ตอนที่ 10ฉันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นคนนอกนะ
แม่สามีของเธอโดนผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งควงแขนไว้ทั้งสองเดิน มาทางนี้คุยกันหัวเราะชอบใจพอดูดีๆผู้หญิงคนนั้นหยาวก็รู้จัก บังเอิญเป็นผู้หญิงคนเมื่อคืนที่เดินข้างๆชาวหมู่เชิงพอดี
คุณแม่ชาวคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอลู่หยาวที่โรงพยาบาล
ทั้งสี่สบตากันสีหน้าคุณแม่ชาวรู้สึกเกรงๆเธอทักทายคุณแม่ อย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “ฉันร่างกายไม่แข็งแรงอยู่เชิงก็เลยให้ห ซิ่วจือมาส่งฉันแกอย่าคิดมากนะ”
“ฉันรู้ค่ะผู้ช่วยของหมู่เชิง”ลู่หยาวยิ้มแล้วพูดควงแขนแม่ตน ไว้ แต่ว่าครั้งหน้าแม่เรียกฉันพามาก็ได้นะคะเรื่องแบบนี้ไม่ต้อง เรียกคนนอกหรอก”
คุณแม่ซ่าวยิ้มแห้ง
ฟูหวจือเนี่ยท่าทางต่างเหลือเกินได้ยินหยาวประชดตน สีหน้าเย็นลงมา “คุณคะฉันเป็นผู้ช่วยของประธานดูแลแม่ ของประธานก็เป็นเรื่องปกติฉันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นคนนอกนะ”
เห็นเมียน้อยก้าวร้าวอย่างนี้คุณแม่ไม่พอใจอยากจะด่าแทน ลูกสาวสักหน่อย
หยาวห้ามไว้พูดอย่างเฉย “เจ้านายของแกคือประธานข่าว ฉันเป็นเมียเขาแกต้องเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงชาวไม่ใช่คุณคู่ความ รู้แค่นี้ยังไม่มีฉันสงสัยจริงๆว่าแกขึ้นมาตำแหน่งนี้ได้ไง
ฟูทซิ่วจือสีหน้าแย่ลงกว่าเดิม
หยาวเดินผ่านหน้าตาเฉยยิ้มให้คุณแม่ข่าวที่ยืนอยู่ตรงข้าม แล้วพูดว่า “ขอโทษนะคะแม่ฉันก็มีธุระที่ต้องทำไม่สามารถ กลับไปกับแม่ได้ก็ให้คุณหวจือส่งแม่กลับไปแล้วกันขอตัวก่อน นะคะ”
“อืม” คุณแม่ชาวพยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ลู่หยาวก็เหลือบตาเห็นสายตาที่ดูถูกของคุณแม่ชาวเธอทำ เหมือนมองไม่เห็นควงแม่แล้วเดินเฉียดไหล่พวกเขาไปแต่อึดอัด ใจมากๆ
ก่อนแต่งงานเธอดูแลครอบครัวของชาวหมู่เชิงดีมากไม่มีอะไร ทำก็ถือของไปเยี่ยมที่บ้านข่าวแต่ว่าคนในบ้านชาวไม่มีใครเคย ทำสีหน้าดีๆ ใส่เธอเลยก็มีแค่คุณแม่ซาวคนเดียวที่ดีกับเธอ หน่อยก็คงเห็นแก่เงินของบ้านเธอแหละ
ตอนที่คุณแม่ซ่าวเป็นโรคไตอักเสบนอนที่โรงบาลหยาวก็อยู่ ดูแลที่โรงบาลเกือบเดือนกับข้าวทั้งสามมื้อก็ทำเองกับมือแล้ว เอาไปให้คุณแม่ข่าวกินดูแลคุณแม่ชาวมาตลอดจนออกโรงบาล แต่ว่าดีกับคุณแม่ชาวสักเท่าไหร่คุณแม่ชาวก็ไม่ชอบเธออยู่ดีเธอ ก็เหนื่อย
เหนื่อยมากจริงๆ
ไม่ว่าเธอจะทุ่มเทแค่ไหนาวหญ้เชิงก็คงไม่เห็นในสายตา หลังจากที่ไปจากโรงบาลลู่หยาวพบว่าเอายามาไม่ครบให้แม่รอตนแปปนึงกลับไปเอายา
ในระหว่างทางที่ไปก็ได้พบกับฟูจิ๋วจออีกครั้งครั้งนี้คุณแม่ว่า วไม่ได้อยู่ด้วย
ฟูหมิ่วจือเห็นลู่หยาวปุ๊ปใส่รองเท้าส้นสูงเดินมาเต็งเต็งเต็ง
อย่างแรง “หยาวเรามีเรื่องต้องคุยกัน” สภาพนั้นเหมือนคนพาลเลย
ลู่หยาวมองก็ไม่มองเธอเดินหลบไปหลายครั้งแต่ว่าฟูหลิ่วลือก รั้งไว้ตลอดเธอจึงจําเป็นต้องหยุด
“คุยอะไร”
“ฉันชื่อนซิ่วจือฐานะฉันเป็นยังไงแกลองไปค้นดูนะ”ฟูนซิ่วจี อบอกน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม เรื่องที่พ่อแกตกอับฉันก็รู้
ลู่หยาวยิ้มไม่ยิ้ม: “เรื่องที่พ่อฉันตกอับเขารู้กันทั้งประเทศถ้า แกไม่รู้สี่แปลก! ”
ตอนเช้าที่รอชาวหมู่เชิงที่โรงบาลเธอก็ได้ใช้มือถือค้นหา ประวัติของฟู ซิ่วจือแล้วพ่อทำเกี่ยวกับบ้านและที่ดินค่าตัวเป็น ล้านฟู ซิ่วจือก็เป็นลูกคุณหนูคนนึง
ลูกคุณหนูที่รวยมหาศาลแต่กลับยอมไปเป็นผู้ช่วยคนอื่น เหตุผลแค่เดาก็รู้แล้ว
ชัดเจนเลยที่จริงแล้วฟู่หวลือก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากกับ หยาวพูดขวานผ่าซาก : “ฉันรู้ว่าแกต้องการเงินสิบล้านถ้าแกยอมหย่ากับข่าวหยู่เชิงฉันถือว่าให้แกฟรีๆสิบล้าน”
เธอทำอะไรตรงไปตรงมาหยิบใบเสร็จออกมาหนึ่งใบเขียน จำนวนเลขแล้วเซ็นใช้สองนิ้วยื่นไปให้ลู่หยาว
ลู่หยาวเหลือบตามองไปทางใบเสร็จครั้งเดียวเหอะเงินจริง ของจริงสิบล้านบนนั้นมีลายเซ็นถ้าเธอตกลงแล้วตอนนี้สามารถ เอาไปเบิกเงินสดที่ธนาคารได้เลย
ลู่หยาวไม่ได้รับไว้แค่มองเธอไปแวบเดียว
“ฉันรักกับชาวหมู่เชิงดิบดีทำไมต้องหย่ากัน? เงินสิบล้าน ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีทางหายืมมาสักหน่อย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ