ตอนที่ 7 พันธสัญญานายทาส
“สาวน้อย เป็นเจ้าหรือที่ปลดปล่อยข้าออกมา?” ชายหนุ่ม ยกคิ้วขึ้นถาม มองไปทางหรูเย ด้วยท่าทีที่เหมือนจะยิ้มก็ไม่ เชิงแล้วพูดต่อ “เห็นแก่ที่เจ้าเป็นคนปล่อยข้าออกมา ข้าจะไม่ ฆ่าเจ้า เจ้าไปเสียเถอะ”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดไปมาทำให้ชายแขนเสื้อสะบัดไหว
เล็กน้อย แต่ตอนนั้นเอง สีหน้าของเขาก็กลับเปลี่ยนไป แต่กลิ่น ไอของความโหดเหี้ยมให้กระจายไปทั่งบริเวณ “ใคร? ใครกันที่กักขังขาด้วยพันธสัญญานั่น! และยังเป็น
สัญญาทาสของคนชั่วนั่นอีก เป็นใครกันที่ทำเรื่องเช่นนี้
พันธสัญญานายทาส เป็นพันธสัญญาที่ทำให้เขาไม่ สามารถแม้แต่ขัดขืน มิเช่นนั้นจะถูกส่งลงไปยังแดนนรก ไม่มี วันที่จะได้ผุดได้เกิดอีกเลย
ดวงตาก้าวร้าวค่อยๆ หรี่เล็กลงมองไปยังมหรูเยว่ ความ โกรธเคืองฉายชัดในดวงตาของชายหนุ่ม “หรือว่าคือเจ้าที่เป็น คนกักขังข้าด้วยพันธสัญญานั่น? ไม่สิ! ดูจากท่าทางของเจ้า แล้วไม่สามารถทำเช่นนั้นได้หรอก หรือว่า…”
สายตาจดจ้องไปที่ตำราโอสถที่อยู่ในมือของหรูเยานิ่งๆ เขาโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ของพรรค์นั้นกักขังเขาไว้นานนับปีแล้วยังไม่พออีกหรือ? ยังช่วยให้เด็กสาวทำพันธสัญญากับ เขาอีก
อิสระที่ได้มามันไม่ง่ายเลย แต่ชีวิตที่ได้คืนมากลับต้องมา ถูกตำราบ้านทำลายลงอีกครั้ง
รอพลังของเขากลับฟื้นคืนมาเสียก่อนเถอะ สาบานว่าสิ่ง
แรกที่จะทำคือเผาตำราบ้านเสีย
“ท่านเป็นใคร?” สายตาของหรูเยวค่อนข้างที่จะเย็นชา ใบหน้าเรียบเฉยมองไปยังชายหนุ่มรูปงามที่มีท่าทีเกรี้ยวกราด แต่ถ้าอยู่ๆ ก็มาปรากฏตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ นางก็สรุปได้ เพียงสองอย่างคือ
หนึ่ง การที่วิญญาณของนางมายังโลกนี้ได้ ต้องเกี่ยวข้อง กับตาราโอสถ นอย่างแน่นอน
สอง ตำราโอสถเดิมทีแล้วเป็นของดินแดนเงินอื่น ไม่ได้ มาจากหัวเซีย
แต่ไม่ว่าเช่นไร เมื่อมาที่นี่แล้ว นางก็ต้องมีชีวิตอยู่รอดต่อ ไป ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องแข็งแกร่ง ดินแดนแห่งนี้มีสิ่งที่ เหมือนกันกับหัวเซียอย่างหนึ่งคือ
คนแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด
มีเพียงพละกำลังที่แกร่งกล้าเท่านั้น นางถึงจะมีชีวิตอยู่ รอดต่อไปได้ นางต้องอยู่รอดเพื่อหาหนทางกลับไปยังหัวเซีย
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มปรากฏแววเศร้าหมอง ไม่ว่าจะใครก็ตามที่เพิ่งจะได้รับอิสรภาพแล้วกลับต้องถูกกักขังอีก ครั้งคงมีสีหน้าไม่ได้ดีไปกว่าเขานักหรอก “เหยียนจิ้น คือชื่อ ของข้า ถ้าเป็นเมื่อหมื่นปีก่อนหน้านี้ไม่ว่าใครที่ได้ยินชื่อของข้า ก็ต้องหวาดกลัวจนตัวสั่นกันเสียหมด น่าเสียดายที่ตอนนั้นข้า ถูกกับดักที่มนุษย์สร้างขึ้น จึงต้องถูกขังอยู่ในหนังสือน ตั้งแต่ ตอนนั้นนี่ก็ผ่านมาหมื่นกว่าปีแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่จำ อของข้าได้”
“คนที่กักขังท่านเป็นใครกัน?” หรูเยวถามขึ้นด้วยน้ำ
เสียงที่อ่อนลง
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร? ถ้าข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ ข้าจะทำให้ มันรู้สึกเสียใจไปจนตายอย่างแน่นอน!! เหยียนจิ้นกัดฟันอย่าง แค้นเคือง “เสียดาย หมื่นปีที่ผ่านมาทำให้พลังของข้าถดถอย ลงกว่าครึ่ง แม้แต่พละกำลังที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่สมดุลนัก ถึงแม้ เจ้าจะมีตำราโอสถอยู่ในมือ ก็อย่าแม้แต่คิดที่จะกักขังข้าอีก”
เพียงแค่คิดว่าเขาต้องอยู่ภายใต้เงื้อมือของมนุษย์อีกครั้ง สีหน้าของเหยียนจิ้นก็ดูแย่ยิ่งนัก
“ถึงแม้ก่อนหน้านี้ข้าจะไม่เคยคิดที่จะปลดปล่อยเจ้า แต่ ตอนนี้ถ้าอยากไปเจ้าก็ไปเสียเถอะ” หรูเยวก้าวขาลงมาจาก เตียง สนใจแต่ในน้ำชาที่อยู่ในมือเท่านั้น ไม่แม้แต่มองไปที่ ชายผู้นั้นเลยสักนิด
สายตาของเหยียนจิ้นมองไปที่สาวน้อยด้วยความระแวด ระวังอย่างไม่ใคร่จะเข้าใจมากนัก เขาก้าวยาวๆ ไปด้านหน้าของมู่หรูเยวแล้วลดตัวนั่งลง มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย พลางพูด ว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากไปแล้ว”
ตอนนี้พลังของเขาไม่ค่อยคงที่นัก ถ้าได้อยู่ข้างกายเด็ก สาวคนนี้พละกำลังของเขาน่าจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รอเมื่อกำลัง ของเขาฟื้นตัวเต็มที่ พันธสัญญาทาสนั่นก็คงทำอะไรเขาไม่ได้ อีกต่อไป
“ถ้าหากว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ เจ้าต้องรับปากข้ามาสองเรื่อง หรูเยวจิบชารสมปราด้วยท่าทีสง่างาม คิ้วโก่งขมวดเล็กน้อย “ข้อแรก ข้าไม่สนว่าก่อนหน้านี้ท่านจะเป็นใคร มีอำนาจบาตร ใหญ่เพียงใด แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ข้างกายขา ท่านต้องไม่วาง อำนาจเช่นนั้นอีก ข้อสอง ต้องเชื่อฟังข้าอย่างไม่มีข้อแม้ ถ้า ท่านทำไม่ได้ก็ไปเสียเถอะ ข้าไม่ชอบคนที่ขัดคำสั่ง และก็ไม่ อยากได้คนที่ชอบแทงข้างหลังด้วย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ