ตอนที่ 4 วางแผน
“หุบปาก!! ชายกลางคนกำหมัดแน่น บริเวณหน้าผากมี เส้นเลือดปูดโปน สายตาของเขาเหมือนกับกำลังจ้องมอง บุคคลที่เป็นศัตรูที่เขาเกลียดเสียจนไม่สามารถอยู่ร่วมฟ้ากันได้ “ถึงเอ๋อร์เป็นลูกสาวของข้า ทำไมเจ้าถึงดูถูกนางเช่นนี้?”
เหมือนกับว่าในใจของชายผู้นี้ มีเพียงถึงเอ๋อร์กับเส วี่ยเท่านั้นที่เป็นบุตรสาว หรูเยว่เป็นลูกนอกคอกที่แค่ดันเกิด มาเท่านั้นเอง
“ท่านพ่อ พอเถอะเจ้าค่ะ” ถึงเอ๋อร์ดึงแขนของชายกลาง คนพลางสั่นศีรษะ กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ถึงเอ๋อร์รู้ตัวเองดี ถึง เอ๋อร์เป็นแค่บุตรสาวบุญธรรมของตระกูลมู่แต่เพียงเท่านั้น ถึง เอ๋อ ไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากเศษเสี้ยวความรักของท่านพ่อ บ้างก็เท่านั้นเอง เท่านี้ถึงเอ๋อร์ก็เพียงพอใจแล้วเจ้าค่ะ”
“เฮ้อ” ชาวกลางคนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ถึงเอ๋อร์ พ่อ ของเจ้าได้เสียสละชีวิตเพื่อช่วยข้าเอาไว้ ตอนนั้นข้าก็ได้ให้ สัตย์ไว้แล้วว่าจะดูแลปกป้องเจ้าให้ดี ให้เหมือนกับลูกสาวแท้ๆ ของข้าเอง แล้วฉะนั้นข้าจะปล่อยให้ผู้อื่นมาทำร้ายเจ้าได้เช่น ไร”
ว่าแล้วก็ถลึงตาใส่หรูเยา ท่าทีของเขาแสดงออกว่าไม่พอใจนางเป็นอย่างมาก
ชัดเจนว่า “ผู้อื่น ในความหมายของเขา คงหมายถึงนาง อย่างแน่นอน…
“ท่านพ่อ องค์รัชทายาทก็อยู่ที่นี่ด้วยนะเจ้าคะ” ถึงเอ๋อร์ ค้อมหัวลงเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ท่าทางเช่นนั้นทำให้ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นรอยยิ้ม กระหยิ่มที่ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของนางได้
ที่นางทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อขอความเห็นใจให้กับมหรูเยว่ แต่ เป็นเพราะว่านางรู้ว่าองค์รัชทายาททรงโปรดหญิงสาวที่เห็นอก เห็นใจผู้อื่นก็เท่านั้น ทำให้องค์รัชทายาทถึงได้ตกหลุมรักหญิง สาวผู้นี้ตั้งแต่คราแรก
“ฮะฮะ องค์รัชทายาท ข้าทำเรื่องขายหน้าต่อหน้าท่านเสีย แล้ว” ชายกลางคนค้อมคำนับขออภัย แต่สายตากลับมองไป ยังมู่หรูเยาพลางขมวดคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “เจ้ายืนโง่ ทำอะไรอยู่! รีบไปให้พ้นหน้าข้าเสียเดี๋ยวนี้ หากเจ้ากล้าโผล่ หน้าออกมารบกวนเวลาขององค์รัชทายาทกับถึงเอ๋อร์อีก เช่น นั้นข้าจะตัดขาของเจ้าทิ้งเสีย!!
นัยน์ตาของมู่หรูเยวมีเพียงความเย็นชา ขนาดนางเพิ่งมา ถึงยังที่แห่งนี้ กลับต้องมีเรื่องให้คิดไม่ตกเสียแล้ว ดังนั้นนางจึง ทำเพียงแค่ส่งสายตาทิ่มแทงกลับไปให้คนเป็นพ่ออย่างนิ่ง แล้วเดินจากไปตามความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง
มู่ฉิงเพียงได้เพียงแต่อึ้งเล็กน้อย นั่นคือสายตาที่นางมอบให้พ่ออย่างเขาเช่นนั้นหรือ? แต่เขาเลือกที่จะไม่เก็บมาใส่ใจ คิด พลางหันกลับมาหาเย่เทียนเฟิงพร้อมกับพูดว่า “เรียนองค์ รัชทายาท ท่านคิดดูเถอะ ถึงเอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่ยังมิได้ออก เรือน แต่กลับต้องเสียบริสุทธิ์ให้ท่านเสียแล้ว ไม่ทราบว่าเมื่อ ใดองค์รัชทายาทจะหย่าขาดกับหญิงไร้ค่าเช่นนั้น แล้วแต่งถึง เอ๋อร์เป็นชายาเสีย?”
เยว่เพิ่งเทียนขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อย ไม่นานก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านผู้นำตระกูล ท่านวางใจเสียเถอะ อย่างไรเสียถึงเอ๋อร์ จะเป็นชายาของข้าอย่างแน่แท้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ข้าไม่สารถูก ราบทูลเสด็จได้ว่าข้ากับถึงเอ๋อร์มีความสัมพันธ์ทางกายกัน แล้ว เพราะถ้าดูจากนิสัยของเสด็จปแล้ว หากพระองค์ทรง ทราบว่ามีเรื่องชิงสุกก่อนห่ามเช่นนี้ จะทำให้ถึงเอ๋อร์เป็นได้แค่ เพียงชายารองเท่านั้น การที่ถึงเอ๋อร์ได้เป็นแค่เพียงชายารอง มันทำให้ข้าปวดใจยิ่งนัก”
ถิงเอ๋อร์ของข้างดงามเช่นนี้ มีเพียงตำแหน่งชายาองค์ รัชทายาทเท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับหญิงสาวผู้งดงามเช่นนาง
“ถ้าเช่นนั้นแผนขององค์รัชทายาทคือ…”
“อีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ เมืองหลวงจะจัดงานประลองยุทธ์ ครั้งใหญ่ ตอนนี้ถึงเอ๋อร์ก็ได้เป็นจอมยุทธ์ขั้นที่สามแล้ว ใน เมืองจื่อเยวนี้มีผู้ที่อายุเทียบเท่ากับนางไม่มากนัก ถ้าหากว่า นางได้รับชัยชนะ เสด็จปูก็จะทรงเปลี่ยนแปลงพระดำริที่มีต่อ นางเสียใหม่ ถึงตอนนั้นข้าจะแนะนำนางให้ท่านปรมาจารย์ รู้จัก หากเป็นคำพูดของอาจารย์อย่างไรเสด็จปู่ย่อมต้องฟังอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นท่านปรมาจารย์ยังเป็นหมอยาที่ยาก จะหาผู้ใดเทียบเทียม
หมอยา…
นางสูดลมหายใจเข้าแผ่วเบา สายตาเต็มไปด้วยประกาย แห่งความหวัง
โอกาสค่าเช่นนี้ โอกาสที่จะได้ฝึกฝนวิชาโอสถอันหา ยากเช่นนี้ ในแผ่นดินนี้มีเพียงตำแหน่งนี้เท่านั้นที่เป็นตำแหน่ง อันสูงส่ง ถ้าหากขาสามารถได้รู้จักหมอยาผู้สูงส่งท่านนี้ จากนี้ ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกแล้ว
“องค์รัชทายาท ท่านวางใจเสียเถอะ การประลองยุทธ์ใน ครั้งนี้ รับรองว่าถึงเอ๋อร์จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า จริง อย่างที่ท่านว่า ในเมืองหลวงแห่งนี้ ยากที่จะหาผู้ที่มีพรสวรรค์ เทียบเท่าถึงเอ๋อร์แล้ว”
นิ่งแย้มรอยยิ้มเล็กน้อย เท่าที่เขาเลี้ยงดูบุตรสาวผู้นี้มา สิบกว่าปี เขามีความมั่นใจในตัวนางเป็นอย่างยิ่ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ