หัวใจร้อนๆของนายเย็นชา

บทที่ 11 พรุ่งนี้ไปเซ็นต์ใบหย่ากัน



บทที่ 11 พรุ่งนี้ไปเซ็นต์ใบหย่ากัน

นกสรมองไปตามเสียงที่เรียกนทจร เธอก็หันไปเห็น ปองพลที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองอย่างพอดิบพอดี ในมือ ของเขาก็ยังถือถุงที่แสกนโลโก้แบรนด์ดังเอาไว้ด้วยอีก สองใบ

ปองพลก้าวเท้าเดินเข้ามายืนข้างๆนภสร สายตาที่ มองไปยังนทจรเหมือนบีดคมๆ : “คุณชายนทจรไม่ได้ที่ ภรรยาผมบอกให้หุบปากเหรอครับ?”

นทจรไม่เคยรู้สึกอายและอึดอัดขนาดนี้มาก่อน หันไป จ้องปองพลตาเขม็ง : “ผมคุยกัยนภสร คุณอย่ามายุ่งจะ ดีกว่านะครับ”

ปองพลสลับมือที่ใช้ถือถุงช็อปปิ้ง แล้วเอาแขนอีก ข้างโอบนถสรเอาไว้ สีหน้าเรียบเฉย สายตาคมชัด น่า ดึงดูด

“คุณชายนทจรเป็นคนที่รู้จักประเมิณตนเองอยู่แล้ว ภรรยาของผม ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่งสอนชี้นำ”

นภสรมองปองพลแวบนึง แล้วหันไปมองนทจรที่โกรธ จนพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกสับสน ว่าทำไมเรื่องราวถึง กลายเป็นแบบนี้ได้?

เธอทะเลาะกับนทจรอยู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึง กลายเป็นการเผชิญหน้ากันของปองพลและนทจรไปได้ ซะล่ะ?
เอ่อ ปองพลเป็นสามีที่ของฉันสดๆร้อนในวันนี้ นทจร คือคนที่เธอชอบ……

นกสรเองก็ไม่ค่อยเข้าใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ ในวันนี้เธอก็ได้รู้ว่า นทจรก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่มีอคติ ต่อเธอ เพียงเพราะพ่อของเธอเป็นนักโทษจำคุกนั้นเอง

ภาพความทรงจำของพี่ชายแสนดีที่เอาลูกอมมา หยอกล้อเธอ บัดนี้กลับดูห่างเหินอย่างถึงที่สุด

นทจรรักศักดิ์ศรี ไม่มีทางทะเลาะกับปองพลต่อหน้า สาธารณะชนแบบนี้หรอก

เขาถอนให้ใจแรงก่อนเดินจากไป ก่อนไปเหมือนมี

อะไรอยากจะบอกกับนภสร แต่ก็ด้วยความที่มีปองพลอ

ยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ทำได้แค่กลืนคำพูดแล้วเดินจากไป จนเมื่อกลับมาถึงบ้าน นภสรก็ยังไม่หยุดคิดเรื่องนี้ ตอนนี้ปองพลกลายเป็นศัตรูกับนทจรไปแล้วใช่มั้ย?

แล้วนทจรจะยอมง่ายๆเหรอ?

“นายรู้หรือเปล่าว่านทจรเป็นใคร?” นภสรปลอบใจตัว เอง เห็นแก่ที่ปองพลยอมแต่งงานกับเธอ เธอก็เตือนเขา หน่อยละกัน

ปองพลที่กำลงจัดของอยู่ก็ถึงกับชะงัก ทำน้ำเสียงน่า เบื่อ : “เคยได้ยินบ้าง”
“แต่นายก็ยังจะพูดแบบนั้นกับเขา?”

“ทําไม? ปวดในจเหรอ?”

ปองพลวางของในมือลง ยืดตัวตรงแล้วมองไปที่เธอ นัยน์ตาดูมืดมน

นภสรแข็งทื่อไปทั้งร่าง ก่อนจะรีบหันกลับไป : “ฉัน ไม่รู้ว่านายพูดอะไร ฉันก็เพียงแค่จะเตือนสตินาย ครอบครับตุงคนาครค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองเมฆ ถ้า นทจรอยากจะเอาคืนนายล่ะก็ มันง่ายเหมือนปอกกล้วย เข้าปากเลยล่ะ”

“เหรอ? ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอเลย” เขาเอามือกอดอก ด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอ เท่าไหร่

นภสรไม่ได้ยินน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความกลัวจากเขา เลย หันไปมองเขาอย่างสงสัย : “นายไม่กลัวเขามาแก้ แค้นนายเหรอ?”

“ฉันสามารถเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้เลยว่าเธอ กำลังเป็นห่วงฉันอยู่

ปองพลเลิกคิ้มแล้วอมยิ้ม เป็นภาพที่ดูงดงามเกิน บรรยาย

นภสรทำหน้าบึ้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ฉันยุ่ง เรื่องนายเยอะไปเองแหละ!”
จากนั้น ก็หันหลังไปจัดของต่อ

นกสรนำรองเท้าสลิปเปอร์ที่ซื้อมาใหม่ไปวางไว้หน้า ประตูทางเข้า ก่อนจะเดินไปช่วยปองพลจัดของที่ซื้อมา ใหม่

นอกจากของใช้ในชีวิตประจำวัน และของกิน นอกนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นของของปองพล รองเท้า เข็มกลัดเน็ก ไทด์…และเสื้อเชิ้ตสีขาว!

นภัสรสายตาแพรวพราว : “นายซื้อเชิ้ตขาวมาสองตัว เลยเหรอ?”

“อืม” ปองพลตอบกลับเบาๆ พร้อมกับจัดของต่อ

ในตอนแรก ที่รีบแต่งงานกับปองพลปุบปับแบบนี้ก็ เพราะจะรับมือกับคุณปู่ เธอเพียงแค่ต้องการหนังสือ สมรสที่เรียบง่ายและสะอาดก็เท่านั้น ไม่ได้อยากมี ความสัมพันธ์หรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขามากมาย

ยิ่งไม่อยากให้เขาต้องมาตกระกำลำบากจากนทจรก็ เพราะตัวเธอ มันจะทำเธอรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณเธอ

เมื่อคิดอยู่ครู่นึง นภสรก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา : “พรุ่งนี้ เราไปทำเรื่องขอหย่ากัน ฉันที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณนาย สองบ้านไชยกาล แต่กลับไม่มีอะไรเลย ช่วยอะไรนาย ไม่ได้ นายต้องกลายเป็นศัตรูกับนทจรก็เพราะฉัน ถ้า เราหย่ากันแล้วนายก็ออกจากเมืองเมฆนี้ไปเถอะ ถ้าไม่ ได้อยู่ในเมืองเมฆแล้ว นทจรจะไปหาเรื่องนายก็คงเป็นเรื่องยากแล้วล่ะ”

ทุกอย่างในห้องเงียบลงในทันที เงียบจนแทบได้ยิน เสียงลมที่พัดผ่านอยู่ในห้อง

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอปองพลที่ club beautiful night จนถึงตอนนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ ถึงความรู้สึกที่ส่งผ่านออกมาผ่านตัวของปองพล ความรู้สึกโกรธ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ