Chapter 2
อิงฟ้า…
“เป็นยังไงบ้างอิงฟ้าเหนื่อยมั้ย?”
พี่ผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ยถามยิ้มๆ ฉันส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ค่ะไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย ว่างจนรู้สึกไม่ได้อะไรเลย ฮ่าๆ”
ฉันพูดติดตลกแต่คนฟังคนจะรู้ว่าฉันไม่ขำ เขาถอนหายใจ ออกมาเบาๆก่อนจะเดินมาตบไหล่ฉัน
“อดทนนะอิงฟ้า พี่ก็ช่วยไม่ได้มากพี่ก็ต้องฟังพวกเค้า เราก็ คอยสังเกตเอานะว่าเค้าทำยังไงแบบไหน ไว้เรื่องหน้าที่กำกับ เองพี่จะให้หนูมาเป็นผู้ช่วยพี่
ฉันยิ้มอย่างดีใจ ตื่นเต้นด้วย จริงๆคนที่ใจดีก็มีเยอะแต่ก็นะ วงการมายาขนาดนางเอกที่กำลังดังยังเหวี่ยงไม่เลือกเลย
“ขอบคุณนะคะพี่แม็ค ยังไงเดี๋ยวฟ้าเอาบทไปให้คุณก่อนนะคะ”
“จ้า ไปเถอะ”
พี่แม็คเอ่ยยิ้มๆก่อนจะเดินจากไปส่วนฉันก็เกินเอาบทไปให้ นางเอกของเรื่อง เดินมาถึงฉันทำใจอยู่นานกว่าจะเข้าไปได้ เพราะไม่อยากทำไรให้ไม่ถูกใจเธออีก
“คุณบีคะ บทละครค่ะ ผู้ช่วยผู้กำกับฝากมาให้”
“วางไว้ตรงนั้นแล้วก็ไปซะ ”
ฉันพยักหน้ารับค่าแล้วก็หันหลังจะเดินออกไปเธอเรียกฉันไว้ ซะก่อน
“เดี๋ยว!!!!”
ฉันหันกลับมามองหน้าเธออย่างงงๆ หล่อนมองฉันตั้งแต่หัว จรดเท้าก่อนจะแสยะยิ้มเหมือนนางมารร้ายในละครทีวีหลังข่าว
“จำไว้นะเธอเป็นแค่เด็กในกองถ่ายละคร อย่ามาทำตัวจุ้นจ้าน ให้คนอื่นเห็นอยู่ในมุมของตัวเองซะฉันจะบอกแค่นี้ไปซะ!!”
ถึงฉันจะไม่เข้าใจอะไรมากแต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเธอไม่ชอบฉัน ถึง จะไม่รู้สาเหตุก็เถอะแต่ฉันไม่อยากปะทะกับใครฉันอยากทํางาน แบบมีความสุข
“ค่ะ”
[คล้อยหลังอิงฟ้าเดินออกไปนางเอกก็ทำหน้าบึ้งตึงมองตาม อิงฟ้าไป ก่อนจะเอ่ยออกมากับตัวเอง
“เธอจะไม่มีทางได้มาเทียบเทียมฉันได้หรอก อิงฟ้า!!!!” สามวันก่อน….
‘พี่แน็ตตี้มองอะไรคะ?
บีเอ่ยถามผู้จัดการส่วนตัวของตัวเอง หล่อนเห็นเธอมองใคร คนหนึ่งมาสักพักแล้วเธออยากรู้ก็เลยถามออกไป
มองเด็กคนนั้นนะ เห็นแล้วนึกถึงตอนยังไม่เข้าวงการ หน้าตาเด็กคนนั้นสวยนะพี่ว่าถ้าจับมาปั่นให้ทั้งคนจะเกิดแน่ๆ
หล่อนกำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจในคำพูดของผู้จัดการของตัว เองสุดๆ คิดจะปั้นมันมาเทียบกันฉันเหรอ ไม่มีทาง!!!!! นั่งถึง ฟ้า!!! ]
ป๋าธีม…
“ป๋าครับจะกลับเลยมั้ยครับ? ”
ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศตอนนี้ก็ทุ่มหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรมากก็แค่ ตรวจงานของพนักงานทั่วไป บริษัทผมขึ้นชื่อความถูกต้อง โดย เฉพาะการให้ข่าวแก่ประชาชนผมจะให้ความสำคัญอย่างมาก ต้องผ่านการกลั่นรองความจริงมาดีแล้วเท่านั้นถึงจะเผยแพร่ ออกไปได้ ละครเรื่องไหนเรื่องไหนก็ดังเปรี้ยงปร่าง เด็กในสังกัด ของผมก็ไม่ค่อยมีประวัติเสียหาย ผมตัดหางทันทีถ้าพวกเขาทำ ไม่ถูกต้อง เพราะแบบนี้ไง BEM ของผมถึงเป็น No.1 ของ ประเทศนี้
“ก็ดีนะ ว่าจะไปหาอะไรทานสักหน่อยก่อนกลับเดี๋ยวแวะร้าน ประจำให้ผมหน่อยแล้วกัน”
ผมเอ่ยออกไปก่อนจะลุกขึ้นถือกระเป๋าส่งให้ผู้ช่วยผมแล้วเดิน ออกไปทันที ผมมีผู้ช่วยสองคนที่สนิทที่สุดและผมไว้ใจ แล้วก็มี บอดี้การ์ดติดตามไปอีกสี่คน ตามไปทุกที่ถึงผมจะไม่ค่อยมีศัตรู ที่ไหนแต่มีผู้ติดตามก็เป็นหน้าเป็นตาอย่างหนึ่ง
ครับป้า เชิญครับ”
ผมเดินขึ้นไปบนรถหยิบโทรศัพท์มากดดูเรตติ้งละครของทาง ช่อง ดูความเคลื่อนไหวของประเทศ ราคาหุ้นผมเหมือนจะว่างอ่ะ นะแต่ผมก็งานเยอะอยู่นะเพราะผมจะตรวจงานเอง
“ฝนตกเหรอเนี้ย”
ผมรำพึงรำพันกับตัวเองมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นคนร่าง เล็กยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ชื่ออะไรนะอิงฟ้าใช่มั้ยผมเจอเมื่อเช้า เธอน่ารักดีนะเห็นหน้าเธอแล้วทำให้ผมยิ้มได้แปลกดีเหมือนกัน เธอดูไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยเจอ
“จอดรถก่อน”
“ครับป๋า”
ผู้ช่วยผมจอดรถตรงข้ามกับป้ายรถเมล์ ผมมองหน้าผู้ช่วยผม แล้วเอ่ยออกไป
“ไปพาอิงฟ้ามาขึ้นรถ”
“เด็กผู้หญิงคนนั้นคนที่น่ารักเสื้อสีดำใช่มั้ยครับ?? “เออนั้นแหละ ไปรับเธอมาเอาร่มไปด้วย”
ผมเอ่ยออกไปลดกระจกลงนิดหน่อยมองเธอที่ยืนหลบฝนอยู่ ตรงนั้น เวลาขนาดนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีกเหรอแล้วผู้หญิงตัวคน เดียวแบบนั้นยืนอยู่คนเดียวแบบนั้นมันอันตรายจะตายไปสักพัก ผู้ช่วยผมก็พาเธอมาจนได้เหมือนเธอจะกลัวผมอยู่นะ
“อิงฟ้า”
“ทะ…. ท่านประธาน!!! ”
“ขึ้นมาก่อนเปียกหมดแล้วมั่ง
ผู้ช่วยผมเปิดประตูเพื่อให้เธอเข้ามาไวๆ เหมือนเธอจะเกร็ง เมื่ออยู่ใกล้ผมยังไงก็ไม่รู้ ผมหันไปสั่งผู้ช่วยผมอีกคนให้หยิบผ้า ขนหนูหลังรถมาให้
“เจมส์เอาผ้าขนหนูมาที
“ครับป๋า”
ผมมองคนตัวเล็กตัวสั่นอย่างกับลูกนก ได้ผ้าขนหนูมาผมก็ เอาไปวางไว้บนหัวของเธอจนเธอตกใจผงะถอยหลัง
“เอ่อ คือว่าหนู”
“กลัวผมเหรอ? ”
เหมือนเธอจะลังเลแต่ก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
“ปะ เปล่าค่ะ คือหนูเกร็ง อยู่ๆท่านประธานก็ให้หนูมานั่งใน รถด้วยหนูตกใจนี่ค่ะ แหะๆ เกรงใจด้วย”
ผมยิ้มออกมาทันทีตลกกับคำพูดของเธอด้วย ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่ง สวยผมสะดุดตาเธอครั้งแรกเมื่อตอนเช้ามาทำงานกับผมหลาย เดือนแล้วแต่แปลกผมไม่เคยเจอ ก็นะพนักงานผมมีไม่รู้กี่พัน หมื่นคนผมจำไม่ได้ก็ไม่แปลก แต่เธอสะดุดตาผมตั้งแต่ครั้งแรก และผมยังจำติดตาจนถึงตอนนี้
“เดี๋ยวผมไปส่งนะ บ้านอยู่ที่ไหน?”
“หนูกลับเองได้ค่ะเกรงใจท่านประธาน เดี๋ยวรถเมล์ก็มาแล้ว ค่ะหนูกลับได้สบายมากค่ะ”
“ไม่มีรถเหรอทำไมไม่ขับมาเอง”
ผมเอ่ยถามอีก ชีวิตเธอเหมือนมันสลับซับซ้อนจนผมงงๆ แต่ ผมก็อยากรู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ที่ไหน ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มสนใจคน ตรงหน้าแล้วหละ
“ก็มีคันหนึ่งค่ะแต่ปกติถ้ามาที่บริษัทก็นั่งรถเมล์มามันง่ายกว่า ค่ะ ”
“อ่อ งั้นเหรอ งั้นผมไปส่งที่บ้านแล้วกัน”
“แต่ว่า”
“ถ้าเกรงใจงั้นก็ตอบแทนผมสี ^^”
ผมยื่นข้อเสนอไปไม่งั้นคนตรงหน้าผมจะคัดค้านหาเรื่องมาต่อ
ต้านอยู่ดี
“ตอบแทนยังไงคะ?”
“ทานข้าวเป็นเพื่อนที่ ทานคนเดียวมันเหงา ^^”
คนตรงหน้าผมยิ้มเขินก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตากับ ผม ผมยื่นมือไปจับหัวเธอไว้แล้วค่อยๆเช็ดผมให้เบาๆจนเธอตัว นิ่งไปไม่ยอมกระดิก
“อย่างเกร็ง สบายๆ”
“ใครไม่เกร็งก็ไม่ใช่คนแล้วหละค่ะ คงเป็นหุ่นยนต์ แหะๆ “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ