6
Chapter 6
“อย่าหาเรื่องกันดีกว่า” แดนตะวันพูดอย่างเบื่อหน่าย
“คนอย่างมึงนี่มันน่าหาเรื่องว่ะ” ธันวาเหยียดปากมองสบตา อีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน อัญชัญรู้ดีว่าคนทั้งสองไม่ลงรอยกัน เพราะมีเรื่องตั้งแต่หนหลัง สมัยที่เธอยังเป็นเด็กน้อย
“กูไม่อยากยุ่งกับมึง” แดนตะวันกระชากมือที่ธันวาตรงเข้ามา ขย่าคอเสื้อของเขาเอาไว้ ธันวานิ่วหน้าเมื่อมือใหญ่บีบมือเขาจน เจ็บ
“กูไม่เคยลืมว่ามึงทำระยอะไรเอาไว้
ธันวานิ่วหน้า พูดเสียงดุดัน
“คนอย่างยิ่งมันพูดไม่รู้เรื่อง” แดนตะวันโต้กลับ เขาเบื่อที่จะ ต้องพบเจอกับธันวา อดีตเพื่อนรักที่พูดจาไม่รู้เรื่อง
“มึงต่างหากไม่เป็นลูกผู้ชาย กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ
“ถ้าการเป็นลูกผู้ชายคือต้องรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ กว่าคนเราไม่ จำเป็นต้องเป็นลูกผู้ชายก็ได้ว่ะ” แดนตะวันตอกกลับ เขาไม่ชอบ ให้ใครมาพูดจาบังคับขู่เข็ญให้ทำอะไรตามใจเพื่อรักษาหน้า หรือเพื่อให้สบายใจ ในขณะที่เขาเป็นฝ่ายทุกข์ใจ ทุกอย่างมัน ต้องว่าไปตามจริง
เขาคิดเสมอว่าชีวิตเป็นของเขา ไม่มีใครบังคับอะไรใครได้ ถ้า ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยการบังคับมันก็อยู่ได้ไม่นาน สักพักก็ต้องทน ไม่ไหว
สำหรับอัญชัญนั้นไม่ใช่การบังคับ คนอย่างเขาถ้าไม่ต้องการ ใครก็บังคับไม่ได้แม้แต่บิดามารดา แม้พวกท่านจะสัญญิงสัญญา หมั้นหมายเขากับอัญชัญเอาไว้เขาก็ไม่สน หมั้นได้ก็ถอนได้ นั่น คือนิสัยตรงไปตรงมา พูดคำไหนคำนั้นของเขา ตอนนี้อัญชัญยัง เด็ก เขาคิดว่าเธอควรจะมีชีวิตที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูง ได้ เรียนหนังสือและได้เที่ยวเตร่ ก่อนที่จะมีครอบครัว
การมีครอบครัวนั้นมันต้องยกระดับความสัมพันธ์ไปอีกระดับ อัญชัญยังเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ไม่เหมาะจะเป็นนายหญิงของที่นี่ และเขาเองก็อยากให้เธอโตกว่านี้ นึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน แดนตะวันใบหน้าเล็กน่ารักของเด็กน้อยนามว่าอัญชัญได้ดี บิดามารดาของเขาจูงมือเธอกลับเข้าบ้านมาด้วยหลังจากที่แจ้ง ให้ทุกคนรับรู้ว่าจะอุปการะอัญชัญเอาไว้เพราะบิดามารดาของ เธอเสียชีวิต กะทันหัน เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก ปากแดง แก้มใส ผมนุ่ม หัวหอม หลบอยู่หลังมารดา พร้อมทั้งแอบมองคนแปลก หน้าที่รายล้อมอยู่รอบกายด้วยความสงสัย
เธอเป็นที่รักของเขารวมถึงคนที่นี่ตั้งแต่เหยียบย่างเข้ามาเป็น สมาชิกครอบครัว
อีกไม่กี่ปีหรอก แต่ตอนนี้เขาจะให้เธอมีความสุขไปก่อน พอแต่งงานกันจริงๆ เธอจะได้รู้ว่าเรื่องบนเตียงมันไม่ใช่เรื่องเล่น ขายของ ถึงเวลานั้นคนที่ทำท่าจะให้เขากิน อาจจะคลานหนีเสียด้วยซ้ำ
ทั้งแดนตะวันและธันวาจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร เรื่อง ราวแต่หนหลังหวนกลับมาในห้วงความทรงจำของคนทั้งคู่อีก
ครั้ง
“ไอ้แตน ถามหน่อยสิ”
“ถามว่าอะไร”
“ถ้าเราชอบใครสักคน เราจะบอกเขาไปดีไหมวะ
“ก็บอกไปสิ จะอมพะนำเอาไว้ทำไม” แดนตะวันตอบตามจริง ถ้าเขารักใครชอบใคร เขาจะเดินไปบอกตรงๆ ไม่อ้อมค้อมให้ เสียเวลา
“กลัวเขาไม่ชอบน่ะ
“ใครวะ” แดนตะวันเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“ลูกพลับไง ฉันชอบลูกพลับ” ธันวาพูดแล้วตาลอยหยาดเยิ้ม คิดถึงเพื่อนสาวคนสนิทแล้วรู้สึกหัวใจเต้นแรง มีความสุขอย่าง ประหลาดเพราะตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในห้วงรัก
“บอกไปเลย” แดนตะวันเชียร์เพื่อน
“แกว่าลูกพลับจะชอบฉันไหมวะ
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ใช่ลูกพลับ แต่ชอบหรือไม่ชอบก็บอกไป ก่อน มัวแต่คิดเยอะ เดี๋ยวคนอื่นก็ตัดหน้าไปหรอก”
“ฉันคิดว่าจะบอกลูกพลับเย็นนี้แหละ”
“เอาสิ เดี๋ยวลูกพลับก็มาทำรายงานบ้านฉันนี่หว่า จัดไปเพื่อน เดี๋ยวช่วยเอง” แดนตะวันตบบ่าเพื่อนเบาๆ อย่างให้กำลังใจ ซุกซ่อนสีหน้ากังวลเอาไว้อย่างมิดชิด
จริงๆ เขารู้นานแล้วว่าธันวาชอบลูกพลับ แต่ลูกพลับพยายาม แสดงออกว่ามีใจให้เขายามอยู่กันสองต่อสอง พออยู่กันสามคน ลูกพลับก็ไม่เคยแสดงออกให้ใครล่วงรู้ เขาไม่อยากว่าเธอเป็น คนไม่ดี แต่ลูกพลับมักใช้ให้ธันวาทำโน่นทำนี่ให้คล้ายหลอกใช้ เพื่อหวังผลประโยชน์เท่านั้น แม้ไม่อยากจะคิดแบบนั้น ก็อดจะ คิดไม่ได้
เขาต้องหมั้นหมายกับคู่หมั้นตัวน้อยอย่างอัญชัญ บิดามารดา ขอเอาไว้ จึงไม่สามารถรักใครได้อีก ผู้หญิงชั่วคราวเขามีบ้าง เพราะยังไม่แต่งงาน แต่ไม่เคยจริงจังกับใคร เรียกว่าวันๆ กันทั้ง
เขาค่อนข้างระวังตัวเอง ไม่เคยนอกลู่นอกทางจนไปทำใคร ท้องหรือต้องรับผิดชอบใครเป็นตัวเป็นตน ถ้าโอเคกันทั้งคู่ และ ไม่ได้บังคับขืนใจกัน เขาโอเคเสมอ แต่ถ้าเรียกร้องอะไร มากมายเกินเหตุ คงต้องเดินกันคนละทาง
“คุยอะไรกันอยู่จ๊ะหนุ่มๆ” เสียงหวานใสของลูกพลับทำให้ สองหนุ่มหันไปมอง
ธันวายิ้มกว้างทันทีที่เห็นหญิงสาวที่ตนรัก ลูกพลับเองก็ยิ้มให้ สองหนุ่มด้วยกิริยาน่ารักเช่นกัน
“ลูกพลับซื้อของกินมาเยอะแยะเลย วันนี้คงทำรายงานกันจนดึก” เธอชูของกินมากมายขึ้นมาให้สองหนุ่มได้
“ว้าว… ดีจัง ธันก็ซื้อเครื่องดื่มมาเยอะเลย” ธันวาร้องขึ้น… ก่อนจะยิ้มให้หญิงสาว ลูกพลับมองชายหนุ่มเจ้าของบ้านด้วย สายตามีความหมาย แต่แดนตะวันกระแอม บอกว่าจะเอา ของกินไปจัดใส่จานให้เอง ให้ลูกพลับกับธันวานั่งคุยกันไปก่อน เขาหันไปมองสบตาธันวาพยักหน้าให้กำลังใจอีกฝ่าย
ลูกพลับยื่นของที่ซื้อมาให้แดนตะวัน ชายหนุ่มจึงรีบรับไปเท ใส่จานในห้องครัว ธันว่านั่งมองหญิงสาวที่เขาแอบชอบ เธอเอง ก็ยิ้มหวานให้เขาเหมือนมีไมตรีจิต มือหนาลูบท้ายทอยไปมา อย่างเก้อเขินเมื่อคิดว่าต้องสารภาพรักกับเธอในวันนี้
“วันนี้ลูกพลับใส่ชุดน่ารักจังครับ” ธันวาชวนคุย
“ขอบใจจ้ะ ธันก็หล่อนะ แต่งตัวยังกับจะไปงานเลี้ยงน่ะ” เธอ พูดแล้วอมยิ้ม ในสายตาของธันวา ลูกพลับคือผู้หญิงสวยน่ารัก และอ่อนโยนอ่อนหวาน
“คือธันมีเรื่องจะบอกลูกพลับน่ะ” เขารวบรวมจิตใจ ตัวสั่น ใจ สั่น ตื่นเต้น ขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก
“อะไรเหรอจ๊ะ” ลูกพลับเอ่ยถาม มองเพื่อนชายอย่างรอคอย
“เอ่อ… คือว่าธน ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ธันวาอยากจะเขก หัวตัวเองแรงๆ ที่เขาไม่กล้า เดินขาสั่นมาทำใจอยู่ในห้องน้ำครู ใหญ่ แทนที่จะบอกเธอไปว่าชอบกลับพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น ลูกพลับเห็นเพื่อนชายขอตัวไปห้องน้ำ เธอจึงเข้าไปในห้องครัวเพื่อไปหาเพื่อนชายอีกคน
“ให้ลูกพลับช่วยนะแดน” เธอรีบอาสา
“ไม่ต้องหรอก ลูกพลับไปรอกินดีกว่า”
“ลูกพลับอยากช่วยนี่นา” เธอเบียดเข้าไปหา แดนตะวันเลย ถอยหนี
“แดนทำท่าเหมือนรังเกียจลูกพลับเลย”
“ไม่ใช่หรอก อย่าคิดแบบนั้นสิ
“ถ้าแดนไม่รังเกียจ แดนก็น่าจะรู้ว่าลูกพลับคิดยังไงกับแดน “มันเป็นไปไม่ได้หรอกลูกพลับ แดนไม่ได้คิดแบบนั้นกับลูก พลับ” เขาปฏิเสธเธอด้วยน้ำเรียบๆ
“แดนก็รู้ว่าลูกพลับคิดกับแดนเป็นเพื่อนมานานแล้ว ทำไม แดนถึงได้ใจร้ายนักล่ะ ลูกพลับบอกแดนไปตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่ ว่ายังไงลูกพลับก็จะรักแดนคนเดียว ยังไงชาตินี้ลูกพลับก็จะไม่ รักใครอีก”
“แดนกำลังจะหมั้น” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กับเด็กนั่นน่ะเหรอ” ลูกพลับทำเสียงไม่พอใจ แดนตะวันเห็น บ่อยๆ แต่คนอื่นอาจจะไม่เห็น ภายใต้สีหน้าอ่อนหวาน ลูกพลับ เป็นผู้หญิงเอาแต่ใจคนหนึ่ง
“ตัดใจจากแดนเถอะ มีคนที่รักลูกพลับจากใจจริงอยู่อีกคน” เขาพูดเปิดทางให้เพื่อนรัก ยังไงธันวาก็เป็นเพื่อนของเขา
“ใครกัน อ้อ… ธันวานะเหรอ ลูกพลับไม่ได้รักกัน และไม่มีวัน รักด้วย” ลูกพลับปฏิเสธเสียงเฉียบ “ยังไงลูกพลับก็รักแดน รัก มานานแล้ว แดนก็รู้ และจะรักตลอดไป จะไม่มีทางรักใครอีก แน่นอน” ธันวาที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอหญิงสาวจึงเดิน มาหาในห้องครัว เขาจึงได้ยินเพื่อนทั้งสองคุยกัน ได้ยินแต่ ประโยคสุดท้าย ประโยคก่อนหน้าไม่ได้ยิน แต่นั่นก็ทำให้เขา เจ็บจุกอยู่ในอก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ