ตอนที่ 3
“แกทำบ้าอะไรของแกเจ้านิค หนูอิงไม่หมดหรือไง” ทันทีที่ลูกชายเดินมาหยุดตรงหน้า เกรกอรี่ก็ตำหนิทันที
“ทําไมครับ คุณพ่อกลัวผิวเนียนๆ ของเมียเด็กจะเสีย หรือไงครับ”
“บ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ พ่อกับหนูอิงไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย
แกไปเอาความคิดชั่วๆ แบบนี้มาใส่หัวได้ยังไง ทุเรศ”
นิโคไลไม่เชื่อเพราะเขาเคยเห็นอิงบุญเข้าไปหาเกรกอรี่ บ่อยๆ ยามที่แม่ของเขาไม่อยู่บ้าน และแน่นอนว่าเขาไม่ เชื่อหรอกว่าเจ้าหล่อนจะเข้าไปนั่งอ่านนิทานให้บิดาของ เขาฟัง
“ผมเชื่อสายตาของตัวเองครับ”
“ก็เรื่องของแก ว่าแต่แกมีอะไรถึงเข้ามากวนโมโหฉันถึง ในห้องหนังสือนี่”
ผู้เป็นลูกชายทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวข้างกายบิดา
“ผมก็แค่จะมาให้คำตอบกับคุณพ่อ เรื่องอิงบุญ” เกรกอรี่เลิกคิ้วสูง ก่อนจะเอ่ยถามออกมา ในใจก็เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เพราะเกรงกว่าบุตรชายจะปฏิเสธ
“ฉันให้เวลาแกสามวันไม่ใช่เหรอ นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงดีเลย
ไม่ต้องรีบ คิดให้ดี
นิโคไลจ้องหน้าบิดาด้วยสายตาแน่วแน่ ก่อนเสียง กระด้างจะเล็ดลอดออกไปจากริมฝีปากหยักสวยแสน เซ็กซี่แผ่วเบา
“ผมคิดดีแล้วครับ”
“ถ้าคิดดีแล้ว ก็พูดออกมาเลย แต่อย่าลืมนะว่าแกจะไม่ เหลืออะไรเลย”
เพราะเกรงว่านิโคไลจะปฏิเสธเกรกอรี่จึงต้องข่มขู่ทิ้ง
ท้าย
ไหล่กว้างของนิโคไลไหวน้อยๆ ขณะเอนกายพิงกับ พนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย
“ผมจะแต่งงานกับอิงบุญ”
“ห้า…ว่าไงนะ!?”
เกรกอรี่ดีใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ โคไลดื้อดึงจนเขาคิดว่าไม่มีทางเอาชนะบุตรชายได้ แต่ ตอนนี้กลับผิดคาด
“ผมจะแต่งงานกับแม่อิงบุญนั่นด้วยตัวเอง แต่ผมมี เหตุผลดังนี้ครับ”
“เหตุผลอะไรของแกเจ้านิค”
เจ้าของชื่อแค่นยิ้มหยัน หรี่ตามองบิดานิ่ง
“ข้อแรกเพราะผมไม่ต้องการให้แม่นี่แย่งคุณพ่อจากคุณ แม่
“แกบ้าไปแล้ว ฉันกับหนูอิงไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” ผู้เป็นพ่อปฏิเสธแต่นิโคไลไม่เชื่อ และยังพูดต่อไป
“ข้อที่สอง ผมสงสารพี่คิลล์ เพราะผมรู้ดีว่าพี่คิลล์ไม่มี ทางรับมือยายผู้หญิงสำส่อนอย่างแม่อิงบุญได้ ต้องผม คนเดียว”
“แล้วไงต่อล่ะ”
เกรกอรี่กอดอกนั่งฟังบุตรชายคนเล็กสาธยายอย่างใจเย็น
“ข้อสุดท้าย ผมต้องการจะเอาคืนแม่นั่น ผมจะทำให้แม่ นั่นกระอักออกมาเป็นเลือด โดยที่ใครก็ไม่สามารถช่วย แม่นั่นได้”
“สุดยอดเจ้านิค แกนี่มันฉลาดเป็นกรด”
เกรกอรี่ประชดประชันลูกชาย แต่นิโคไลไม่สนใจเลย สักนิด
“ผมจะแต่งงานกับแม่อิงบุญ ให้แม่นี่นอนกอดทะเบียน สมรส ในขณะที่ผมมีผู้หญิงมากมายอยู่รอบกาย ดูสิว่าจะ ทนได้สักกี่นา”
“แกไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส”
“ไม่ได้หรอกครับคุณพ่อ ถ้าเกิดวันไหนผมเมาแล้วไป ปล้ำแม่นั่นเข้า มีลูกขึ้นมา ลูกก็ไม่ใช่สิทธิ์ของผมน่ะสิ”
คำพูดของนิโคไลทำให้เกรกอรี่ฉุกคิดขึ้นมาทันที จริง สินะ เขาลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย เขามัวแต่พยายามจะทำให้ อิงบุญท้องกับนิโคไลอย่างเดียว โดยลืมไปว่าถ้าไม่ได้จด ทะเบียนสมรสลูกที่เกิดมาจะเป็นสิทธิ์ขาดของมารดาคน เดียว
“นั่นสิ ฉันลืมไป ใช่แกต้องจดทะเบียนสมรสด้วย ส่วน หลังจากนั้นแกจะหย่าเมื่อไหร่ก็ตามแต่ใจแกต้องการ หรือว่าแกจะให้หนูอิงเขียนใบหย่ารอเอาไว้ให้เลยก็ได้”
แม้จะแปลกใจกับความคิดของบิดาซึ่งมันขัดแย้งกับสิ่ง ที่บอกให้เขาทํามากแค่ไหน แต่นิโคไลก็มองข้ามมันไป อย่างง่ายดาย เพราะตอนนี้กำลังคิดแค่เจ็บใจอิงบุญอยู่
“นั่นแล้วแต่คุณพ่อเถอะครับ”
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นก็เอ่ยลาบิดา
“ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ และหวังว่าคุณพ่อจะไม่เรียก
ว่าที่ลูกสะใภ้ของตัวเองเข้ามาบำเรอในห้องนี้อีก” “ไอ้ลูกคนนี้นี่ บอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันกับหนูอิงไม่ได้มีอะไร
กัน”
นิโคไลแค่นยิ้ม ก่อนจะพูดออกมา
“เรื่องแบบนี้ไม่มีใครยอมรับกันหรอกครับ ผมรู้ดี เอาล่ะ ผมไปก่อน สวัสดีครับ”
นิโคไลกำลังจะก้าวพ้นธรณีประตูออกไป แต่เสียงของเกรกอรี่ก็หยุดทุกการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้เสียก่อน
“พรุ่งนี้เช้าพ่อกับแม่จะบินไปโรม”
ผู้เป็นลูกหมุนตัวกลับมา คิ้วเข้มเลิกสูงด้วยความ ประหลาดใจ
“ไปเที่ยวหรือครับ”
“ใช่ พ่อจะพาแม่เขาไปร่าลึกถึงความหลังน่ะ และอีก อย่างแกจะได้เลิกหาว่าพ่อกับหนูอิงมีอะไรกันเสียที”
เขาไม่เคยเชื่อว่าบิดากับอิงบุญจะไม่มีอะไรกัน แต่ เพราะอยากให้มารดากับบิดามีความสุขเขาจึงจำต้อง แสดงความเห็นดีเห็นงามออกไป
“มันคือความคิดที่ดีครับ ผมอยากให้คุณพ่อมีแค่คุณแม่
เพียงคนเดียว”
“ก็ถ้าแกสัญญากับฉันว่าแกจะอยู่ที่นี่กับหนูอิงจนกว่าพ่อ กับแม่จะกลับมาจากโรม พ่อก็สัญญาด้วยเกียรติทั้งหมด ของตัวเองว่าพ่อจะทำให้แม่ของแกมีความสุข จะไม่ทำให้ แม่ของแกร้องไห้ ตกลงหรือเปล่าล่ะเจ้านิค”
ความจริงเขาไม่ควรจะตกลงเลย แต่เพราะความรักที่มีต่อมารดาทำให้เขาจำต้องตกปากรับคำออกไป เขาคงทน เห็นแม่ร้องไห้เพราะพ่อมามีผู้หญิงคนอื่นตอนแก่ไม่ได้ หรอก
“ผมรับปาก”
“ไม่ แกจะแค่รับปากไม่ได้หรอกเจ้านิค แต่แกจะต้อง สัญญา… สัญญาว่าจะอยู่ที่นี่ ไม่แอบแวบกลับไปมอสโก และห้ามติดต่อกับผู้หญิงคนอื่นอีกจนกว่าฉันกับแม่ของ แกจะกลับมา”
คนฟังกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด บ้าชะมัด นี่เขาจะต้องทนอยู่ ทนเห็นหน้ายายอิงบุญนั่นทั้งวันทั้ง คืนโดยไม่ได้มีโอกาสออกไปสูดอากาศที่อื่นเลยหรือไง นะ แต่เขาไม่มีทางเลือกนี่ ในที่สุดนิโคไลก็จำต้องรับปาก ออกไป
“ครับ ผมสัญญา”
ผู้เป็นบิดาระบายยิ้มพึงพอใจ มองเห็นความสำเร็จของ สิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ข้างหน้าแค่เอื้อม อีกไม่นานมันก็จะ สำเร็จแล้ว
“ดีมาก งั้นแกออกไปได้แล้วล่ะ ฉันจะอ่านหนังสือ”
“ครับ”
นิโคไลรับคำบิดาก่อนจะเดินออกมาจากห้องหนังสือซึ่ง เป็นห้องที่บิดาชอบเข้าไปหมกตัวอยู่ในนั่น เขาเดินลง บันไดไปเรื่อยๆ ก็พบมารดากำลังนั่งถักผ้าอยู่ที่ริมระเบียง ชั้นล่าง เถาวัลยีสีเขียวเกี่ยวพันไปรอบๆ ซีกไม้ระเบียงสี ขาวสะอาด
“กำลังทำอะไรอยู่หรือครับคุณแม่”
คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้น และเมื่อเห็นว่าเป็นบุตรชายก็ ระบายยิ้มกว้างออกมา
“แม่ถักผ้าพันคอให้พ่ออยู่น่ะ”
นิโคไลมองมารดาแล้วก็อมยิ้ม มารดาของเขาเป็นผู้ หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่ง งานบ้านยอดเยี่ยม ในขณะกิริยา มารยาทก็แสนจะงดงาม ผิดกับยายอิงบุญนั่นอย่าง ชัดเจน แต่ถึงแม้จะเกลียดชังเจ้าหล่อนยังไง แต่สมอง ของเขาก็มีเรื่องราวของแม่นั่นฝังอยู่เสมอ
“นั่งก่อนสินิค”
“ครับ”
ผู้เป็นลูกชายเลือกทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ไม้สีขาว สะอาดตัวตรงหน้ามารดา
“คุณแม่รักคุณพ่อมากไหมครับ”
คนถูกถามเงยหน้าขึ้น วางสิ่งที่อยู่ในมือ ก่อนจะระบาย ยิ้มกว้างออกมา
“รักสิจ๊ะ พ่อเป็นรักแรกของแม่เชียวนะ”
ยูริยิ้มหวานเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
“แล้วคุณแม่ใช่รักแรกของคุณพ่อหรือเปล่าครับ คือ ผม… แค่สงสัยเท่านั้น”
คนเป็นแม่ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบออกมาเสียงแผ่ว
เบา
“แม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่แม่เคยเห็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง ในหนังสือเล่มโปรดของคุณพ่อของนิค ผู้หญิงคนนั้นเป็น คนไทย หน้าตาสะสวยมากเลย หน้าตาคล้ายๆ กับหนูอิง นั่นแหละ พิมพ์เดียวกันเลยแหละ”
แม่ของเขาหัวเราะ แต่เขากลับหัวเราะไม่ออกเลย สมอง คิดไปไกลอย่างรุนแรง เพราะอย่างนี้นี่เองพ่อของเขาถึง ได้รับอิงบุญมาอุปการะ นิโคไลคิดอย่างเดือดดาล ทั้ง โกรธพ่อตัวเอง แต่กระนั้นก็ยังไม่เทียบเท่ากับความรู้สึก ชิงชังที่เขามีต่ออิงบุญสักนิด
“แล้วคุณแม่ไม่ระแวงคุณพ่อกับยายอิงบุญบ้างเลยหรือ ครับ”
“ไม่หรอกนิค แม่เชื่อใจพ่อของลูกเสมอ เรื่องในอดีตของ พ่อแม่ไม่เคยอยากรู้หรอก แค่ปัจจุบันพ่อของนิคไม่ทำให้ แม่เสียใจก็พอแล้ว และอีกอย่างถ้าพ่อของนิคสนใจหนูอิง จริงๆ ไม่มีทางที่คุณพ่อจะบังคับให้นิคแต่งงานกับหนูอิง หรอก”
นี่แหละคืออีกหนึ่งเหตุผลของบิดาที่เขาพยายามหาคำ ตอบเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ…
“ครับ ผมคงคิดมากไปเอง”
ยูริระบายยิ้มกว้างอย่างคนใจดี
“ถ้าคิดได้แบบนี้ก็อย่าไปอคติอะไรกับหนูอิงเลยนะนิค หนูอิงน่าสงสารนะ กำพร้าทั้งแม่และพ่อ”
แม้เสี้ยวหนึ่งจะรู้สึกสงสารเวทนาแต่เขาก็จำต้องเก็บเอา ไว้ภายในอก
แม่เขาก็ช่าง เสียเหลือเกิน
นิโคไลคิดอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที เพราะยิ่งพูดถึงแม่อิงบุญมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่ง หงุดหงิดงุ่นง่าน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“เห็นคุณพ่อบอกว่าจะพาคุณแม่ไปรำลึกความหลังที่โรม พรุ่งนี้นี่ครับ”
ยูริเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“จริงเหรอนิค ทำไมแม่ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย
ไหล่กว้างของนิโคไลไหวน้อยๆ
“สงสัยคุณพ่อคงอยากจะเซอร์ไพส์คุณแม่มั้งครับ”
ผู้เป็นมารดายิ้มหวาน ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความสุขจนนิ โคไลอดรู้สึกมีความสุขตามไปด้วยไม่ได้ เขาอยากเห็น แม่มีความสุขแบบนี้ไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งวิธี เดียวที่จะทำได้นั่นก็คือการจัดการจับแม่อิงบุญขังเอาไว้ ในกรงนรกของเขาอย่างแน่นหนานั่นเอง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ