อ้อนรักท่านประธานหล่อ

Chapter 3



Chapter 3

อิงฟ้า

“ทานเยอะๆ ผมว่าหนูผอมมากเลยนะ”

เขาเอ่ยยิ้มๆแล้วก็ตักกับข้าวมาใส่จานให้ฉัน ฮือออ ดีต่อใจ ตื้นตันจนน้ำตาพานจะไหล ทำไมเขาถึงดีกับฉันแบบนี้ ดูสิรับมา ด้วยพามาทานข้าวอีก จะไม่ให้ฉันมโนไปเองได้ยังไงหรือว่าเขา อาจจะแค่สงสารพนักงานรึเปล่า คงงั้น TT

“แต่เจ๊นิ้วบอกว่าหนูเริ่มอ้วนแล้วนะ ”

“หม นี่อ้วนแล้วเหรอ หึ”

ฉันยิ้มแห้งๆก่อนจะทานข้าวต่อ อ้วนสูง 165 น้ำหนัก50 อ้วน นะ เจ๊บวก็บอกถ้าแกกินเยอะกว่านี้อีกนิดได้กลายเป็นหมูแล้วก็ จะไม่สวยเหมือนเจ๊ หลังจากนั้นฉันก็ไม่กินจุกจิกอีกเลยกลัวอ้วน ฮ่าๆๆ

“อ้วนสิค่ะท่านประธานไม่เข้าใจผู้หญิงหรอก พุงยื่นนิดหนึ่งก็ เครียดแล้ว ”

“นั้นสินะ ฮ่าๆๆ เรานี่คุยเก่งดีนะอิงฟ้า ผมชอบนะผู้หญิงคุย เก่ง”

ไม่พูดเปล่าแต่ยังมองหน้าฉันแล้วยิ้มกริ่มจนฉันเนี้ยแหละที่ทน ไม่ได้ต้องเบือนหน้าหลบสายตาของเขา โอ๊ยยย อย่ามโนๆๆๆเขาจะมาชอบคนแบบแกได้ยังไงยัยอิงฟ้า ท่องไว้ๆ เจ้านาย เจ้า นาย เจ้านาย เจ้านาย อร๊ายยยยยย เจ้านาย!!!!!!

“แหะๆ ท่านประธานไม่ค่อยทานเลยนะคะ”

“เห็นหนูทานผมก็อิ่มละ

อออ ตายไปเลยช็อตนี้ไม่นะ!!! เขาเป็นเจ้านาย ท่องไว้ลูก ท่องไว้ เจ้านายจ้าาา

“ทานบ้างสิค่ะตักให้แต่หนูเบี้ย ถ้าหนูอ้วนแล้วไม่สวยท่าน ประธานจะรับผิดชอบมั้ยคะ ”

ฉันพูดติดตลกไม่ได้จริงจังในคำพูดแต่เฟมือนคนตรงหน้าจะ ไม่ตลกด้วยนะ

“อยากให้รับผิดชอบมั้ยละ

“อื้อออ นะ..หนูล้อเล่นเอง แหะๆ

“ฮ่าๆ เรานี่ตลกจัง ว่าแต่เจ๊จิ๋วของหนูนี่ใครเหรอเห็นพูดถึง บ่อยๆ”

เขาทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแล้วก็ถามอารมณ์ชวนคุยมากกว่า

“อ่อ พี่ที่หนูเคารพนะคะ คือว่าหนูอยู่ตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่ ญาติพี่น้องเลย ตั้งแต่ม.ปลายแล้วตอนนั้นแม่หนูเสียประจวบกับ พ่อแม่เจ๊จิ๋วไปมอบทุนการศึกษาให้แล้วเห็นว่าหนูไม่มีใครก็เลย รับหนูมาดูแลนะคะ เขาเป็นผู้มีพระคุณแต่เจ็บิวจะบอกว่าหนูเป็น เพื่อน เธอบอกไม่งั้นจะดูแก่ ฮ่าๆๆ”
นึกถึงตอนนั้นฉันว่าฉันก็โชคดีนะ พวกท่านช่วยส่งฉันเรียนจน จบม.ปลาย ตอนเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็เลยอยากจะพยายาม ทำงานหาเงินเรียนเองไม่อยากรบกวนพวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียวแต่ถ้าลำบากต้องบอก คอนโตก็ผ่อนของเจ๊วขายให้ห้อง หนึ่ง รถก็เพิ่งซื้อตอนทำงานที่บริษัท BEM เบี้ยแหละ นึกถึงก็ยัง คิดว่าฉันโตมาได้ยังไงเหมือนกัน

“ยิ้มอะไรคะเนี้ย ชีวิตหนูไม่ได้สวยหรูเลยน้า ถ้าไม่โชคดีไม่รู้ ตอนนี้จะเป็นยังไงเหมือนกัน คงได้ไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็ก กำพร้าไม่งั้นก็คง…”

นึกถึงตอนนั้นถ้าฉันไม่เจอครอบครัวเจ๊จิ๋วไม่รู้จะเป็นยังไง เหมือนกัน ไม่อยากจะคิดให้ปวดหัวเลย

“หนูเก่งนะ

“ใครๆก็บอกแบบนี้เดะเลยค่ะ พอแล้วๆหนูไม่น่าเล่าเรื่องชวน ปวดหัวให้ท่านฟังเลย เปลี่ยนเรื่องดีกว่าค่ะ”

ฉันไม่อยากให้ใครมาสงสารฉันหรอก ยังมีคนอีกตั้งมากมาย ที่น่าสงสารกว่าฉันอีกเยอะ เพราะฉะนั้นถือว่าชีวิตฉันโชคดีที่สุด แล้ว

“ไม่เห็นน่าปวดหัวตรงไหน น่าสนใจออกไว้มาเล่าให้ฟังอีกนะ ผมชอบสนุกดี ^

ใจเต้นอีกแล้ว ฮือออ ทำไม้องมาพูดจาหวานหยอดด้วย หรือว่าเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่มีพวกทีมงานเขาบอกว่าท่าน ประธานค่อนข้างจริงจังกับชีวิตไม่มาไร้สาระอะไรแบบนี้หรอกแต่ เท่าที่เห็นมันย้อนแย้งจัง ฉันว่าท่านดูใจดี คุยเก่ง หล่อด้วย

“หนูอิ่มแล้วค่ะ”

“อืม งั้นไปเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านนะ หรือว่าพักอยู่ที่ไหน?”

“คอนโด B ค่ะซอย2”

“อ่อ โอเค”

เราสองคนลุกขึ้นไปขึ้นรถส่วนค่าใช้จ่ายลูกน้องมาเคลียร์ให้ หมด เออดีอ่ะไม่ต้องถือเงินเองมีคนจัดการให้หมดเลย สบายจัง ชาตินี้หรือชาติไหนฉันจะมีโอกาสแบบนี้มั้ย

“อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ? ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ

“อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ

ผมถามเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็แค่อยากให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มี ใครอยู่ ไม่รู้ผมอยากรู้ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากรู้

“หนูอยู่คนเดียวค่ะ ”

ผมลอบถอนหายใจออกมาแต่ว่าถ้าเธอมีแฟนไม่จำเป็นต้อง อยู่ด้วยกันใช่มั้ย หรือว่าเธอจะมีแฟนแล้วแต่แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หน้าตาก็สวยไม่ได้ขี้เหร่น่าจะไม่รอดแล้วมั่ง หรือผมควรถามดี
“เออ คือว่า ”

“คะ? ท่านประธานมีอะไรจะถามคะถามได้เลยหนูตอบได้ ^^”

ผมหลุดยิ้มออกมาทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของคนตรงหน้า น่ารักจริงๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ทำไมผมรู้สึกถูก ชะตาและสนใจเธอแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน

“มีแฟนยังเราอ่ะ?”

“ห้ะ!! อะ..อะไรนะคะ”

เธอถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองก่อนจะทำท่าแคะขี้หูแล้วถามอีก

รอบ

“เมื่อกี้ท่านประธานถามว่า…”

“เอ่อ ช่างมันเถอะ”

ผมหันหน้าไปอีกทางแล้วถอนหายใจออกมา ทำไมรู้สึก เหมือนตัวเองเป็นเด็กหนุ่มกำลังตามจีบสาวน้อยวะ รู้สึกแปลกๆ กับตัวเองจริงๆคนอย่างผมเคยจีบใครที่ไหนยืนอยู่เฉยๆ ผู้หญิงก็ วิ่งเข้าใส่ แต่ตอนนี้กำลังทำตัวไม่ถูกต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่คุยกับ ผมปกติต่างจากคนอื่นที่มีโอกาสแบบนี้ต้องพยายามเข้าหาผม แล้ว เธอเลยเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครยังไงหละ

“หนูยังโสดค่ะไม่เคยมีแฟน แหะๆ คือทำแต่งานจบมาก็ ทำงานกลัวตัวเองไม่มีเงินจะลำบากก็เลยไม่เคยคบใครเลย อีก อย่างหนูกลัวคนอื่นจะมาลำบากกับหนูไม่เอาหรอก ฮ่าๆๆ พูดซะ ยาวเลย อ๊ะถึงแล้วค่ะคอนโดหนูอยู่ตรงนั้น”
เสียงเล็กชี้นิ้วไปยังคอนโดเบื้องหน้ารถเทียบจอดหน้าประตู ทางเข้าเธอหันมามองหน้าผมแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะท่านประธาน ไว้มีโอกาสหนูจะ ตอบแทนนะคะ ขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนด้วยนะคะที่ขับรถมาส่งไป แล้วนะคะ”

“โชคดีนะ ไว้เจอกันอิงฟ้า”

คนตัวเล็ก โบกมือบ๊ายบายก่อนจะลงจากรถไปโดยมีผู้ช่วยผม ลงไปเปิดประตูให้ มารยาทดีสุดๆไหว้ผมไม่พอไหว้ผู้ช่วยผมอีก ผมมองตามเธอไปจนเธอลับสายตาผมมองผู้ช่วยผมผ่านกระจก พวกเขายกยิ้มมุปากมองหน้าผม

“ป๋าดูมีความสุขนะครับเวลาอยู่กับคุณอิงฟ้า”

“นั้นสิครับ ผมไม่เห็นป่ายิ้มแบบสบายใจแบบนี้มานานแล้ว

ผมเงียบไปแล้วคิดตามคำพูดของลูกน้องผม นั้นสินานแค่ไหน แล้วนะที่ผมไม่ได้ยิ้มแบบนี้ แปลกจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มไม่ หยุดเลยคือผมรู้ว่าเธอยังไม่เคยมีแฟนไง มันทำให้ผมใจเต้น แปลกๆ

“พวกนายคิดว่าไง ”

“ป๋าชอบเธอใช่มั้ยครับ”

ยังไง”

“ไม่รู้สิ แต่ผมสนใจเธอภาพมันติดตานะ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึก
ผมบอกไปตามจริง ไม่รู้ว่าความรู้สึกชอบหรือรักใครสักคนมัน เป็นยังไงเพราะถ้ารักใครสักคนจริงๆผมก็ไม่เคยเหมือนกัน

“แล้วป่าจะเอายังไงต่อครับ”

“ซื้อคอนโดที่นี่ให้ผมห้องหนึ่ง ตกแต่งให้เสร็จภายในวันพรุ่ง นี้ผมจะมาพักที่นี่…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ