บทที่ 6 เธอจะแตงงานกับฉันไม่ใช่เหรอ
ธมกรชาเลืองมองเขาแวบนึง แม้จะไม่ได้อยากแบ่ง หุ้นส่วนให้เธอ แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว มันเอาคืนมาไม่ ได้
“แน่นอน ถ้าแกหาคนที่ยอมเต็มใจจะแต่งงานกับแก ได้! หุ้นส่วน เธอก็เอาไปได้เลย!”
“ขอบคุณค่ะคุณปู่
นภสรยิ้มที่มุมปาก ต่อให้คนทุกคนต้องการจะเหยียบ เธอให้จมดิน เธอก็จะอ่อนแอไม่ได้ เธอโค้งคำนับธมกร แล้วจึงเดินจากไป
กลับมาถึงรถ นภสรรู้สึกท้อแท้หมดหวัง
ในแวดวงสังคมชั้นสูง ชื่อเสียงของเธอเน่าเฟะแค่ไหน เธอรู้ดี ตอนสมัยม.ปลายนรมนสร้างเรื่องที่เธอท้องแล้ว ทำแท้ง ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปจนชื่อเสียงเธอป่นปี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ใช้พูดกันสนุกปากกันอยู่เลย
เมืองเมฆกว้างใหญ่มาก คนที่ยอมแต่งงานกับเธอ อาจจะไม่มีเลยจริงๆก็ได้
นภสรมีเรื่องไม่สบายใจ ขับรถก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิ
จนเมื่อมีเสียงดัง “ตูม” รถของเธอไปเฉี่ยวกับรถอีก คันนึง เธอจึงตกใจดึงสติกลับมาได้ จบกัน ต้องเสียเงิน อีกแล้ว
นภสรลงรถไปดูเหตุการณ์ เธอขมวดคิ้วอย่างแรง
รถ Rolls-Royce Phantom? เป็นแบบสตรีม pre-sale ที่มีจำนวนจำกัดด้วย? แถมยังเป็น Phantom Collector’s Edition อีก!
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ สิบกว่าล้าน!
ยังไม่ทันทีนภสรจะทำใจเพื่อเดินเข้าไปขอโทษขอ โพย เจ้าของรถก็เปิดประตูเดินลงรถมาซะก่อน
นกสรเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรถ ก็ไปประสานเข้ากับ สายตาที่ลึกลับดั่งภูเขาที่เงียบสงบในป่าลึกเวลากลาง คืน ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำเอาเธอถึงกับตกใจ แต่ก็ สามารถเรียกชื่อของเขาออกมาได้อย่างถูกต้อง : “ปอง พล?”
ตัวตนจริงๆของเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้มี ปัญญาซื้อรถคันนี้ได้ หรือต่อให้เขามีเงินซื้อ แต่ก็ต้องมี ศักยภาพที่จะได้มันมาด้วยเหมือนกัน
ปองพลไม่ตอบกลับ เพียงแต่หันสายตาไปมองที่ตัว รถ ตรงนั้นมันมีรอบขีดข่วนเล็กน้อยมากๆ แต่เมื่ออยู่ บนรถคันนี้แล้วมันดูชัดเจนเป็นพิเศษ นภสรเองก็มอง เห็นรอยนั้นแล้ว ใบหน้าดูปกติ แต่ในใจกลับรู้สึกผิดและอึดอัด
ก่อนหน้านี้เธอยังเคยพูดไว้อู่เลยว่าหากเจอกันอีกใคร ทำเป็นไม่รู้จักกัน ตอนนี้เธอขูดรถคนอื่นจนเป็นแผล แถมยังเป็นรถหรูอีก แถมไม่รู้ว่าจะซ่อมได้หรือเปล่าอีก
“การปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควร ทำ” ปองพลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ขนคิ้วที่ยกขึ้น แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของเขา
“ขอโทษ” เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอ และเธอก็ ขอโทษอย่างว่าง่าย แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดอยู่ภายในใจ ที่เธอกังวลใจมากกว่าคือจะซ่อมรถคันนี้ยังไง เธอเห็น แล้วเธอยังรู้สึกปวดใจเลย
นัยน์ตาลึกลับคู่นั้นฉายแววบางอย่างออกมา ปองพล สังเกตเธออย่างละเอียด
เห็นใบหน้าฝั่งนึงที่มีความบวมแดงอยู่ กำลังขมวดคิ้ว
อยู่
ดวงตาของเธอดูสวยงามมาก นัยน์ตาสีพีชคู่นั้น เวลา หันมองคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนมีความตั้งใจจะยั่วยวน
ขนตาทั้งยาวทั้งงอน จมูกค่อนข้างตั้งตรง ริมฝีปาก แดงฟันขาว แถมมุมปากยังยกขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าใบหน้า ข้างนึงจะยังบวมแดงอยู่แต่ก็ยังดูเป็นผู้หญิงบอบบางน่า รัก
แม้ว่าเขาจะเคยเจอผู้หญิงสวยๆมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยัง คงประหลาดใจกับความงามของเธออยู่ดี เมื่อเห็นแวบ แรก เธอดูสวยงามมีเสน่ห์ เพอร์เฟค……
เขายกนิ้วขึ้นมาเลียโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าสัมผัสอัน นุ่มลื่นในคืนนั้นยังคงอยู่ระหว่างนิ้วมือ ที่ไหนสักแห่งใน หัวใจที่ถูกปิดกั้นเอาไว้บัดนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว
เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาที่ปองพลส่งมาให้ นภสร เอียงกายเล็กน้อย เพื่อปิดบังแก้มฝั่งที่บวมแดงเอาไว้
แต่ปองพลไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่เอ่ยปากพูด ว่า : “นี่เป็นรถของเพื่อนฉัน”
“หา?” นภสรชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะดึงสติกลับมา รถของเพื่อนงั้นเหรอ?
“แล้วรถคันนี้….….…..
ปองพลพูดแทรกคำพูดของเธอ เลิกคิดแล้วมองเธอ : “เดี๋ยวฉันะบอกเพื่อนฉันให้ ว่าฉันเอามันไปข่วนเพราะ ไม่ระวัง เธอจะขอบคุณฉันยังไงเหรอ?”
นภสรถูกหน่วงไว้ด้วยสายตาที่เร่าร้อนของเขา ในหัว มีเสียงคำพูดของธมกรลอยเข้ามา แล้วเธอก็เผลอหลุด พูดออกไปโดยไม่รู้ตัว : “งั้นฉันจะแต่งงานกับนายละ กัน”
“ตั๊ด——“
เสียงนกหวีดดังขึ้นมาทันที นภสรดึงสติกลับมา ปอง พลจะต้องคิดว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
“คือว่า…… ”
“ไปกันเถอะ” ในขณะที่พูด ปองพลก็เดินไปถึงหน้ารถ เธอแล้ว เขาเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นก็โผล่ หัวออกมาจากนอกหน้าต่าง แล้วพูดออกคำสั่ง : “ขึ้นรถ”
นกสรเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเขา เธอขึ้นรถแล้ว คาดเข็มขัดอย่างว่านอนสอนง่าย : “ไปไหน?”
“เธอจะแต่งงานกับฉันไม่ใช่เหรอ?”
“ต๊ะ?” แล้วสรุปคือจะไปไหนล่ะ?
ปองพลเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาฉายแววบางอย่างออกมา “สำนักงานเขต”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ