บทที่ 5 ใครคือเจ้าสาวของหมอราชิฟ
“วาว สวยมากเลย เรียบหรูดูแพงทุกอย่างเลย”
“ใช่แพงทุกอย่าง และทุกอย่างต้องสามารถกันเชื่อรา หรือเชื้อโรคได้สั่งทำพิเศษทุกอย่าง ทั้งที่นอนของใช้ส่วน กันเชื่อโรคและเชื่อรา เพราะพวกเขาเป็นหมอที่รักความ สะอาดที่สุด ลุงจ้างคนทำที่จบด้านนี้มาเลยทำคู่กับหมอ เฉพาะทางเรื่องเชื้อโรค เพื่อให้ของใช้และบ้านหลังนี้ไม่มี เชื้อโรคนะ”
“สุดยอด แบบนี้พวกเราไม่ได้นำเชื่อโรคมาด้วยใช่ไหมคะ”
“ไม่ถ้ามีสัญญาณจะเตือนแล้วหละ”
“นี้บ้านหรือโรงพยาบาลคะ เซฟเชื่อโรคได้ด้วยแบบนี้”
“ก็พวกเขาต้องไปดูแลคนไข้ที่โรงพยาบาลด้วย และ ต้องสอนด้วยบริหารด้วยเลยต้องปลอดภัย เพื่อทั้งเขา และคนไข้รวมทั้งนักศึกษาและอาจารย์จะปลอดภัยจาก เชื่อโรคนะ”
“สมเป็นหมออันดับหนึ่งจริงๆ”
“พวกเราก็ชมไป เอ้อต่อไปนี้เรียกว่าพี่ราชิฟนะ ห้ามเรียกอาจารย์เด็ดขาดไม่ว่าจะในมหาลัยก็ตาม เพราะ พวกเราคือครอบครัวของพี่แล้วรู้ไหม”
“แต่ว่ามันจะดีเหรอคะ อาจารย์พวกเราเรียกแบบนี้จนชิน แล้วด้วย”
“ดีเพราะไม่อย่างนั้น พวกเขาจะว่าพวกเราห่างเหินกัน ทั้งๆที่เป็นคนรักและพี่น้องของคนรักนะ จะทำให้คนอื่น นินทาได้นะ”
“ก็ได้คะ พี่ราชิฟ ทำไมพวกเราพี่น้องต้องแยกห้องนอน กันด้วยคะ ปกติพวกเรานอนด้วยกัน”
“ก็เพราะว่าพวกเราต้องอยู่กับคนรักของพวกเราไง มี สามีภรรยาที่ไหนที่นอนคนละห้องกันหละ”
“ก็ไม่มี แต่พวกเรายังไม่ได้แต่งหรือหมั้นเลยนะ จะนอน ด้วยกันเลยมันก็ไม่ดี”
“ใครว่าสาวๆหมั้นแต่งเรียบร้อยแล้ว สินสอดก็คือเงินที่ ลุงจ่ายให้แม่พวกเรานะ ส่วนแหวนแต่งงานก็รอพวกเขา ใส่ให้สาวๆ วันแต่งงานก็วันที่สาวๆเจอพวกเขาไง อย่าง เช่นวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานแบบเรียบง่ายของคุณราชิฟกับ สาวๆหนึ่งในคนนี้ คิดว่าใครเหมาะที่จะเป็นเจ้าสาวของ คุณราชิฟหละ”
“ยายโส”
“พร้อมใจกันเลยนะที่นี้ โสว่าพี่สาเหมาะกว่า”
“งั้นถามเจ้าบ่าวดีไหมว่าใคร คือคนที่เจ้าบ่าวเลือกกัน แน่”
“ใครหละที่พี่สอนเยอะกว่าคนอื่นก็คนนั้นแหละ”
“โสเหรอ ทำไมถึงเป็นโสหละ พี่สาสวยกว่าเก่งกว่าโส พี่ เมก็เหมือนกัน”
“เพราะสองสาวเขามีคนจองตัวแล้ว พี่จองตัวเราตั้งแต่ที่ เพื่อนรักพี่ให้พี่เลือกก่อนแล้ว เพราะรายนั้นรักพี่เสียดาย น้องนะ”
“และคนที่ต้องเข้าห้องหอกับพี่คือโสนะ และต้องทำตัว ให้เหมือนคนรักและเมียของพี่ตลอดเวลาด้วยนะ เริ่ม ตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“พี่ราชิฟโสตกใจหมด ทำไมไม่บอกว่าจะกอดจะได้ เตรียมใจทัน”
“ก็เป็นการทักทายคนรักอย่างหนึ่ง มีอีกอย่างหนึ่งที่ขาด ไม่ได้ด้วย อยากรู้ไหมว่าคืออะไร”
“คะ จะได้ตั้งตัวทันไม่ตกใจแบบเมื่อ
“อุ๊บ”
“อยากชิมมานานแล้ว หวานอย่างที่คิดจริงๆ”
“วาว น้องเราหน้าแดงเลย สมหวังในความรักแล้วนะ แอบปลื้มแอบรักมาตั้งแต่พบหน้าเลยนี้นะ”
“จริงเหรอ คิดว่าพี่เป็นคนเดียวแอบรักนะ เราก็รักพี่เหรอ ดีใจที่พี่รักคนไม่ผิด”
“แอบรักโสมานานด้วยเหรอ ”
“ใช่ ไม่อย่างนั้นพี่ไม่ยอมไปสอน พวกเราหรอกเพราะพี่ ต้องแบ่งเวลางานเพื่อไปสอนเราและอยากอยู่ใกล้ๆเรา นะ”
“แสดงว่าคืนนี้ น้องสาวก็จะมีสามีแล้วสิ ”
“อืม ไปนั่งพักกันก่อนดีกว่า พี่อยากให้ลุงของพวกเรา เป็นพยานให้พวกเรา เพราะพี่มีของจะมอบให้โสและโสต้ องรับและใส่ให้พี่และห้ามถอดของที่พี่มอบให้เด็ดขาดรู้ ไหม”
*ได้ครับ ยินดีเป็นพยานรักของลูกสาวอยู่แล้วหละ คิด ถูก ยกลูกสาวให้หนุ่มๆ
“คะ โสจะไม่ถอดถ้าพี่ราชิฟ ไม่ถอดออกเองคะ”
“พี่คงไม่ยกสิ่งนี้ให้ใครนอกจากเมียหรอก พี่มีเมียแค่คน เดียวเท่านั้นคือโสไง”
จากนั้นราชิฟก็ลวงเอาแหวนแต่งงานกับแหวนหมั้นออก มา และสวมแหวนหมั้นให้คนรักและจูบที่น่าผาก ตามด้วย แหวนแต่งงานของตระกลูเขาและจูบที่แหวนบอกรักคน ที่ได้รับแหวน จากนั้นก็ให้เจ้าสาวสวมแหวนแต่งงานให้ ตนและนางก็จูบที่แหวนและบอกรักคนที่นางสวมแหวน ให้ และจูบสาบานรักต่อกัน ทำเอาพี่สาวยิ้มทั้งน้ำตาดีใจ ที่น้องสาวสมหวังแล้ว เหลือแต่พวกเขาที่ไม่รู้ว่าคนที่จะมา เป็นสามีของพวกนางเป็นคนยังไง พอจูบสาบานรักเสร็จ ลุงของสาวๆก็ขอตัวกลับบ้าน และราชิฟก็พาสาวๆไปที่ ห้องของหนุ่มๆ ที่หน้าประตูจะมีชื่อของเจ้าของห้องอยู่ พวกเขาล้วนเป็นหมอที่เรียนจบแล้วที่บ้านของพวกเขา ส่วนเจ้าชายอยากเรียนเพิ่มเพราะที่ไทยมีบางอย่างที่เขา ไม่ได้เรียนอยู่ พอสาวๆได้ไปยื่นอยู่หน้าประตูห้องของ ชาย ที่จะเป็นสามีพวกนางทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เลย โดยห้องแรกเป็นของอาเหม็ด ที่อยู่ฝั่งขวา พอบอกว่า สาอยู่ห้องนี้นะ ทำเอาสาเขินสุดๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ