกัน

“ท่านไม่ต้องห่วงอันใดหรอกผู้กล้าเอ๋ย เมื่อถึงห้องพัก ของท่าน ข้าผู้นี้จะเป็นคนเล่าทุกอย่างให้ท่านฟังเอง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมก็ขออดทนความสงสัยไปอีกนิดแล้วกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ