สุดยอดทหารพิเศษ

บทที่ 1 ทําให้เลวร้าย



บทที่ 1 ทําให้เลวร้าย

ที่อยู่ของสำนักงานใหญ่อยู่ห่างจากสถานที่ทำงานของช่างกวน รุ่ยชิน ไม่ไกล อาคารนี้มีสามสิบสามชั้น เขาว่าที่นี่ได้อย่าง

แม่นยำ ปีนั้นเขาเคยมานั่งดื่มเหล้าชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบนดาดฟ้า กับหลเลียนเห้อ ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้า

เขาเคยพาแฟนเก่ามาเลือกชุดแต่งงานที่นี่ และให้คำมั่น สัญญาบนดาดฟ้า

เมื่อลมหนาวพัดมาจากดาดฟ้า ช่างกวนรุ่ยซินรู้สึกเศร้าใจเล็ก น้อยขึ้นมาทันที เสื้อผ้าคับได้ยินเสียงดังมาจากบันได เป็นเสียง ฝีเท้ารองเท้าส้นสูง

“มาเร็วดีจริง”

หวางหลงรีบมาสถานที่จัดงานฉลองแต่งงานอย่างรีบเร่ง เธอ รีบจนแทบเป็นบ้า คิดไม่ถึงว่าตอนมาจะได้มาพบกับคนเลว คน เหลือเดน แม้ว่าจะเคยร่วมเรียงเคียงหมอนมาหนึ่งคืน ทุกครั้งที่ นึกถึงเรื่องเหล่านี้ หวางหลิงได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ในโทรศัพท์มือถือยังมีข้อมูลลูกค้าชุดล่าสุด ในสำนักงานใหญ่ หลังเลิกงาน ในวันพรุ่งนี้ ถ้าหากทำหายเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะทำให้เรื่องนี้ยุติได้อย่างไร หลังจากได้รู้ข่าวคนสารเลว เธอรีบไปสถานที่จัดงานแต่งงานด้วยความกระวนกระวายใจ หลัง จากขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นสามสิบสอง แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน

เพียงก้าวขึ้นไปบนดาดฟ้า ลมเย็นพัดผ่านจนผมยาวของเธอ ปลิวไสว เธอรู้สึกเย็นขึ้นมาทันที ตะโกนเรียกคนที่อยู่ตรงหน้า “คนสารเลว เอาโทรศัพท์มือถือมาคืนฉัน โทรศัพท์มือถือของแก อยู่ที่นี่”

ช่างกวนรุ่ยซินหันกลับไปมองเธอ สายตาหยุดอยู่บนใบหน้า ขอเธอ ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ คิ้วเรียวดั่งใบหลิว หน้ากลมเหมือนแตงโม ผิวขาวเนียนละเอียด น่าเสียดายที่เป็น สาวบาร์

ช่างกวนรุ่ยซินถอนหายใจทีหนึ่งแล้ววางโทรศัพท์มือถือไว้บน ขอบรั้วดาดฟ้า พร้อมกับพูดว่า “เรียกฉันคนสารเลวมากเกินไป ฉันยอมคุณอีกครั้งเดียว โทรศัพท์มือถือวางไว้บนนี้คุณก็มาหยิบ ไปเองละกัน”

หวางหลิงขยับเท้า ย่อตัวทันที พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “คุณ ช่วยฉันหยิบมาให้หน่อย ฉันกลัวความสูง

“ฮา…ฮา…”

ช่างกวนรุ่ยซินหัวเราะเสียงดัง “ที่แท้คุณก็กลัวความสูง งั้นก็ ไม่ต้องมาจะดีกว่า”

หวางหลิงเครียด พูดด้วยความสงสัย “คุณหมายความว่า อย่างไร?”
ช่างกวน ยชินไม่พูดอะไร เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัว เอง จากนั้นเดินไปที่ประตูเหล็กอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้หวางหลังมี ปฏิกิริยาใดๆ ช่างกวนรุ่ยซินปิดประตูเหล็กกระแทกอย่างแรง จากนั้นเสียบขวางประตูไว้

“ฉันช่วยคุณกำจัดโรคกลัวความสูง ไล่ผู้หญิงคนนี้ อยู่ข้างบน นี้ไปก่อนนะ ฉันไปล่ะ” ช่างกวนรุ่ยซินหัวเราะเสียงดัง มีความ รู้สึกที่ตนเองเหนือกว่าด้วยความคึกคะนอง

หวางหลิง ใช้แรงผลักประตู แต่ประตูเหล็กก็ไม่ขยับเขยื้อน เลยสักนิด เธอเกรียวกราดด้วยความโกรธ “ไอ้คนสารเลว ทราม ไร้ยางอาย รีบมาเปิดประตูเลยนะ”

“คุณตะโกนใส่ลมหนาวไปล่ะกัน เพื่อบางทีลมจะสามารถ ชำระล้างจิตสำนึกที่เอะอะโวยวาย แล้วยังขจัดโรคกลัวความสูง ของคุณได้ ดีทั้งสองอย่าง

ที่ประตูมีเสียงเหยียดหยามมาจากหวางหลิง ยิ่งฟังก็ยิ่งค่อย

ลง ช่างกวนรุ่ยซินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินลงไปชั้นล่าง

“สารเลว ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว อย่าให้ฉันได้เจอคุณอีกนะ ไม่ อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่

บนดาดฟ้า หวางหลิง ใบหน้าเล็กแดง ร้องตะโกนด้วยความ โกรธ เมื่อเห็นโทรศัพท์มือถืออยู่บนขอบรั้วดาดฟ้า เท้าจึงค่อยๆ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ

ช่างกวนรุ่ยซินเดินหยุดอยู่ที่แผนกต้อนรับด้านหน้าสถานที่จัด งานเลี้ยงแต่งงาน เปลี่ยนสีหน้าแล้วหันไปหาหญิงสาวที่คอยต้อนรับพร้อมกับพูดว่า “มีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งพยายามสวมชุด แต่งงานแต่ถูกล็อคตัวไว้อยู่บนดาดฟ้า อย่าลืมขึ้นไปดูด้วยนะ

เมื่อออกจากสถานที่จัดงานเลี้ยง ช่างกวนรุ่ยซินมองดูเวลา เป็นเวลาบ่ายโมง ต้องรีบไปทํางาน ในสำนักงานกำลังถกเถียง กันเรื่องหัวหน้าคนใหม่ ช่างกวนรุ่ยซินได้แต่เงียบและง่วงนอน

เขากำลังกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องงานที่ทำ หลี่เสี่ยนเห้อเป็นผู้ อำนวยการฝ่ายวางแผน ไม่สามารถประสานงานกับฝ่ายบุคคล ได้ เรื่องปลดพนักงานเขาจึงทำไม่สำเร็จ ดีไม่ดีตัวเองอาจติด ร่างแหถูกไล่ออกไปด้วย

เขาไม่ได้มีความต้องการงานนี้ ไม่มีงานเขาก็หาใหม่ เพียง แต่หลี่เสี่ยนเหอช่วยเขาหางานมาหลายงานแล้วแต่ทำได้ไม่นาน เขาจึงรู้สึกผิดเล็กน้อย หลายปีมานี้ถ้าไม่ได้เพื่อนดีๆ ช่วยเขา ชีวิตของเขาต้องลำบากมาก

แต่เมื่อมีโอกาส เขาก็ไขว่คว้ามันไว้ไม่อยากไปรบกวน หลี่ เสี่ยนเห้อ ต่อให้หน้าหนาขนาดไหนก็มีขีดจำกัด มีเพื่อนดีก็ต้อง รู้จักประเมินตัวเองด้วย

มันไม่ง่ายเลยที่จะทนจนถึงเวลาเลิกงาน เขาจึงลากหลี่เสี่ยน เห้อไปที่ห้องอาหารของสำนักงานเพื่อถามเรื่องปลดพนักงาน

ศีรษะของหลี่เสี่ยนเห้อเต็มไปด้วยเหงื่อ พูดอย่างร้อนกันว่า “เรื่องนี้ฉันได้พูดกับหัวหน้าคนใหม่ตอนที่ฉันพบเขาโดยบังเอิญ เมื่อตอนเที่ยง”

“หัวหน้าคนใหม่? ได้ยินว่าเป็นผู้หญิง สวยไหม?” ช่างกวนรุ่ยซิน พูดอย่างร้อนร้น

“อย่าเพิ่งมาสนใจว่าสวยหรือไม่สวย ยังไงก็ไม่ใช่ของเล่นคุณ เธอเป็นลูกสาวของหัวหน้า เธอบินมาจากเกาะเพื่อมารับตำแหน่ง ในสำนักงานใหญ่โดยเฉพาะการปลดพนักงานแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด เธออยากทําให้เกิดผลลัพธ์ออกมา ผู้สนับสนุนของเธอ ไม่ค่อยดีนัก

“งั้นยังจะมีทางไหนอีก? ช่างกวนรุ่ยซินหดหูเล็กน้อย รู้สึก ว่าการปลดพนักงานเกี่ยวข้องกับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

หลี่เสี่ยนเห้อพูดว่า “เมื่อตอนบ่ายฉันไปที่ฝ่ายบุคคลเพื่อถาม เรื่องปลดพนักงาน พวกเขาบอกว่ารายละเอียดของรายชื่อยังไม่ แน่นอน เรื่องนี้ยังไม่รีบร้อน หากฉันมีเวลาจะไปฝ่ายวางแผนช่วย พูดให้คุณ”

“ขอบคุณมากนะหรี่เสี่ยนเห้อ มา คุณถอยหลังมา ฉันจะทุบ หลังให้

“ไปเลย น่ารำคาญ เอ่ย อ้อ ผู้หญิงที่อยู่บ้านคุณไปหรือยัง? ตั้ง หลายวันแล้วนะ”

เมื่อพูดเรื่องนี้ช่างกวนรุ่ยซินทันใดนั้นเหมือนเกิดไฟลุกโพรง ในท้อง เขาทิ้งก้นบุหรี่ลงในถังขยะ พร้อมกับพูดเสียงสูงขึ้น “อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย คุณบอกว่าช่วงนี้ฉันโชคร้ายใช่ไหม? อ่า เจตนาดีเมตตา ให้เธอขึ้นไปหลบฝน แต่เธอกลับไม่ยอมไป ทั้งวัน เอาแต่กินนอนอยู่บ้านฉัน ตัวฉันเองยังไม่เอาตัวไม่รอดจะมาแอบ ซ่อนผู้หญิงไว้ในห้องได้อย่างไรกัน
ช่างกวนรุ่ยซินตื่นเต้นเกินไป พูดไปก็เอามือทุบลงบนโต๊ะ

อย่างเสียงดัง แล้วพูดต่อไปว่า “เธอบอกว่าเธอเป็นนางแบบ นี่

เป็นครั้งแรกที่มาเมืองเวยแล้วกระเป๋าตังค์หาย บัตรประชาชน

เครดิตการ์ดหายไปด้วย เธอไม่มีที่ไป ไอ้คุณบอกว่าฉันเหมือน

คนโง่หรือเปล่า คำพูดน้ำเน่าแบบนี้ฉันก็เชื่อ ตอนนี้อยู่บ้านฉันไม่

ยอมไป ฉันจะบอกให้นะเสี่ยนให้อวงการนี้วุ่นวาย นางนงนาง

แบบที่ไหนไม่ใช่เดินสองขา ก็ได้เงินมาอยู่ในมือ

หลี่เสี่ยนเหอขมวดคิ้ว “ไม่ใช่เสากระโดงที่จะใช้ตีคนทั่วไป จริงๆ แล้วฉันไม่เชื่อที่คุณบอกหรอก แต่ผู้หญิงคนนั้นดูน่าตื่นเต้น ดี ถ้าไงคุณก็พยายามเข้าหน่อย ให้เธออยู่บ้านคุณอย่างชอบ ธรรม”

“พอเลย คุณยังไม่เห็นเธอใช้แต่ของแบรนด์เนม ฉันเอาตัวไม่ รอดจะไปเลี้ยงดูเธอให้รอดได้ยังไง ขายไตยังไม่พอให้เธอซื้อ กระเป๋าได้เลย ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิงฟุ้งเฟ้อ คืนนี้ฉันต้องคิดหาวิธี ให้ผู้หญิงนี้ออกไปให้ได้”

หลี่เสี่ยนเหอหัวเราะออกมา พูดว่า “ได้ ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว พรุ่งนี้นายหญิงคนใหม่จะมารับตำแหน่ง อยากพบทุกคนใน แต่ละฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายวางแผนของพวกคุณ มาเช้าหน่อยล่ะ กันอย่ามาสาย ยังมี จำไว้พรุ่งนี้ให้ใส่สูทอย่าใส่กางเกงยีนส์ ทำให้เป็นทางการหน่อย

“น่ารําคาญจริง ต้องคุกเข่าด้วยเปล่า อย่าปิดสัญญาณ โทรศัพท์มือถือของฉันที่นี่ก็แล้วกัน”
หลี่เสี่ยนเหอหัวเราะ เดินออกไปพร้อมกับกระเป๋าเอกสารของ

เขา

ช่างกวนรุ่ยซินหยิบบุหรี่ออกมาแล้วเดินออกจากร้านอาหาร อย่างช้าๆ เดินกลับไปยังที่พักของตัวเองอย่างหมดอาลัยตาย อยากคนเดียว

ยังไม่ทันเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิดเสียงดังแม้แต่ข้าง นอกยังไม่ได้ยินอย่างชัดเจน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเปิด ประตูเข้าไป ในห้องมืดมิด มีแต่โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นที่เปิด หนังสยองขวัญเรื่องศพของบ้านเก่า เปิดเสียงดังลั่น

ความปลอดภัยของย่านที่อยู่อาศัยนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร เสียง ดังลั่นขนาดนี้กลับไม่มีใครมาร้องเรียน

ด้านหน้าโทรทัศน์ ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา ดวงตา

ที่มีน้ำตาคลอเบิกกว้างกลมโตจ้องมองโทรทัศน์ สองมือปิดปาก

ไว้ ร้องเสียงดังออกมาเป็นครั้งคราว ดูออกรสออกชาติดี

นี่คือผู้หญิงที่หลี่เสี่ยนเห้อพูดถึงว่าอยู่บ้านช่างกวนรุ่ยซินไม่ ยอมไป ชื่อว่า เป็นหว่านเอ๋อ

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เป็นหว่านเอ๋อหันไปมองที่หนึ่ง น้ำตา ที่คลอในดวงตาหยดลงมา ลักยิ้มทั้งสองแก้มปรากฏออกมา “คุณกลับมาแล้ว มาดูหนังกันเร็ว สนุกมากเลย

ช่างกวนรุ่ยซินเปิดไฟ ภายในห้องที่มืดมิดก็สว่างไปทั่ว สีหน้า เขาคร่ำเครียด แล้วยืนอยู่หน้าโทรทัศน์ จากนั้นนั่งลงอย่าง จริงจัง จ้องมองเงินหว่านเอ๋อพร้อมกับพูดว่า “ฉันคิดว่าพวกเราควรมานั่งคุยกันดีๆ วันนี้คุณต้องออกไป ฉันเลี้ยงคุณไม่ได้”

เงินหว่านเอ๋อบีบน้ำตาแกล้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์จ้องมองไปที่ ช่างกวน ย น พูดอย่างน่าสงสารว่า “ช่างกวนรุ่ยซินคุณน้าของ ฉันมาแล้ว ฉันไปไม่ได้แล้ว

คุณน้ามา ไปหรือไม่ไป มันเกี่ยวอะไรกันด้วย?

ช่างกวนรุ่ย นมึนงงไปชั่วขณะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ