ใช่ครับ...หนูเป็นลูกของประธานลี่

บทที่ 6 เซ็นชื่อ



บทที่ 6 เซ็นชื่อ

บทที่ 6 เซ็นชื่อ

เมื่อเห็นสองคนนั้นลงมาจากรถ สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อก็ดู เคร่งขรึมลง หันหน้าไปก็ไม่ได้เตรียมที่จะทักทาย

เมื่อพูดถึงคนประเภทไร้ยางอายเช่นนี้เจียงหยุนเอ๋อก็พยายามที่ จะทำเหมือนมองไม่เห็นเสมอมา

ผู้ชเหมยเหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ในแววตาแฝงไปด้วย ความดูถูก แล้วจึงหันกลับไปมองเจียงเย่เฉิง

“เย่เฉิง ถึงแม้ว่าคุณจะหวังดี แต่ฉันว่า มีใครบางคนไม่รู้สึก ซาบซึ้งเลย คุณก็คงจะทําอะไรไม่ได้ ที่พวกคุณคุยกันเมื่อกี้ฉัน เองก็ได้ยินทั้งหมด เป็นเธอเองที่เลือกละทิ้งทุกอย่าง

ผู้ชูเหมยพูดพลาง ก็หยิบเอกสารหนึ่งฉบับขึ้นมาจากในกระเป๋า แล้วหัวเราะอย่างภูมิใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ทำตามความปรารถนา ของเธอเถอะ สำหรับเอกสาร ฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้ บังเอิญมาพบกันที่นี่พอดี ก็เซ็นชื่อเสียเลยแล้วกัน”

บังเอิญ? คำพูดของผู้ชูเหมยช่างฟังดูไม่มีน้ำหนัก เมื่อกี้เจียงเ เฉิงเป็นคนพูดเองว่า ครั้งนี้ตั้งใจมาหาตน
เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะเยาะอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เจียง หนิงเอ๋อเองก็ยืนปิดปากหัวเราะอยู่ข้างๆ “พี่สาว ไม่คิดว่าเธอ จะเป็นคนใจกว้างขนาดนี้ สิ่งที่พ่อต้องการให้เธอ เธอบอกว่าไม่ รับก็คือไม่รับ แต่ว่า………เป็นเช่นนี้ก็ดี ในเมื่อเธอไม่เอาแล้ว ของ ทั้งหมดก็คงต้องตกมาเป็นของฉัน”

พูดจบ เจียงหนิงเอ๋อก็หัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ

เดิมทีคิดว่าถ้าหากต้องการให้เจียงหยุนเอ๋อยอมสละทรัพย์ สมบัติทุกอย่างด้วยตัวเอง คงต้องออกแรงเหนื่อยเล็กน้อย คิดไม่ ถึงว่าจะกลับตาลปัตรเป็นง่ายดายเช่นนี้

ตอนนี้ดวงตาของเจียงหยุนเอ๋อเบิกโพลง พอจะเริ่มเข้าใจถึง แผนร้ายของพวกเขา ผู้ชเหมยแสดงออกให้เห็นว่าเตรียมเอกสาร ฉบับนี้มาเป็นอย่างดี ส่วนเจียงเฉิงถึงแม้พูดต่อหน้าตัวเธอเอง ว่าอยากจะยกของบางอย่างให้ แต่ในที่สุดก็ยังพยายามอย่างสุด ความสามารถที่จะบังคับให้ตัวเธอเองยอมละทิ้งทุกสิ่ง

สองแม่ลูกนี ช่างร้ายกาจจริงๆ แต่ว่าเธอไม่มีทางจะปล่อยให้ พวกเขาดีใจได้นานนักหรอก

เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะขึ้นทันใด เป็นการหัวเราะที่ไม่มีเหตุผล ทำให้เจียงหนิงเอ๋อและผู้ชูเหมยรู้สึกเย็นวาบที่หลัง
“เจียงหยุนเอ๋อเธอคงไม่ได้คิดจะเล่นลูกไม้อะไรหรอกนะ เมื่อ ก็เธอเป็นคนพูดเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นรีบเซ็นชื่อตัวเองลงบน เอกสารซะ” ผู้ชูเหมยมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยสายตารังเกียจ แล้ว ยื่นเอกสารไปให้ คิดเพียงว่าให้เจียงหยุนเอ๋อรีบเซ็น ตัวเองจะได้ รีบไป

เจียงเย่เฉิงมองผู้ชูเหมยด้วยแววตาที่สลับซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ขัด ขวางสิ่งที่เธอทํา ในเมื่อความหวังดีของเขาไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แล้วเขาจะออกหน้าแสดงความเป็นห่วงเป็นใยไปทําไม?

ท่าทีของพวกเขาที่แสดงออกมา เจียงหยุนเอ่อล้วนเห็นทั้งหมด ในใจก็รู้ล็กหัวเราะเยาะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอคงไม่จําเป็นจะ ต้องเหลือเยื่อใยให้กับคนพวกนี้อีกต่อไป

เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลง แล้วเหลือบมองเอกสารที่ผู้ซูเหมยน มาให้ แล้วยื่นมือออกไปรับมา

เมื่อเห็นว่าง่ายดายเช่นนี้ ใบหน้าของผู้ชูเหมยก็เต็มไปด้วยความ สุข แต่วามสุขนั้นยังไม่ทันจะปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของเธอ ก็ต้อง ชะงักลง

แค่ได้ยินเสียง “ฉีก” แค่ครั้งเดียว ผู้ชูเหมยก็กำลังมองเจียงหยุน เอ๋อฉีกเอกสารออกเป็นชิ้นๆ
“เจียงหยุนเอ๋อเธอทำอะไรของเธอ!” เจียงหนิงเอ๋อคิดไม่ถึงว่า เอกสารที่ผู้ชูเหมยวางแผนจัดเตรียมมาอย่างยากลำบาก จะถูก เจียงหยุนเอ๋อฉีกออกเป็นชิ้นๆเช่นนี้ ทำให้โกรธจนโพล่งถามออก มา

เจียงหยุนเอ๋อมองเธอด้วยสายตายิ้มแย้ม และพูดอย่างไม่รู้สึก สะทกสะท้านว่า: “ในเมื่อพวกคุณพูดเองว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉันควร ได้รับ ฉันลองมาคิดดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็รู้สึกว่าสิ่งที่พวก คุณพูดนั้นก็ฟังดูมีเหตุผล ดังนั้นต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ต้องการ ละทิ้งมันแล้ว”

“เธอ!” เจียงหนิงเอ๋อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นิ้วของเธอชี้ไปที่จมูก ของเจียงหยุนเอ๋อแล้วพูดด้วยความโกรธว่า “เจียงหยุนเอ๋ออย่า ให้มันมากเกินไปนะ

“เกินไป? เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันทำเกินไป?” เมื่อได้ฟังสิ่งที่ เจียงหนิงเอ๋อพูด เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกว่าช่างน่าขำสิ้นดี “ที่ตอน นี้แม่ของฉันต้องเป็นแบบนี้ คงจะเป็นฝีมือของพวกคุณสองแม่ ลูก ดังนั้น ต่อจากนี้ไป ให้พวกคุณผลัดกันดูแลแม่ของฉัน ถ้าหาก พวกคุณทำให้เธอดีขึ้นเมื่อไหร่ อารมณ์ของฉันก็คงจะดีขึ้น พอ อารมณ์ของฉันดีขึ้น ไม่แน่ว่าคิดดูอีกทีอาจจะยอมตกลงก็ได้ พวก คุณว่ายังไงล่ะ?”

“เจียงหยุนเอ๋ออย่าหน้าด้านเกินไปหน่อยเลย!” ผู้ชูเหมยใบหน้า เคร่งเครียดและพูดกับเจียงหยุนเอ๋อเสียงเข้ม
จริงๆเธออยากจะไล่ซูม่านลีออกจากตระกูลเจียงตั้งนานแล้ว หลายปีมานี้ ถึงแม้เธอจะได้เข้ามาอยู่ในตระกูลเจียง แต่ก็ยังมี ฐานะที่ไม่อาจจะเชิดหน้าชูตาได้ อีกทั้งไม่ใช่คุณผู้หญิงที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย เธอกระวนกระวาย คิดอยากให้ซูม่านลีตายโดยเร็ว แล้วทําไมถึงจะยอมลดศักดิ์ศรีลงไปดูแล ม่าน ด้วยล่ะ!

เจียงเย่เฉิงโกรธจนปากสั่น แล้วจึงพูดตะคอกว่า: “เจียงหยุนเอ๋อ เธอจะเอายังไงกันแน่? ตอนที่ฉันจะให้เธอก็ไม่เอา ตอนนี้กลับไม่ ยอมละทิ้ง จริงๆแล้วเธอคิดจะทำอะไรกันแน่?

เจียงหยุนเอ๋อมองเจียงเฉิงที่กำลังโกรธตัวเองด้วยท่าทีเย็น ชา ในใจไม่มีความรู้สึกอะไรหลงเหลืออีกแล้ว เพราะเธอเองก็ไม่ ได้คาดหวังว่าเจียงเย่เฉิงจะเข้าข้างเธออยู่แล้ว ในเมื่อไม่มีความ หวัง แล้วจะรู้สึกผิดหวังได้อย่างไร?

“ฉันจะไปมีแผนการอะไรได้?” เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลงมามอง กระดาษที่ถูกฉีกอยู่เป็นชิ้นๆที่พื้นอย่างไม่ใส่ใจ เพียงแต่……….ไม่ อยากเห็นพวกคุณมีความสุขก็เท่านั้นเอง?”

“เธอมันอกตัญญู!” เจียงเย่เฉิงยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเจียง หยุนเอ๋อไว้ เขาใช้แรงเยอะเสียจนทำให้สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ เปลี่ยนไปทันที

ความเจ็บปวดบนข้อมือของเธอ ทำให้เธออยากที่จะสลัดออกไป: “เจียงเย่เฉิง ปล่อยฉันนะ!”

“เหอะ เจียงหยุนเอ๋อฉันว่าตอนนี้เธอดูจะไม่เคารพกฎเกณฑ์เอา เสียเลย เรื่องเมื่อกี้ฉันก็ไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อย แต่ตอนนี้ฉัน คงต้องย้ำกับเธอว่า ฉันเป็นพ่อของเธอ อย่างน้อยเธอก็ควรจะให้ ความเคารพฉันสักหน่อย!

คำพูดของเจียงเย่เฉิงทำได้เพียงแค่ให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึก หัวเราะเยาะเท่านั้น: “คุณคือพ่อของฉัน? คุณคือพ่อของฉันแต่ กลับปล่อยให้คนนอกมาทำแบบนี้กับฉัน? อย่ามาตลกหน่อยเลย”

คำพูดของเจียงหยุนเอ๋อทำให้เจียงเย่เฉิงรู้สึกโกรธเคือง บน หน้าผากมีเส้นเลือดสีเขียวเป็นริ้วบางๆปูดออกมา: “เจียงหยุนเอ๋ อห้าปีก่อน เธอทำเรื่องเช่นนั้น ทำให้ตระกูลเจียงของเราต้อง อับอาย และทำให้ฉันต้องพลอกขายหน้าไปด้วย ตอนนี้เธอจึง ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเรียกร้องอะไรมากมายขนาดนี้! ตอนนี้เธอรีบบอก ฉันให้ชัดเจน ว่าเธอจะเซ็นหรือไม่เซ็น?”

“ฉันไม่เซ็น คุณจะทำอะไรฉันได้?” เจียงหยุนเอ๋อเสียงแข็งและ พูดอย่างไม่ยอมแพ้

เจียงเย่เฉิงมองเธอด้วยสายตาดุร้าย ตอนนั้นเอง หมอและผู้ช่วย สองสามคนที่เจียงหยุนเอ๋อเจอในห้องผู้ป่วยเมื่อกี้นี้ก็เดินออกมา พอดี
“พวกคุณกำลังทำอะไรกัน!

เมื่อเห็นคนเริ่มเข้ามาห้อมล้อมหลายคน เจียงเย่เฉิงจึงรีบปล่อย มือ แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดทิ้งท้ายว่า: “เรื่องนี้ ช้าเร็วก็จะต้องจัดการให้ เรียบร้อย ให้เธอรีบตัดสินใจให้ชัดเจน”

เจียงหยุนเอ๋อถอยหลังไปหนึ่งก้าว สายตามองไปที่ข้อมือที่ เขียว าของเธอ แล้วก็หัวเราะเยาะ

“ไป พวกเรากลับกัน” เจียงเย่เฉิงพูดกับผู้ชูเหมยและเจียงหนิงเอ๋

เจียงหนิงเอ๋อเปิดประตูรถด้านหลัง แต่ก็หันกลับมามองเจียงหยุ นเอ๋อสายตาเหมือนมีเลศนัย

“พี่สาวที่แสนดีของฉัน ฉันสืบข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายที่ พบครั้งที่แล้วคือคุณชายใหญ่ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เธอช่างรู้จัก เลือกคบคนจริงๆเลยใช่ไหม? การแสดงของเธอครั้งนั้นก็ดูไม่เลว เสียดายที่…… …..ยังมีช่องโหว่อยู่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ