เล่ห์รักเทพบุตรแดนทราย

Ep.1



Ep.1

ร่างเพรียวบาง ในชุดอาบายะห์สีดำที่ตกแต่งรอยตะเข็บด้าน หน้าด้วยการปักดิ้นเงินลงบนเนื้อผ้าเป็นลายทางสวยงามตั้งแต่ คอเสื้อจนถึงชายเสื้อตัวสวย คลุมศีรษะด้วยฮิญาบที่ปักเป็น ลวดลายสวยงามด้วยดิ้นเงินเช่นเดียวกัน กำลังวิ่งหนีใครบางคน ด้วยท่าทางอื่นๆ และแสนจะเหนื่อยหอบ

หญิงสาวที่เห็นแค่เพียงใบหน้าเนียนสวยหยุดพักชั่วครู่เพื่อ หอบลมหายใจเข้าปอด แต่เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดกาลาไบยา สีขาวที่คลุมศีรษะด้วยผ้าคลุมสีเดียวกันกำลังวิ่งตามมาติดๆ เท้า เล็กๆ จึงจำต้องขยับวิ่งต่อไปไม่หยุด

“เรฮายะห์! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงห้าวตะโกนก้อง พลางวิ่ง ไล่ตามคนตัวเล็กไปอย่างไม่ให้คลาดสายตา ชายหนุ่มไม่คิดเลย ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหนจะวิ่งไวราวกับ ลิงลมเช่นนี้

สาวน้อยหันมามองแวบหนึ่ง แต่ก็หาได้กลัวไม่ เธอยังคงวิ่ง หนีต่อไปไม่หยุด และต่อให้คนบ้าอำนาจจะร้องตะโกนห้ามเธอ เสียงดังเพียงใด คนที่ดื้อดึงก็หาได้สนใจ เท้าเล็กยังคงวิ่งและวิ่ง เพื่อจะหนีให้พ้นจากทุกคนที่คิดจะบงการชีวิตของเธอ

ฝันไปเถอะว่าจะหยุดให้จับได้ง่ายๆ ตึกสีส้มกลางเก่ากลาง ใหม่ข้างหน้าจำได้ว่ามันคือที่พักของเพื่อนสาวชาวไทยคนหนึ่งที่ เพิ่งรู้กันเมื่อสามอาทิตย์ที่แล้วที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวมานาท ย่านสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของรัฐดูไบ

เรฮายะห์วิ่งเข้าไปในตึกแล้วพูดกับพนักงานต้อนรับไม่ถึง นาทีก็วิ่งไปกดลิฟต์ ขณะที่ร่างสูงเกินสันทัดก็วิ่งตามมาไม่ลดละ ตอนแรกพนักงานต้อนรับไม่ยอมให้เขาเข้าไปข้างใน แต่เมื่อร่าง สูงล้วงอะไรบางอย่างให้พนักงานสาวทั้งสองคน พวกหล่อนก็คลี่ ยิ้มและยอมปล่อยให้ชายหนุ่มที่แววตาเต็มไปด้วยอำนาจน่า เกรงขามเดินผ่านเข้าไปข้างในแต่โดยดี

เรฮายะห์ หาเรื่องให้พี่ปวดหัวอีกแล้วนะ ดวงตาสีทราย มองประตูลิฟต์ที่กำลังปิดลงด้วยสีหน้าบูดบึง ก่อนจะรีบกดลิฟต์ อีกตัวข้างๆ ด้วยอารมณ์เดือดดาลสุดๆ กี่ครั้งแล้วที่น้องสาวของ เขาก่อเรื่องวุ่นวายไม่รู้จักหยุดจักหย่อน เจอปัญหาทีไรก็เอาแต่ วิ่งหนี ทั้งๆ ที่เขาพยายามจะยื่นมือเข้าไปช่วยแล้วแท้ๆ แต่แม่ น้องสาวตัวดีกลับคิดหนีเอาตัวรอดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง มันน่า โมโหนก

ร่างสูงในชุดกาลาไบยาสีขาวหยุดมองแผ่นหลังไวๆ ที่ผลุบ หายเข้าไปยังห้องๆ หนึ่งด้วยสายตามาดหมาย ก่อนที่ก้าวยาวๆ ย่างสามขุมตรงเข้าไปยังห้องๆ นั้นอย่างเร็ว แต่เมื่อไปถึงประตู ห้องของห้องนั้นก็ล็อกเสียแล้ว

ก๊อกๆ!

ชายหนุ่มยกมือขึ้นเคาะบานประตูเสียงดังลั่นโดยไม่เกรงใจ ใคร ผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีเจ้าของห้องก็ไม่ยอมเปิดประตู ออกมา
ก็อกๆ!!

เจ้าของร่างสูงที่ใบหน้าคมครามเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด ยกมือขึ้นเคาะบานประตูแรงๆ อีกครั้ง จนห้องข้างๆ เริ่มเปิด ประตูโผล่หัวออกมาดู แต่ก็สบตาเข้ากับดวงตาสีทรายคมเข้ม ดุดัน พวกที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านจึงพากันหดหัว กลับเข้าไปในห้องของตนเองแทบไม่ทัน

และผ่านไปอีกประมาณหนึ่งนาที ก็ไม่มีวี่แววว่าประตูบาน ใหญ่จะเปิดออกมาต้อนรับเขา ท่านชีคเรฮานย์ในคราบสามัญ ชนจึงตั้งใจจะยกมือขึ้นเคาะบานประตูตรงหน้าอีกครั้ง และครั้งนี้ ถ้าเจ้าของห้องยังไม่ยอมเปิดประตูให้เขาอีก ก็อย่าหาว่าเขาโหด ร้ายป่าเถื่อนก็แล้วกัน มือเรียวจึงยกขึ้นหมายจะเคาะประตูอีก ครั้ง

ผาง!

ยังไม่ทันที่มือเรียวใหญ่จะทันได้เคาะลงบนบานประตูไม้อัด ประตูบานใหญ่ก็เปิดออกมาอย่างรวดเร็ว จนกำปั้นหนาต้อง หยุดค้างกลางอากาศและเกือบจะโดนเข้ากับใบหน้าของเจ้าของ ห้องสาวแสนสวยที่มองมาอย่างเอาเรื่อง

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแต่ทว่าคมกับ จับจ้องใบหน้าคมคร้าม อย่างไม่กลัวเกรง ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ทาลิปกลอสสีพืชเหยียดยิ้ม เล็กน้อยคล้ายจะหยันเมื่อมองหนุ่มแปลกหน้าที่เสียมารยาทมา เคาะประตูห้องของเธอเสียงดังลั่น

สายตาสีทรายเป็นประกายระยับ ตะลึงมองร่างเพรียวระหงในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลกับเสื้อแขนกุดลายลูกไม้สีครีม บางเบาราวกับต้องมนต์สะกด รู้สึกว่าหาเสียงของตนเองไม่เจอ ไปชั่วขณะเมื่อตวัดสายตาจากเรียวขาขาวผ่องมาที่ดวงหน้าสวย ซึ่งปนเซ็กซี่นั้นอีกครั้ง ชายหนุ่มยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาคน นี้ ช่างสวยยั่วยวนโดนใจเขายิ่งนัก ชักอยากได้เธอไปเป็นนางใน ฮาเร็มของเขาอีกสักคนแล้วสิ

“คุณมาเคาะห้องของฉันทำไมไม่ทราบมิสเตอร์” เสียงหวาน แต่ทว่าหวนกระด้างเอ่ยถามออกมาอย่างเย่อหยิ่ง ไม่นึกหวั่น สายตาคมซึ้งสีทรายแม้แต่น้อย แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า แท้จริง แล้วหญิงสาวรู้สึกหวั่นไหวมากแค่ไหน ทว่าความหวั่นไหวเหล่า นั้นกลับถูกซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าที่แสนเย่อหยิ่งจองหองนั้น ตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะว่าเธอไม่เปิดใจยอมรับไมตรีของผู้ชาย หน้าไหนนั่นเอง

แค่เพื่อนร่วมงานธรรมดาหรือญาติมิตรที่สนิทสนมเธอยัง สามารถพูดคุยธรรมดาได้ แต่ถ้ามาเกี่ยวข้องเธอฉันชู้สาวหรือ มากกว่าเพื่อนเธอไม่มีทางยอมรับได้แน่ ประสบการณ์ที่ผ่านมา สอนให้เธอรู้ว่า ผู้ชายเจ้าชู้สันดานมันก็เลวเหมือนกันหมด ยิ่ง พวกที่ชอบส่งสายตาหวานๆ แบบผู้ชายตรงหน้านี้แล้วล่ะก็ ตัวดี เลยล่ะ

คิดว่าตนเองมีเสน่ห์มากสินะ เฮอะ แค่หางตาก็ไม่คิดจะแล พิชญาดาราปั้นสีหน้าเครียด ทำทีว่ารำคาญผู้ชายตรงหน้าเสีย เต็มประดา นั่นมันยิ่งทำให้เรฮานอยากจะแสดงอำนาจที่เขามี อยู่สั่งสอนเธอนัก อำนาจเสน่หาที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถที่จะปฏิเสธเขาได้ ยามเมื่อได้ใกล้ชิดแบบเนื้อแนบเนื้อ

“ผมมาตามหาน้องสาว ผมเห็นน้องสาวของผมวิ่งเข้ามาใน ห้องของคุณ” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ แต่ทว่าสายตากลับ จดจ้องที่ริมฝีปากอิ่มเล็กสีพืชไม่วางตา

“ฉันอยู่ในห้องคนเดียว ไม่เห็นมีใครวิ่งเข้ามานี่คะ สงสัยคุณ คงตาฝาดไป” เจ้าของห้องจอมหยิ่งเชิดหน้าตอบเสียงเรียบไร้ พิรุธใดๆ จนเรยานยนึกชมว่าเธอช่างเป็นผู้ร้ายที่ปากแข็งยิ่งนัก และสงสัยว่าทำไมหล่อนจะต้องโกหกด้วย ในเมื่อเขาแน่ใจล้าน เปอร์เซ็นต์ว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ สายตาของ “สิงห์แห่งทะเล ทรายอาหรับ แม่นยำาเสมอ

“งั้นผมขอเข้าไปค้นดูในห้องได้ไหม เพื่อความแน่ใจ” ดวงตา สีทรายเปล่งประกายเจิดจ้ามากขึ้น เมื่อเจ้าของห้องคนสวยไม่มี ทีท่าว่าจะยอมบอกความจริงว่าได้ซ่อนน้องสาวตัวแสบของเขาไว้ ข้างในห้องนอนของเธอ

“แล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องทำตามความต้องการของคุณด้วย” มือเรียวสวยกำลังจะเอื้อมไปปิดบานประตูเพื่อตัดบทการสนทนา แต่ก็ช้ากว่ามือหนาและความปราดเปรียวของร่างสูงใหญ่ที่เปิด ประตูออกกว้างและดันตัวเองเข้ามาในห้องของสาวน้อยจอม หยิ่งได้สำเร็จ และล็อกประตูเสียเอง

กร๊ก!

“นี่คุณ! คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องของคนอื่นโดยพลการแบบ นี้นะ ออกไป!” หญิงสาวตวาดแหวออกปากไล่เขาอย่างไม่ไว้หน้ามองร่างสูงสง่าน่าเกรงขามด้วยสายตาวาวโรจน์อย่างเอาเรื่อง ราวกับแม่เสือสาวหวงถิ่นที่ต่อต้านสุดฤทธิ์เมื่อถูกผู้อื่นรุกรานเข้า มาในเขตของตน

“ผมมีสิทธิ์ เพราะน้องสาวของผมอยู่ในห้องนี้” เรฮานย์เริ่ม เสียงดังมากขึ้น มองร่างระหงด้วยสายตาวาววับราวกับเจ้าป่าที่ มีอำนาจมากกว่าแม่เสือสาวที่ตัวเท่าแมวแต่คิดจะต่อกรกับ ราชสีห์หนุ่มอย่างเขา

ก็ให้มันรู้ไปว่าใครมันจะชนะ และที่สำคัญ ชีคเรฮาน ไม่ เคยแพ้ใครมาก่อนในชีวิต กะอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำไมเขาจะ เอาหล่อนไม่อยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ