บทที่ 15 ให้ผมกอดสักพัก
บทที่ 15 ให้ผมกอดสักพัก
ชายหาดที่เงียบเหงา รูปร่างที่ผอมสูงคนหนึ่งยืนตรงนั้น สีหน้าดูเศร้าหมอง ขมวดคิ้วอย่างเข้มขรึม เหมือนกำลัง ระบายความเจ็บปวดของเขา ไม่ได้พูดจา สายตาทั้งสอง คู่จ้องไปตรงๆที่ทะเลอันกว้างไม่มีที่สิ้นสุด
หนานกงห้าวฉีไม่รู้ยืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่แล้ว ขาทั้ง สองข้างคงขาไปหมดแล้ว เขากลับไม่คิดที่จะออกจาก ที่นั่น “จี่อยู่น ผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้ว” หนานกงห้าวฉีออก เสียงด้วยน้าเสียงที่แหบแห้ง
คลื่นทะเลซัดมาเรื่อยๆ จนท่วมมิดเสียงของเขาทั้งหมด สี่ปี พริบตาเดียว เธอจากไปสี่ปีแล้ว จนถึงตอนนี้ เขาก็ยัง รับไม่ได้กับความจริงที่เธอจากไป
นึกถึงภาพในตอนนั้นหนานกงห้าวฉีหลับตาอย่างเจ็บ ปวด สี่ปีที่แล้ว ตอนที่เขาเพิ่งรับไม้ต่อเป็นผู้บริหารบริษัท ตระกูลหนานกง เพราะคู่แข่งเยอะ คู่แข่งบางคนเล็งเป้า หมายไปที่แฟนของเขาเย่จี่อยู่น
ครั้งหนึ่งถูกจับตัวเป็นประกัน คู่แข่งเอาชีวิตของเย่จื่อยู่ นมาข่มขู่ ให้เขายอมถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งที่มี ความสำคัญมาก เขาสับสนมาก สุดท้ายก็เลือกถอนตัว ออกจากโครงการ แต่ว่าสุดท้าย เธอก็ถูกทำร้าย ถูกคนร้ายผลักลงไปในทะเล
เขาจ้างคนมากมายมาช่วยค้นหา แต่ก็ไม่มีข่าวคราวการ ค้นหาของเธอ ทุกคนต่างบอกเขาว่าเย่จี่อยู่นตายแล้ว แต่ ว่ายังไงเขาไม่ยอมเชื่อ สี่ปีนี้ผ่านพ้นไปอย่างทุลักทุเล
ควักกระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วดูหน้าคนที่อยู่รูป หนาน กงห้าวฉีค่อยๆเอามือลูบๆ สี่ปี ตอนที่เขาเตรียมที่จะลืม และฝังความรักครั้งนี้ไว้ลึกๆในใจ หมี่โยวกลับปรากฏตัว มาอยู่ในสายตาของเขา
“จ๋อยู่น ฉันเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เค้าหน้าตาคล้ายเธอมาก เค้าเหมือนเธอมากจริงๆ เห็นเขาแล้ว ก็เหมือนเธอกลับมา อยู่ข้างกายของผม” หนานกงห้าวฉีพูดด้วยเสียงแหบ
ข้างๆหูมีเสียงคลื่นทะเลพัดผ่าน พัดขึ้นแล้วก็พัดลง ไม่รู้ ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว หนานกงห้าวฉีเหมือนพูด อยู่คนเดียว: “ถึงจะเห็นแก่ตัวก็ดี ผมอยากให้เขามาเป็น ตัวแทนของเธอ
มองดูผิวน้ำทะเลที่โดนคลื่นทะเลซัดไปมาอย่างรุนแรง หนานกงห้าวฉีหันหลัง แล้วเดินไปทางเดิม
อีกข้างหนึ่ง หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หมี่โยวกลับ มาเที่ยวเล่นกับพ่อแม่ บนหน้ามีรอยยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ค่อยเต็มที่ เหมือนใจลอยไม่อยู่กับที่
ในที่สุดก็จบรายการไปหนึ่งวัน ตอนที่ทั้งครอบครัวกลับ ไปถึงที่คอนโดนั้น มองเห็นคนๆหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าคอน โด ยืนอยู่กับที่หมี่โยวมองเขาอย่างตกตะลึง
คุณแม่หมี่สะกิดตัวหมี่โยว พูดอย่างหยอกล้อว่า “ลูกสาวที่ชื่อ’อ เค้ากำลังรอหนูอยู่นะ ยังไม่รีบเดิน เข้าไป”
ได้สติขึ้นมา แก้มหมี่โยวกลายเป็นสีแดงเลย รีบๆ ง เข้าหา แล้วหยุดตรงหน้าของเขาด้วยระยะห่างประมาณ สองเมตรหมี่โยวถามอย่างแปลกใจว่า: “คุณชายหนานกง คุณทําไมมาที่นี่….
หางเสียงยังไม่ทันจบ หนานกงห้าวฉีก็เดินก้าวเท้ากว้างๆ สองมือกางออก แล้วเข้ากอดเธอไว้ ตกใจจนตาโต หัวใจ ของหมี่โยวเต้นตุ้บๆอย่างว้าวุ่น: “คุณ คุณไม่เป็นไรใช่ ไหม?”
กอดเธอไว้แน่นๆ เหมือนต้องการรู้สึกถึงความมีตัวตน ของเธอ แล้วเอาหัวซุกไปที่ไหล่ของเธอ เสียงของเขาเห มือนเครียดๆ: “ให้ผมกอดสักพัก” กอดสักพัก เหมือนเธอ กลับมาแล้ว
หมี่โยวตอบเซ่อๆคำเดียวว่าอืม และยืนนิ่งๆอย่างเชื่อฟัง ให้เขากอดไว้อย่างนั้น รู้สึกว่าวันนี้หนานกงห้าวฉีมี ความแปลกประหลาด แต่เหตุผลที่สำคัญ ก็ไม่รู้ว่าเป็นยัง ไง
ตรงที่ไม่ไกลนัก คุณแม่หมี่พิงในอกของคุณพ่อหมี่ เต็ม ไปด้วยความอุ่นใจ ภาพนี้ ดูแล้วเหมาะสมและดีงาม
โอบกอดแล้วสิบนาทีกว่า หนานกงห้าวฉีค่อยปล่อยเธอ ออก มองดูแก้มแดงๆที่น่ารัก และมองหน้าทั้งใบ หนานกง ห้าวฉียิ้มอย่างอ่อนโยน ใช้นิ้วโป้งถูที่แก้มของเธอ ท่าทาง ดูอ่อนโยนมาก
หมี่โยวไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบความรู้สึกในใจอย่างไรดี มีความสับสนวุ่นวาย พูดยาก “คุณ เป็นไรไหม?” หมี่โยว ลองถามดู
เขาปล่อยมือ แล้วรีบจับมือของเธอ ไม่ปล่อยให้เธอมี โอกาสปฏิเสธได้: “ผมสบายดี แต่หิวข้าวมาก สะดวกเชิญ ผมขึ้นไปกินข้าวไหม?”
“ถ้าไม่สะดวกล่ะ?” หมี่โยวพูดอย่างใจแข็ง ดูออกว่าพ่อ แม่พอใจเขามาก ฉะนั้น ไม่อยากให้เรื่องมันแย่ลงกว่านี้
หนานกงห้าวฉีหันตัวแล้วยิ้มๆ: “คุณคงไม่มีโอกาส ปฏิเสธแล้วล่ะ ไปเถอะ” หนานกงห้าวฉีพูดไปด้วยและใช้ มือดันเธอขึ้นไปที่ห้อง
ในที่ไม่ไกลนัก มีคนที่แอบๆในที่มีครีบๆกดชัตเตอร์รัวๆ เก็บภาพเหตุการณ์นี้ไว้ หนานกงห้าวฉีหันไปเห็นอย่างไม่ ตั้งใจ แล้วนๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ