บทที่ 3 เจอหน้า
เงินหวานเอ๋อนั่งอยู่บนโซฟา สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ ผมยาวเปียก ไหล่ ช่างกวนรุ่ย มอดเหลือบมองไม่ได้ ในใจกลับรู้สึกเสียดาย
เมื่อสองสามวันก่อน พายุฝนพัดกระหน่ำเมือง หลังจากที่ช่าง กวนรุ่ยซินเลิกงานแล้วอยู่ในที่พักของตัวเองเห็นหญิงสาวคน หนึ่งเดินตัวเปียกท่ามกลางพายุฝน เห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร
ผู้หญิงคนนี้ก็คือ เป็นหว่านเอื้อ
ตอนนั้นเธอสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ เปียกปอนไปทั้งตัว
ในจิตวิญญาณของมนุษยธรรม รวมทั้งเขาก็ถึงบ้านแล้ว ช่าง กวนรุ่ยซินนำร่มส่งให้เธอด้วยความเห็นอกเห็นใจ
จากนั้นตอนที่เขากำลังจะขึ้นบันไดเขาหันกลับมามองที่หนึ่ง
พบว่าผู้หญิงตัวเปียกโชกถือร่มเดินตามหลังเขามา
“เฮ้ ฝนตกหนักขนาดนี้ คุณจะตามฉันมาทำไมกัน? รีบกลับ บ้านไปซ” ช่างกวนรุ่ยซินตะโกนบอกเธอ
เงินหว่านเอ๋อส่งร่มคืนซางกวนรุ่ยซิน จ้องมองด้วยสายตา มืดมน พูดอย่างน่าสงสาร “พี่ชาย ให้ฉันขึ้นไปหลบฝนข้างบน หน่อยเถอะ ฉันรบกวนคุณไม่นานหรอก”
ได้ยินคำพูดอย่างนี้ช่างกวนรุ่ยซินจับกระเป๋าตังค์ทันที ได้ยิน ว่าช่วงนี้มีผู้หญิงหลอกลวงอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย เธอแอบซ่อนอยู่ในมุมมืดของย่านที่อยู่อาศัยและใช้ความสงสารของผู้ชาย จาก นั้นหลอกเอาเงินไป ในสถานการณ์ที่คาดคิดไม่ถึงทำให้คนไม่ คาดคิด
“หรือว่าวันนี้ฉันจะโชคไม่ดีเหรอ?”
ช่างกวนรุ่นคิดอย่างเงียบๆ จึงพูดปฏิเสธไป แต่หญิงสาว ยังคงยืนกรานว่าเธอยืนตากฝนอยู่นานมีเพียงช่างกวนรุ่ยซิน เท่านั้นที่ใจดีเอาร่มมาให้เธอ แล้วยังบอกว่า ช่างกวนรุ่ยซิน เป็น คนดี เธอเป็นคนเกาะมาที่เมืองเว่ยเป็นครั้งแรก แถมกระเป๋าตังค์ ยังทำหาย บัตรประชาชนและเครดิตการ์ดที่อยู่ในนั้นหายหมด ตอนนี้เธอไม่มีทางไป หวังแต่เพียงขึ้นไปหลบฝนที่บ้านช่างกวน รุ่ยซิน รอจนฝนหยุดตกแล้วจึงไปติดต่อเรื่องเครดิตการ์ด
หลังจากที่ซางกวนรุ่ยซินมองซ้ายแลขวาอยู่นานเห็นมีแต่ผู้ หญิงคนนี้เท่านั้น จึงตอบรับให้เธอเข้าไปในห้องหลบฝนได้ เขา คิดอย่างนี้ ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง จะมาแย่งชิง อะไรกับเขาได้?
โดยไม่คาดคิด หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในห้องแล้วให้ ตายก็ไม่ยอมไปไหน ขอร้องซ่างกวนรุ่ยซิน ให้เธออยู่ต่อสักสอง สามวัน ผ่านช่วงนี้ไปแล้วเธอก็จะไปอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะไม้อ่อนหรือไม้แข็งเธอไม่ยอมไป แม้แต่หลี่เสี่ยนเห้อจะ พูดโน้มน้าวกี่ครั้งก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คืนนี้ช่าง กวนรุ่ยซิน เตรียมบังคับอย่างเด็ดขาด ให้เธอไปให้ได้
เมื่อเห็นซ่างกวนรุ่ยซินนั่งบนโซฟาอย่างจริงจัง จิตใจของเงินหว่านเมื่อสงบนิ่ง เธอรู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเธอต้องการให้เธอไป แต่ครั้งนี้เธอหนีออกจากบ้านอย่างไร้ความเมตตา เครดิตการ์ด ถูกทางบ้านยึดไว้ เงินที่ติดตัวก็ใช้หมดแล้ว ถ้าเธอกลับบ้านไป ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างนี้ งั้นเธอก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ เธอหนีออกจากบ้านมา
ดวงตาโตหมุนวนไปและพูดอย่างชาญฉลาดว่า “ฉันไปนอน ก่อน พรุ่งนี้คุณยังต้องไปทำงาน อย่านอนดึก ราตรีสวัสดิ์”
พูดจบเป็นหว่านเอ่อลุกขึ้นแล้ววิ่งไป
“หยุดก่อน”
ช่างกวนรุ่ยซินตะโกนออกมา “คุณอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ควร จะไปได้แล้ว”
เป็นหว่านเอ๋อหันกลับมามองซางกวนรุ่ยซินด้วยสายตาที่น่า สงสาร พูดพร้อมส่งสายตาไร้เดียงสา “พี่ช่างกวนรุ่ยซิน คุณให้ ฉันอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ คุณก็เห็นว่าฉันไม่มีเงินเลย ถ้าไปตอนนี้ ต้องอดตายแน่ อีกอย่างฉันก็สวยขนาดนี้ ออกไปคืนนี้เกิดเรื่อง อะไรขึ้นมา? คุณจะทนได้ไหม?”
ขณะพูดน้ำตาก็ไหลออกมา
ช่างกวนรุ่ยซินเริ่มโกรธ ทุกคนล้วนพูดว่าคนในแวดวงบันเทิง มักจะชำนาญเรื่องการแสดง เงินหว่านเอ๋อเป็นนางแบบ ใน แวดวงนี้เกรงว่าความพยายามถูกฝึกฝนจนชำนาญ ถ้าในเวลา ปกติมีผู้หญิงมาอยู่ห้องเดียวกับเขา ตอนเมื่อยังสามารถหัวเราะ ฆ่าเวลาให้ผ่านไป แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ทำอะไรเลย ทั้งวันเอาแต่กินนอนอยู่ในบ้าน ตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอดแล้วจะมาเลี้ยงดูคน เกียจได้อย่างไร?
“อย่ามาแกล้งไร้เดียงสา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปซะ” ช่างกวน รุ่ยชินพูดด้วยเสียงเย็นชา วันนี้เขาต้องบังคับให้ผู้หญิงคนนี้ไป จากที่นี่ให้ได้
“พี่ชางกวนรุ่ยซิน คุณจะใจไม้ไส้ระกำให้ผู้หญิงอ่อนแออย่าง
ฉันเดินอยู่บนถนน ทนให้คนเลวมารังแกฉันได้หรือไง?”
เป็นหว่านเอ๋อเรียนรู้วิธีเสียงออดอ้อนของผู้หญิงไต้หวัน
“ไม่ได้”
ช่างกวนรุ่ยซินปฏิเสธเสียงแข็งต่อไป เขาไม่เชื่อว่าคนอย่าง เธอซึ่งมาจากเกาะมาถึงเมืองเว่ยจะไม่มีเงิน อีกอย่างดูจากการ แต่งตัวของเธอก็รู้ว่าเป็นคนมีเงิน
ใบหน้าบูดบึงขึ้นมาในทันทีพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถ้าคุณ ไม่ไปฉันจะแจ้งความ ถึงเวลานั้นคุณก็ไปบอกกับตำรวจเองล่ะ กัน”
“ช่างกวนรุ่ยซิน คุณอย่าทำเกินไป ขออยู่แค่สองสามวัน
เงินหว่านเอ๋อที่ชอบออดอ้อนเปลี่ยนเป็นโมโหทันที บุคลิก เปลี่ยนเป็นสาวเผ็ดร้อน หญิงสาวไร้เดียงสาจ้องมองด้วยสายตา ออดอ้อนก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปไม่หวนกลับมา
หลังจากผ่านไปสองสามวัน ช่างกวนรุ่ยชินได้เห็นทักษะการ แสดงของหญิงคนนี้ การแสดงความรู้สึกเปลี่ยนไปทุกนาทีใบหน้าเปลี่ยนเร็วกว่าการพลิกหนังสือ
“ฉันไม่ได้ทำเกินไป เพียงแต่เตือนคุณ ถ้ายังไม่ไป ฉันจะไป แจ้งความ” ช่างกวนรุ่ยชินสีหน้าเย็นชา
“ได้ คุณมีความเมตตา คุณมีปัญญาก็โทรศัพท์แจ้งความเลย”
ช่างกวนร่ยซิน “
ช่างกวนรุ่ยซิน เอาหัวทุบกับโซฟา โดยไม่พูดอะไร ตุ๊บ..ตุ๊บ..ตุ๊บ..สามที เคยเจอคนไร้ยางอาย แต่ไม่เคยเจอคนไร้ ยางอายเช่นนี้ ความหยิ่งผยองของผู้หญิงปากดี
ในโทรทัศน์กำลังฉายหนังเรื่องศพบ้านเก่า แต่ด้านหน้า โทรทัศน์ ช่างกวนรุ่ยซินยืนอยู่หน้าโซฟา เบิกตากว้างจ้องมอง ดวงตาเล็กๆ
เวลาเหมือนหยุดเดินชั่วขณะ
ขณะนั้น ช่างกวนรุ่ยซินพูดอย่างยอมแพ้ “คุณผู้หญิง พรุ่งนี้ฉัน ต้องไปทำงาน พวกเราอย่ามัวเล่นลิ้นเลย ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้อง ไป?”
“เหอะ ฉันไม่ไป อยากทำอะไรก็ทํา
“ได้ คุณอย่ามาเสียใจภายหลังล่ะกัน”
ช่างกวนรุ่ยซินหัวเราะเยาะแล้วกระโดดลงจาก โซฟา จากนั้น เดินไปที่ตู้ทีวีแล้วเปิดลิ้นชักเพื่อหาหนังที่หยุดผลิตแล้วซึ่งเขาหวงแหนเก็บรักษามาหลายปี
เงินหวานเอ๋อเบิกตากว้างจ้องมองเขาด้วยความอยากรู้อยาก
เห็น แล้วพูดว่า “ช่างกวนรุ่ยซินคุณหาอะไร?” ช่างกวนรุ่ยชิ้นไม่ตอบ ในที่สุดหาหนังที่หยุดผลิตของอาโออิ ซึ่งอยู่ที่มุมลิ้นชักในสุด จากนั้นเปิดเครื่องเล่นดีวีดีอย่างรวดเร็ว
จากนั้นใส่แผ่นดิสก์เข้าไปข้างใน
ช่างกวนรุ่ยซินนั่งนิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้เธอโวยวายไป
เมื่อเห็นช่างกวนรุ่ยซินไม่ขยับ เป็นหว่านเอ๋อโวยวายมานาน เหมือนจะหาคำสบถไม่ได้แล้ว จึงได้แต่พูดเหอะ..เหอะ… “อยาก ดูก็ดูไปมีอะไรที่แปลก ยังไงภายหลังก็ต้องทำต่อไป
ช่างกวนรุ่ยซินเหงื่อออกทันที จนหัวเกือบชนกับโซฟา ผู้หญิง คนนี้ใจกล้าเกินไปจริงๆ
แต่ตอนนี้ เกิดเสียงแก๊ก แล้วความมืดเข้าปกคลุมภายในห้อง ไฟดับ
ช่างกวนรุ่ยซินกระโดดตัวลอย “บัดสบจริงเลย เวลาสำคัญดัน
มาไฟดับ ฟิวส์ขาดแน่เลย”
เป็นหว่านเอ๋อหัวเราะเสียงดังภายใต้ความมืดมิด “สมน้ำหน้า ยังไม่รีบไปดูอีกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คุณรออยู่นี่ กลับมาแล้วก็เก็บของของคุณซะ”
ช่างกวนรุ่ยชินพูดอย่างดุเดือด หยิบไฟฉายพร้อมกับปากกาไฟฟ้า เปิดประตูไปที่ทางเดินเพื่อดูว่ากล่องไฟฟิวส์ขาดหรือไม่
จากนั้นขณะที่เขาเดินออกจากห้องไป เป็นหว่านเมื่อเดินไปข้าง หน้าปิดประตูเสียงดังปัง ให้ช่างกวนรุ่ยซินอยู่ข้างนอก
ช่างกวนรุ่ยชินเคาะประตูอย่างแรง “รีบเปิดประตูเร็ว ฉันไม่ได้ เอากุญแจออกมา รีบเปิดเดี๋ยวนี้”
“ไม่เปิด ฉันจะนอนแล้ว ส่วนคุณเสี่ยวห้าวจื่อ อยู่ข้างนอกก็รีบ นอนซะ”
หลังจากพูดแล้ว ภายในห้องก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก ไม่ว่าช่าง กวนรุ่ยนจะเคาะประตูอย่างไร เป็นหว่านเอ๋อก็ไม่สนใจ แต่ตอน ที่เขาไปดูฟิวส์ ตัวเองก็ไม่ได้ติดกุญแจไปด้วย สวมแค่รองเท้า แตะกับกางเกง นี่เป็นการทารุณ ใช่หรือไม่?
ที่สำคัญที่สุดพรุ่งนี้นายหญิงคนใหม่ที่เป็นจะมาทำงานอย่าง เป็นทางการ ถ้าเขาลาป่วยเพราะเป็นหวัด ต่อไปในอนาคตคง ลําบาก
วันนี้เขาจึงขังสาวบาร์ไว้บนดาดฟ้า คิดไม่ถึงว่าคืนนี้จะถูกเป็น หว่านเอ๋อขังไว้ข้างนอก หรือว่านี่จะเรียกว่ากรรมตามสนอง
คิดแบบนี้ช่างกวนรุ่ยซินมีความโกรธเพิ่มขึ้นในใจ ใช้แรงถีบ ประตู ตะโกนด้วยความโกรธ “เงินหว่านเมื่อคุณมีทักษะดี ชั่ว ชีวิตนี้ก็อย่าออกมา ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาคุณถึงตาย”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ