เมียผมไม่ใช่สุนัขจิ้งจอก

ตอนที่ 4 พบหน้า



ตอนที่ 4 พบหน้า

“ข้าน้อยชั่งกวนจีนมาพบคุณหนูเงี่ยนแล้ว!” หลังจากที่เห็นสาว ใช้รุ่นใหญ่สองคนรอรับใช้อยู่ข้างฉากกั้นห้องรับแขกในสวน ดอกไม้และรองเท้าปักลายที่อยู่ด้านหลังฉากกั้น ซึ่งปรากฏออก มาโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกที่ไม่มีความสุขของชั่งกวนจีนก็ อันตรธานหายไป

เดิมที่คิดว่าคุณหนูห้าของตระกูลเยียนคนนี้ก็เป็นคนที่ไม่รู้ จักกาลเทศะ นึกไม่ถึงว่าจะขอพบตัวเขาด้วยตัวเอง…แม้เขาจะ เป็นพ่อบ้านของตระกูลซึ่งกวน แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นชาย แปลกหน้า นางในฐานะคุณหนูที่ยังไม่ได้ออกเรือนจะพบเขาดู ออกจะไม่เหมาะสมเล็กน้อย…ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหญิง สาวในยุทธภพคงเป็นเรื่องปกติ แต่นางไม่ใช่หญิงสาวในยุทธ ภพ! อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงมารยาทของคุณหนูห้าผู้นี้ แล้ว ก็เป็นมารยาทที่รู้จักกาลเทศะเช่นกัน ฮูหยินก็ไม่ได้เรียก ร้องให้นายน้อยทำการแต่งงานอย่างไร้ประโยชน์

“พ่อบ้านชั่งกวนไม่ต้องมากพิธี! จื่อหลัว เชิญพ่อบ้านนั่งลง แล้วรินน้ำชา” เยี่ยนมี่เอ๋อร์ไม่ได้แอบมองพ่อบ้านใหญ่ที่เล่าลือกันว่ามีกลอุบาย มากมายคนนี้อย่างอยากรู้อยากเห็น แต่เชื้อเชิญให้เขานั่งลง อย่างสุภาพ

“ขอบคุณคุณหนู!” ซึ่งกวนจีนกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลง อย่างเป็นธรรมชาติ กล่าวขานกันว่าคุณหนูห้าแห่งตระกูลเยียน ผู้นี้เป็นหญิงงามสะคราญกิริยาสง่างาม แต่การกล่าวขานเช่นนี้ ก็มีเพียงฮูหยินที่พูดเท่านั้น ในสายตาของฮูหยิน คุณหนูห้าแห่ง ตระกูลเยียนคงไม่มีอะไรที่ด่างพร้อย คนที่มาทำพิธีหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของคุณหนูห้าแห่งตระกูล เยี่ยน เพียงแต่เอาเงินติดสินบนจึงรู้จากปากของสาวใช้ว่า คุณ หนูห้าแห่งตระกูลเยียนเป็นผู้เลอโฉมที่สุดในตระกูลเยียน คุณ หนูใหญ่กับคุณหนูรองของตระกูลเยียนนั้นไม่ต้องเอ่ยถึง ชั่วคราว คุณหนูสามกับคุณหนูนั้นค่อนข้างสวยสะพรั่ง แม้จะ ไม่ถือว่าเป็นหญิงงามคู่ควรเมืองอะไร แต่ก็ยังมีความสวยคม ด้วยริมฝีปากทาสีชาด ฟันขาวสดใส แก้มระเรื่อดั่งลูกท้อ คิ้ว โก่งดุจผลซิ่ง คิดว่าคุณหนูห้าต้องได้รับการยกย่องว่าเป็นสาวที่ โดดเด่นที่สุดในตระกูลเยียน เสียงของนางฟังดูก็เข้าที่ตาม แบบฉบับหญิงงามตามที่สาวใช้พวกนั้นกล่าวไว้ เดิมที่คุณหนูผู้ นี้มีอุปนิสัยใจคออ่อนโยนที่สุด เพียงแต่นางเศร้าเสียใจที่มารดาจากไปและถูกไฟไท่ ของครอบครัวบีบบังคับ สารพัดวิธี ก่อนจะเริ่มเย็นชา ไม่ชอบพูดเล่นหัว แต่นิสัยก็ยังดี อยู่ เสียงนั้นฟังดูนุ่มนวลและอ่อนโยน ดูท่าข่าวที่สอบถามมาจะ ไม่มีอะไรผิดปกติ

“ได้ยินนายท่านบอกว่าพ่อบ้านมาเพื่อหวังให้ตระกูลเยียน

ส่งญาติออกเดินทางไปก่อน?” เขียนเอ๋อร์ถามอย่างจริงจัง

นางจงใจผ่อนคลายน้ำเสียงเล็กน้อย เสียงของนางคล้ายกับ

มารดาที่ตายจากไปมาก ล้วนเป็นเสียงที่นุ่มนวลและหวาน

หยาดเยิ้ม ยามที่นางโกรธถ้าไม่พูดจาก็จงใจเย็นชาหรือเรื่อง

ช้า หากนางพูดด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนคนอื่นๆ

ไม่เพียงไม่สามารถบรรลุผลตามที่คาดหวังได้ แต่ยังจะทำให้

ผู้คนเข้าใจผิดคิดว่านางทำตัวงอนตุปัดป้อง

“ขอรับ ฮูหยินเป็นผู้เอ่ยปาก! ฮูหยินทราบดีว่าคุณหนู สุขภาพอ่อนแอ หากจัดพิธีแต่งงานเมื่อมาถึงโจวทันที กังวล ว่าคุณหนูจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แล้วร่างกายจะทนไม่ ไหว” ซึ่งกวนจิ้นกล่าวด้วยความเคารพ ฮูหยินค่อนข้างเอาใจ ใส่ลูกสะใภ้ที่ยังไม่ออกเรือนผู้นี้ มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนาง เสมอ ซึ่งทำให้คนรับใช้ทุกคนในตระกูลซึ่งกวนรู้สึกเคารพต่อ ภรรยาคุณชายทั้งที่ยังไม่ได้ปรากฏตัว
“แล้วฮูหยินได้บอกหรือไม่ว่าจะให้ออกเดินทางไปเมื่อใด

กัน?” เขียนเอ๋อร์ยังคงไว้หน้ารับน้ำใจนี้อยู่ในใจ นางได้ยิน

มาว่าหวงเยวี่ยเอ้อฮูหยินของชั่งกวนก็เป็นนายที่พูดคำไหนคำ

นั้นของตระกูลซึ่งกวน ด้วยเหตุใดนางจึงไม่นึกถึงตัวเองใน

อดีตที่ยังไม่ได้ออกเหย้าออกเรือนก็ให้ตำแหน่งอันมีเกียรติกับ

ตัวนางเช่นนี้ล่ะ!

“ฮูหยินกล่าวว่า ตราบใดที่คุณหนูรู้สึกว่าเป็นไปได้ ขอให้ คุณหนูกำหนดวัน ข้าน้อยนำคนรับใช้มากว่าห้าสิบคน จะรอคำ สั่งของคุณหนูอยู่ที่เมืองอู่โจว!” คำพูดของชั่งกวนจนทำให้เยี่ย นมเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรอีก

“เป็นเช่นนี้เอง!” เยี่ยนเอ๋อร์บ่นพึมพำครู่หนึ่ง นี่ถึงจะ เหมือนวิธีการของตระกูลซึ่งกวน นายท่านเขียนจึงรีบบอกว่าจะ ออกเดินทางวันพรุ่งนี้ เกรงว่าเขาต้องการไปโจวโดยเร็วที่สุด เพื่อนัดดูตัวให้กับลูกสาวทั้งสองที่ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้สินะ

“นายท่านเขียนบอกว่าเขาหวังจะได้เดินทางเร็วกว่านี้ แต่ ข้าน้อยยังคิดว่าให้คุณหนูตัดสินใจในตอนนี้จะดีกว่า” ซึ่งกวน นรู้ดีว่าที่นายท่านเขียนบอกก่อนหน้านี้ว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดีนั้นเป็นความคิดของเขาเอง และไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเขียนเอ อร์เลย

“นายท่านพูดถูกเสมอ ข้าเป็นลูกสาวก็ไม่ดีที่จะคัดค้าน คำพูดของเยี่ยนเอ๋อร์ทำให้สั่งกวนจนรู้ว่าการคาดเดาของเขา ถูกต้อง และยังได้ฟังเขียนเอ๋อร์พูดว่า “เพียงแต่ข้าเพิ่งหาย จากอาการป่วยหนัก อยากจะพักสักวันสองวัน เจ้าว่ารอที่จู่โจว สักสองวันจะได้หรือไม่?”

“ข้าน้อยเพิ่งมาถึงเมืองอูโจว และต้องการพักชั่วคราวสัก หน่อย ก็ต้องใช้เวลาเก็บรวบรวมสินเดิมของคุณหนูด้วย ออก เดินทางในอีกสองวันก็จะดีมาก” ซึ่งกวนจีนพูดด้วยความเข้า อกเข้าใจ

“ขอบคุณมาก!” เยี่ยนเอ๋อร์รู้ว่านายท่านเขียนไม่ ต้องการให้นางพูด ซึ่งกวนจีนคนนี้ทำได้ดีมาก

“ยังมีอีกอย่างหนึ่ง!” เขียนเอ๋อร์กล่าวอีกครั้ง

“คุณหนูเชิญพูด!”

“ข้ารู้ว่ามันไม่เหมาะที่จะพบครอบครัวของสามีก่อน แต่งงาน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องคุยกับฮูหยิน ถ้าทำได้ละก็ ขอ ให้เจ้าฝากบอกฮูหยิน ให้ฮูหยินส่งแม่นมส่วนตัวมาถ่ายทอด ค่าพูดก็ได้!”

“นั่นไม่ใช่ปัญหา! ลานบ้านอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้คุณหนู นั้นได้เก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แม่นมสองสาม คนที่มีเครื่องประดับบนศีรษะล้วนเป็นคนใกล้ชิดของฮูหยินได้ อยู่ข้างในแล้ว เพื่อให้คุณหนูสบายใจได้” คำพูดของชั่งกวน นทำให้เขียนเอ๋อร์ยกยิ้มเจื่อนๆ ดูท่าแม่สามีในอนาคตผู้นี้จะ เอ็นดูนางเสียจริงๆ

“ขอบคุณมากจริงๆ!” เขียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความจริงใจ นางเหลือบมองไปที่จื่อหลัวที่รอรับใช้อยู่ข้างๆ จื่อหลัวขยิบตา และยื่นถุงเงินที่เตรียมไว้ก่อนแล้วให้นั่งกวนจีน

“นี่คือ…” ซึ่งกวนจนพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “ความใจดี ของคุณหนูข้าน้อยขอน้อมรับด้วยใจ ของขวัญนี้มีกล้ารับ!”

“รับไว้เถอะ!” เยี่ยนเอ๋อร์กล่าวด้วยความจริงใจ “ข้ารู้ว่า ตระกูลซึ่งกวนก็มีกฎอยู่ นี่เป็นเพียงน้ำใจแรกพบของเราเท่านั้น เอง ต่อให้นายท่านซึ่งกวนกับฮูหยินจะรู้เรื่องนี้ ก็จะไม่ตำหนิ เลย!”

“ขอบคุณคุณหนู” ซึ่งกวนจีนจึงต้องรับไว้เขารู้ด้วยว่าเยี่ยนเอ๋อร์ถามคำถามเสร็จแล้ว จึงกล่าวด้วย ความเคารพนบนอบว่า “ผู้น้อยยังมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อน!

“ลู่หลัว ส่งพ่อบ้าน!”

“เจ้าค่ะ!”

“คุณหนู ท่านให้ของมากเกินไป…” จื่อหลัวรู้ว่ามีอะไรอยู่ ในถุงเงิน นางรู้สึกงงงวยเล็กน้อยกับความตั้งใจของคุณหนู

“เหมาะสมมากแล้ว จื่อหลัว แม้ตระกูลซึ่งกวนจะเป็น ตระกูลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในใต้หล้า แต่เจ้าอย่าลืม พวกเขา เป็นตระกูลในยุทธภพ รากฐานใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือยุทธ ภพที่เราไม่คุ้นหูคุ้นตา ข้าไม่รู้ว่ายุทธภพเป็นอย่างไร แต่ข้ารู้ว่า ยุทธภพนั้นอันตรายแค่ไหน พ่อบ้านใหญ่ของตระกูลซึ่งกวน ยัง เป็นพ่อบ้านที่มีแซ่ซั่งกวน ไม่ว่าแซ่ของเขาจะมาจากไหน ก็ แสดงให้เห็นว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา เขาจะต้องมีชื่อในยุทธภพ อยู่บ้าง ด้วยฝีมือของเขาก็ดี น่าจะแข็งแกร่งกว่าผู้คุ้มกันพวก นั้นที่นายท่านเชิญมาซึ่งอ้างว่าเป็นยอดฝีมือในยุทธจักรหลาย สิบถึงหลายร้อยเท่า! เขาต้องรู้จักยาเม็ดนั้น สำหรับเขาแล้ว การมียาเม็ดนั้น ก็เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง มันจะเป็น ประโยชน์มากกว่าการให้เงินทองเขาจริงๆ!เยี่ยน เอ๋อร์คํานวณอย่างชัดเจน

“แต่นั่นเป็นของที่ไปไม่รองเหลืออยู่นะเจ้าคะ!” จื่อหลัว รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ นางไม่รู้ว่าของแบบนั้นทำอะไรได้ บ้าง แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ไม่รองวางไม่ลงก่อนตาย ได้ยินว่าได้รับ พระราชทานมา

“ของสิ่งนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับข้า แทนที่จะปล่อยให้มัน

หายไปในมือข้า สู้เอามาเป็นของขวัญแสดงน้ำใจจะดีกว่า”

เยี่ยนเอ๋อร์กล่าวอย่างราบเรียบ มันเป็นเพียงยาแก้พิษ

ศักดิ์สิทธิ์เม็ดหนึ่งที่ได้รับพระราชทานมา สำหรับนางแล้วจึง

เปล่าประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่ามารดาเก็บไว้ให้ คงถูกทิ้งไปนาน

แล้ว

“คุณหนู…”

“กลับห้องเถอะ ยังมีเรื่องต้องทำอีก ข้าไม่อยากพบใครใน สองวันนี้ โดยเฉพาะนายท่านกับไข่ไก่” เมื่อเห็นลู่หลัวหันกลับ ไป เยี่ยนเอ๋อร์ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรอีก จึงลุกขึ้นกลับไป ที่ห้อง จื่อหลัวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหุบปาก

“หา นี่คืออะไร?” เมื่อมองเห็นถุงเงินที่ซึ่งกวนจิ้นหยิบออกมาจากอกเสื้อ เด็กรับใช้ที่เดินเข้ามาใกล้คนนั้น

ดูฉลาดปราดเปรียวและหน้าตาคมคายก็ถามอย่างอยากรู้

อยากเห็นมากว่า “สาวใช้จากตระกูลเยียนอะไรนั้นตกหลุมรัก

เจ้าตั้งแต่แรกเห็น แล้วมอบของแทนใจให้กับเจ้างั้นหรือ? แต่ก็

ไม่ถูกนะ? แม้เจ้าจะเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าก็

อายุปาเข้าไปสี่สิบปีแล้ว…

“นี่เป็นรางวัลจากคุณหนูห้าตระกูลเยียน” ซึ่งกวนจีนขัด จังหวะการพูดเป็นต่อยหอยที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้วกล่าวว่า “นางเรียกข้าไปถามไม่ใช่หรือ? นางบรรลุเป้าหมายแล้ว ย่อม จะให้ผลประโยชน์กับข้าเล็กน้อย!!

“คนใช้เหรอ? ลุงจีน หญิงสาวคนนั้นกล้าคิดว่าเจ้าเป็น คนใช้จริงหรือ?” เด็กรับใช้ท่าทางไม่พอใจอัดแน่นเต็มอก แล้วพูดว่า “นางไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นผู้ช่วยมือฉมังของท่านพ่อ นางไม่รู้หรือว่าเจ้าดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนใน ตระกูล งกวนทั้งหมด? นางไม่รู้…

“เอาล่ะ!” ซึ่งกวนจนรู้สึกขุ่นข้องหมองใจ เขาแค่ไม่ทัน ระวังตัว จะถูกคนยั่วยุให้อารมณ์เสียเช่นนี้ได้อย่างไร ตอนนี้จะ เสียใจก็สายไปแล้ว “คุณหนูที่ดีของข้า คุณหนูห้าตระกูลเยี่ยนเพียงแค่เป็นบุตรสาวที่ยังไม่ออกเรือน ซึ่งปกติถือกันว่าไม่ ออกนอกประตูใหญ่ ไม่ล่วงข้ามประตูสองที่จำกัดเฉพาะหญิง เท่านั้น นางจะรู้จักข้าได้อย่างไรเล่า?”

“ลุงจีน เหตุใดนางจะไม่รู้จักเล่า?” คุณหนูที่แต่งกายเป็น เด็กรับใช้ของชั่งกวนถามอย่างงุนงง “ใครในยุทธภพจะไม่รู้จัก ชื่อเสียงของเจ้า…”

“นางไม่ใช่คนในยุทธภพ!” ซึ่งกวนจีนมองคุณหนูที่ไม่โต คนนี้ด้วยอาการปวดหัว นี่คือบุตรสาวคนสุดท้องของฮูหยิน

ซึ่งกวน ซึ่งกวนจึงอิ๋งอายุเพียงสิบห้าปี อยู่ภายใต้การดูแล ของคนในครอบครัว นางจึงเป็นเด็กที่ไม่รู้ถึงฟ้าสูงแผ่นดิน อะไรเลย

“นั่นสินะ!” ซึ่งกวนจึงวิ่งครุ่นคิดสักพัก และเห็นด้วยกับคำ พูดของชั่งกวนจีน จากนั้นก็เริ่มสงสัยถุงเงินแล้วเอ่ยขึ้นว่า “รีบ ดูสิว่า มีอะไรอยู่ในนี้? ใบไม้ทองคำหรือเหรียญเงิน? หรือไข่มุก อะไรอย่างนั้น?”

ซึ่งกวนจีนมองดูอย่างจนใจ ในขณะที่นั่งกวนจึงวิ่งคว้าถุง เงินจากมือไป แล้วเทของในนั้นออกมา
” ทำไมเป็นเม็ดขี้ผึ้ง? ยังมีคำว่า “ยาต้านพิษสารพัดนึก ลุงจีน มันเป็นยาพิษไม่ใช่หรือ? นางจะให้ยาพิษกับเจ้าได้ อย่างไร? เจ้าไปทำอะไรให้นางขัดหูขัดตาหรือเปล่า? นางจึง อยากวางยาพิษให้เจ้าตาย?” ซึ่งกวนจึงวิ่งถามอย่างข้องใจ

“คุณหนู ยาต้านพิษสารพัดนึกเป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้น และ ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นยาพิษ ตรงกันข้าม มันเป็นยา ถอนพิษที่มีฤทธิ์ในการล้างพิษที่ดีมากชนิดหนึ่ง กล่าวกันว่า ปรุงยาอย่างลับๆ ในวัง ฮ่องเต้จะประทานยาเม็ดแบบนี้ให้กับ คนใกล้ชิด ใช้เพื่อช่วยชีวิตในช่วงวิกฤติ มารดาของคุณหนูห้า ตระกูลเยี่ยนเป็นเพื่อนสนิทใจของฮูหยิน ปู่ทวดของนาง อำมาตย์ฉิน เคยเป็นอำมาตย์ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด ของฮ่องเต้องค์ก่อน ถ้าไม่ใช่ว่าเข้าไปพัวพันกับการก่อกบฏ ของอ๋องเหยียน เขาก็ยังไม่สูญเสียตำแหน่งขุนนางก่อนวัยชรา เช่นกัน ลูกชายคนรองจากภรรยาหลวงของเขาก็ไม่มีทางเลือก อื่นนอกจากกลับไปยังสถานที่เล็กๆ อย่างโจวนั้น จึงปล่อยให้ ลูกสาวของเขาแต่งเป็นภรรยาของพ่อค้าอย่างจำใจ คุณหนูห้า ตระกูลเยียนส่งของสิ่งนี้มาให้ เพื่อพิสูจน์ว่านางยังมีความ เข้าใจบางอย่างที่แฝงความหมายของตระกูลในยุทธภพ และ พิสูจน์ได้ว่านางเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!” ซึ่งกวนจีนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และได้เห็นอะไรมากมายผ่านสิ่งเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นนางก็ใจดีน่ะสิ!” ซึ่งกวนจึงวิ่งไม่คิดจะพูด

อ้อมค้อมเลย

“ขอรับ!” ซึ่งกวนจีนพูดได้เพียงแค่นี้ ถ้าพูดมากอีกสักนิด ปัญหาของชั่งกวนจึงยิ่งจะทำให้เขาต้องการหาที่หลบภัย

“เจ้าได้พบกับคุณหนูห้าตระกูลเยียนงั้นหรือ? หน้าตาสวย เป็นอย่างไร? คู่ควรกับพี่ชายหรือเปล่า? นางอ่อนโยนและใจดี เหมือนที่ท่านแม่พูดหรือไม่?” ซึ่งกวนจึงวิ่งเปลี่ยนเรื่อง

“ข้าไม่เคยเห็นคุณหนูห้าตระกูลเยียนคนนั้น นางพูดคุย กับข้าอยู่หลังฉากกั้น!” ซึ่งกวนจิ้นขยิบตาไปทางคนอื่นๆ อย่าง สุดชีวิต

“ทำไมเจ้าไม่เห็นนางล่ะ? ก็เหมือนกับพี่ชายที่คิดว่านางจะ ไม่ดีใช่หรือไม่ นางไม่คู่ควรกับพี่ชายจริงๆ หรือ?” ซึ่งกวนจึง ยิ่งถามคำถามออกมาไม่หยุด

“ลุงจีน มีเรื่องสำคัญในเรือนที่ท่านต้องไปทำเอง?” ที่สุดก็มีคนมาช่วย

“คุณหนู ข้าจะไปแล้ว!” ซึ่งกวนจิ้นวิ่งหนีออกไป
“ทำไมลุงจีนไม่ตอบคำถามของข้าล่ะ?” ซึ่งกวนจึงวิ่งมอง ไปที่ด้านหลังของชั่งกวนจีนด้วยความผิดหวัง ทันใดนั้นก็แอบ หัวเราะ ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร! ที่นี่ ไม่ใช่ตระกูลเยียนหรอกเหรอ ฉวยจังหวะไปดูนางตอนกลางคืน ก็จะรู้ได้แล้วไม่ใช่หรือ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ