สุดยอดคุณชายอันดับหนึ่ง

บทที่ 6 ตู้เฟยที่ชั่วร้าย



บทที่ 6 ตู้เฟยที่ชั่วร้าย

บทที่ 6 ตู้เฟยที่ชั่วร้าย

หลี่ฝางพูดจบ เสียงในห้องอิมพีเรียลเงียบลง

ทุกคนในห้อง ต่างก็จ้องมองหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง ฉันว่านายบ้าไปแล้วเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงพูดขึ้นมา ทำลายความเงียบนั้น

“หลี่ฝางต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าเอาอย่างที่เขาพูด อาหารมื้อนี้คง ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นแสน ถึงจะหารกันคนละครึ่ง เขาก็ต้องรับผิด ชอบบิลอย่างน้อยห้าหมื่นขึ้นไป

“แต่เขาถูกรางวัลแค่สองหมื่นเองไม่ใช่เหรอ? ”

ระหว่างทางที่มา พวกตู้เฟยคิดจะปอกลอกหลี่ฝางยังไง แต่วันนี้ ไปๆ มาๆ พวกเขากลัวขึ้นมาแล้ว

สีหน้าตู้เฟยเขียวไปเลยทีเดียว บนตัวเขามีแค่สองหมื่นกว่า ถ้า สั่งไวน์สี่ขวดจริงๆ ไม่เพียงแค่หลี่ฝางจะถูกคุมตัวไว้ แม้แต่เขาก็ ต้องโดนไปด้วย

แต่ในขณะนั้นพนักงานพยายามช่วยพูดขึ้นมาว่า: “เถ้าแก่น้อย ท่านล้อเล่นเก่งจริงๆ เดี๋ยวผมแนะนำไวน์ยี่ห้ออื่นๆ ให้นะ ครับ

“ใช่ หลี่ผ่างกำลังล้อเล่นกับคุณ” ตู้เฟยรีบพูด

แต่หลี่ฝางกลับยิ้มนิดๆ : “ใครล้อเล่น ผมพูดจริงๆ

“พี่เฟย นายจ่ายไม่ไหวเหรอ? ” หลี่ฝางหรี่ตาลงเล็กๆ จ้องมอง หน้าตู้เฟยอย่างเยาะเย้ย

หลี่ฝางพูดแล้วก็หยิบเอาเงินในกระเป๋าออกมายื่นให้พนักงาน “เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ล้อเล่น ผมจ่ายค่ามัดจำก่อนก็ได้”

“ได้ครับ เถ้าแก่” ที่จริงพนักงานก็กลัว กลัวว่าสุดท้ายแล้วหล่ ฝางและเพื่อนๆ จะจ่ายไม่ไหว ตอนนี้หลี่ฝางจ่ายค่ามัดจำไปสอง หมื่น เขาจึงไม่ต้องกลัวจะเกิดปัญหาอีก

“พี่เฟย ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้พนักงานเสิร์ฟอาหารได้เลย ปรึกษากันนานมากแล้ว ผมว่าทุกคนหัวแย่แล้ว” หลี่ฝางพูด

ตู้เฟยถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เขาไม่กล้าตอบตกลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้
ถ้าเขาปฏิเสธ ก็แสดงว่าเขายอมแพ้ ยอมก้มหัวให้หลี่ฝางแล้ว

“ไม่พูดแสดงว่ายอมรับ ดูแล้วพี่เฟยไม่มีปัญหาอะไร” หลี่ฝาง พูด: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เสิร์ฟอาหารเสิร์ฟเหล้ามา

พนักงานเดินออกจากห้องรับรองแล้ว ตู้เฟยพูดขึ้นมาว่า: “เดี๋ยว นายจ่ายของนายก่อน ถ้าจ่ายไม่ไหว นายก็อยู่ที่นี่แหล่ะ”

หลี่ฝางยิ้มๆ ไม่ตอบอะไร

ไม่นาน อาหารและเหล้าเสิร์ฟพร้อมแล้ว กับข้าวเยอะเกินไป จน โต๊ะไม่พอวาง

ทุกคนต่างหยิบมือถือออกมาถ่ายรูป โพสต์ในเฟสบุ๊ค อินสตาร์ แกรมและเว็บต่างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มอย่าง ได้ใจ

ผ่านไปสักพักใหญ่ ทุกคนต่างก็ปล่อยวางได้แล้ว

ดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็เอามือนวดขมับ แกล้งทำเป็น มึนเมาและพูดว่า: “พี่ฝาง ฉันเหมือนจะเมามากแล้ว ขอยืมไหล่ ของนายพิงหน่อยได้ไหม
หลี่ฝางหันไปมองทางเซี่ยลู่ แต่กลับเห็นเซี่ยลู่เมาและซบอยู่ ในอกของตู้เฟยแต่เช้าแล้ว หลี่ฝางเห็นแล้วหงุดหงิดกรอกเหล้า เหมาไถลงไปอีกหนึ่ง

ที่จริงแล้วหลี่ฝางได้ตายใจจากเซี่ยลู่ตั้งนานแล้ว แค่ว่ามองดูเซี่ ยลู่กับตู้เฟยอยู่ด้วยกัน ในใจของเขาก็ยังรู้สึกโมโห

“หลี่ฝาง มา ขอชนแก้วขอบใจนายสักแก้ว” หลิวเฉียวเฉียวมาอยู่ ข้างๆ ของหลี่ฝาง

“ถ้าไม่ใช่นาย ชีวิตนี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้ดื่มไวน์ดีๆ แบบนี้”

“ฉันเคยได้ยินมาว่า ไวน์ต้องค่อยๆ ชิม แต่ดื่มหมดไปขวดหนึ่ง แล้ว ฉันยังดื่มไม่ออกเลยว่ามันรสชาติยังไง” หลิวเฉียวเฉียว กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ตอนที่เธอดื่มลงไป ไม่ได้รสชาติของ แบงค์พันเหรอ? ”

ฮาๆๆ หลิวเฉียวเฉียวถูกหลี่ฝางหยอกจนหัวเราะเสียงดังออกมา

“นายอารมณ์ดีจริงๆ เลย เมื่อก่อนทำไมไม่สังเกตเห็นนะ” หลิว เฉียวเฉียวกํามือทบที่หน้าอกของหลี่ฝางเบาๆ
หลี่ฝางหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ ก็เพราะเมื่อก่อนมันจนไงล่ะ

หลิวเฉียวเฉียวเดินไปแล้ว จางเซียนก็เดินมาคุยดีกับหลี่ฝาง เหมือนกัน ทําให้หลี่เสี่ยวเสี่ยวหงุดหงิดโมโห ค่าสองคนนั้น ตลอดว่าเป็นนางมารสุนัขจิ้งจอก

จนสุดท้ายกินข้าวไม่ลง ดื่มก็ดื่มไม่ลงแล้ว จึงคุยกันว่าจะกลับ บ้านกัน

ตอนที่เช็คบิล จางเสี่ยวเฟิงและเกาเส็งหัวเราะเยาะอยู่ตลอด

เวลา

“ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ? ” หลี่ฝางและตู้เฟยเดินไปที่เคาน์เตอร์ เช็คบิล เชี่ยลู่และคนอื่นๆ ต่างก็พากันไปด้วย

“สวัสดีค่ะ ค่าใช้จ่ายห้องอิมพีเรียลทั้งหมดหนึ่งแสนหนึ่งหมื่น สองพันหยวน ส่วนค่าใช้จ่ายห้องวีไอพีอีกสามห้องทั้งหมดสอง หมื่นสองพันหยวนค่ะ” พนักงานบัญชีที่เคาน์เตอร์สีหน้าก็เต็มไป ด้วยความตกตะลึง

“ผมขอสอบถามหน่อย ห้องอื่นอีกสามห้อง เป็นมาตรฐานสาม พันแปดร้อยแปดสอบไม่ใช่เหรอครับ? ทําไมค่าใช้จ่ายถึงตั้งสอง หมื่นสอง? คิดผิดหรือเปล่าครับ” หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม
“คุณผู้ชายสวัสดีค่ะ สามห้องนั้นได้สั่งเหล้าข้าวทุกห้อง และยัง เหมือนห้องอิมพีเรียลของพวกคุณด้วย เหล้าเหมาไถเหมือนกัน ทั้งหมดดื่มไปแปดขวด”

สีหน้าของหลี่ฝางบึ้งและเข้าใจอะไรบางอย่างทันที

หลี่ฝางรูดบัตร จากนั้นมองหน้าตู้เฟยนิ่งๆ : “พี่เฟย ค่าใช้จ่าย ของห้องอิมพีเรียลเราตกลงกันไว้ว่าหารกันคนละครึ่ง ของผม จ่ายแล้ว”

“นายเอาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหน? ” ตู้เฟยมองหน้าหลี่ฝาง อย่างเยือกเย็น

เซี่ยลู่เข้าใจขึ้นมาทันที: “หลี่ฝาง นายไม่ได้ถูกรางวัลแค่สอง หมื่นเท่านั้นใช่ไหม แต่เยอะกว่านั้น? ”

“ผมไม่เคยพูดว่าผมถูกรางวัลแค่สองหมื่นนะ? ” หลี่ฝางยิ้มๆ อย่างมีเล่ห์นัย

“ผมแค่เอาเงินสดออกมาสองหมื่น ก็หมายความว่าผมถูกรางวัล แค่สองหมื่นเหรอ? ”

“ถ้าผมถูกรางวัลห้าล้าน ก็ต้องเอาออกมาทั้งหมด แล้วใส่ไว้ใน กระเป๋าอย่างนั้นเหรอ? ผมไม่มีกระเป๋าที่ใหญ่ขนาดนั้น
สองมือของหลี่ฝางล้วงกระเป๋ากางเกง พูดจบก็เดินออก จากLotusอย่างสง่าผ่าเผย

อาหารมื้อเดียวหลี่ฝางใช้ไปตั้งเจ็ดแปดหมื่น จะบอกว่าไม่ เสียดายคงไม่ใช่แน่นอน แต่ที่เขาทำเช่นนี้ในคืนนี้ ทั้งหมดก็เพื่อ เอาความมั่นใจของตนเองกลับคืนมา

หลี่ฝางอัดอั้นมานานสามปี ในที่สุดก็สามารถลืมตาอ้าปาก เงย หน้าเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย

เหมือนในหนังเรื่อง (( โหด เลว ดี ) คำพังเพยที่โจวเหวินฟะพูด ไว้: ผมรอมาตั้งสามปี ก็เพื่อรอโอกาส ผมจะต้องยืดอกเดินได้ง่า ผ่าเผย ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าผมยอดเยี่ยมขนาดไหน ผมอยากบอก ทุกคน สิ่งที่ฉันเคยเสียไปทั้งหมด ผมต้องเอาคืนมาให้ได้!

คำพังเพยประโยคนี้เหมาะสำหรับหลี่ฝางมาก

“คุณผู้ชายคะ ท่านยังต้องจ่ายอีกห้าหมื่นหกพัน ท่านต้องการรูด บัตรหรือจ่ายเงินสดคะ? ” พนักงานเคาน์เตอร์มองหน้าตู้เฟยและ คนอื่นๆ

ตู้เฟยร้อนใจล่ะทีนี้ ในบัตรของเขามีแค่สองหมื่น มีเงินจ่าย ที่ไหนกัน?
“เดี๋ยวนะครับ ผมโทรศัพท์ก่อน” ตู้เฟยรีบร้อนหยิบมือถือออกมา แล้วรีบโทรหาคนนั้นคนนี้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ตู้เฟยยืมได้แค่ไม่กี่พัน คนส่วนใหญ่ได้ยินคำ ว่ายืมเงินก็เริ่มบ่นว่าจนหรือวางสายทิ้งทันที

“แม่งเอ้ย!” ตู้เฟยตาแดงๆ ถามพวกจางเสี่ยวเฟิง

“พี่เฟย บนตัวผมมีแค่ไม่กี่พัน แต่ก็ไม่พอนี่นา” จางเสี่ยวเฟิงพูด ด้วยความขมขื่น

“เกาเส็ง นายล่ะ? ” ตู้เฟยถาม

“พี่เฟย สองวันนี้ผมเล่นพนันออนไลน์ เล่นเสียหมดแล้ว” เกา เส็งพูดโกหกไป

“เหี้ยแม่ง คืนนี้มึงกินเยอะที่สุด” ตู้เฟยร้อนรนใจ ตะโกนด่าเกาเสื้ งออกมาโดยไม่สนใจอะไรแล้ว

ถึงแม้เกาเส็งจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับตู้เฟย

เงินรวบรวมได้แค่สองหมื่นหก ยังขาดอีกสามหมื่น ไม่มีทางอื่น ตู้เฟยจึงให้สาวๆ อยู่เป็นตัวประกันไว้ก่อน บอกว่าเดี๋ยวไปเงินมาได้ค่อยกลับมารับพวกเธอกลับ

หลังจากออกไปแล้ว จางเสี่ยวเฟิงกัดฟันพูด: “แม่งเอ้ย นึกไม่ถึง จะถูกหลี่ผ่างไอ้ตาบ้านั่นแกล้ง

ใช่ ตอนแรกยังกะจะแกล้งมัน นึกไม่ถึงกลับถูกมันแกล้ง!

“ตอนนี้จะทำยังไงดี? ” เกาเส็งรู้สึกร้อนใจแล้ว: “สามหมื่น? เงิน เยอะขนาดนี้พวกเราจะไปหาที่ไหน!

“พี่เฟย ถ้าไม่ได้จริงๆ ต้องเอ่ยปากขอกับพ่อนายแล้ว” จางเสี่ยว เพิ่งมองหน้าตู้เฟยและพูดด้วยความอัดอั้นใจ

ตู้เฟยจ้องจางเสี่ยวเฟิง: “ให้พ่อกูรู้เข้าว่ากูมากินข้าวมื้อเดียวใช้ ไปห้าหมื่นกว่า เขาต้องเอากตายแน่ วันหลังรถคันนี้ก็ขับไม่ได้อีก แน่

“งั้นไปยืมพวกเงินกู้นอกระบบคงไม่ได้หรอกมั้ง? * จางเสี่ยวเฟิง ถอนหายใจ

“นี่ก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ได้นะ พอดีผมก็รู้จักพี่คนหนึ่งที่ปล่อยเงิน กู้ ผมโทรหาเขาได้” พูดจบเกาเส็งยังรีบหยิบมือถือออกมา แต่ ปรากฏว่าถูกตู้เฟยถีบจนล้มลงกับพื้น
“แม่งเอ้ยมึงทำไมโง่วะ ยืนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูงพวกเรา จะคืนยังไง? ” ตู้เฟยถาม: “เงินกู้ดอกเบี้ยบาน ถ้ายืมแล้วไม่มีคืน พวกเรายิ่งตายแน่

เกาเส็งหันไปมองด้านหลัง: “ซ้อกับหลิวเฉียวเฉียวพวกเค้า……

“อย่าเอ่ยถึงพวกนางนั่น ถ้าไม่ใช่พวกเธอ ข้าวมื้อนี้จะใช้ไปเยอะ ขนาดนั้นได้ไง? ” ตู้เฟยพูดด้วยความโมโห: “ค่าใช้จ่ายพวกเค้า เป็นคนใช้เอง ก็ให้พวกมันจ่ายเองละกัน พวกเราไป

จางเสี่ยวเฟิงและเกาเส็งได้ยินแล้ว ต่างมองหน้ากัน ไม่มีใคร พูดจา

เชี่ยล่เป็นแฟนของตู้เฟย ตู้เฟยเองยังไม่สนใจแล้ว พวกเขาจะ สนใจทำไม

“เดี๋ยวรอมีโอกาส ต้องสั่งสอนไอ้บ้าหลีฝางสักหน่อยแล้ว” ตู้ เฟยพูดอย่างเยือกเย็น

จางเสี่ยวเฟิงและเกาเส็งก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

เซี่ยลู่และเพื่อนๆ นั่งบนโซฟาในล็อบบี้Lutus นั่งมาสองชั่วโมง แล้ว ระหว่างนั้น เซี่ยล่พยายามโทรหาตู้เฟย จะถามเขาหาเงินได้หรือยัง?

ตอนแรกตู้เฟยยังตอบดีๆ อยู่ ว่าตนเองกำลังหาวิธี แต่สุดท้าย

ปิดเครื่องหายเงียบไปเลย

ในเวลานี้ เซี่ยลู่ตกใจอย่างมาก

“มือถือของตู้เฟยปิดเครื่องแล้ว” เซี่ยลู่จับมือถือไว้และพูดอย่าง ตื่นตระหนกใจ

“หา!” หลิวเฉียวเฉียวและจางเชี่ยนก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเหมือนกัน

“แล้วพวกเราควรทำยังไงดี? ” หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้วแน่นๆ

จางเชี่ยนผลักแขนของเซี่ยลู่: “ลู่ลู่ หรือว่าแกโทรหาหลี่ฝางดู ไหม ให้เขามาช่วยพวกเราเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ