สาวน้อยของประธานเจ้าเล่ห์

ตอนที่14 คุณสามีคะ เราไม่ได้ไปบ้านของคุณหรอกหรือ



ตอนที่14 คุณสามีคะ เราไม่ได้ไปบ้านของคุณหรอกหรือ

ตอนที่14 คณสามีคะ เราไม่ได้ไปบ้านของคุณหรอกหรือ?

“ส…. คุณสามีคะ เราไม่ได้ไปบ้านของคุณหรอกหรือ”เมื่อเดิน เข้ามาในโรงแรม เพ็ญจิตเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธออยากจะเรียกชื่อของสุวิทย์แต่ในขณะนั้นกลับนึกไม่ออก จึง ทําแค่ได้เพียงพูดว่า”คุณสามี แทน

“ผมไม่มีบ้านจึงพักอยู่ที่โรงแรมนี้ชั่วคราวสุวิทย์พูดด้วยสีหน้า

เมื่อเปิดประตูห้องสุวิทย์ก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นไปอีก ความ หุนหันพลันแล่นเมื่อช่วงเช้าของตนทำให้เขารู้สึกเสียใจภายหลัง เป็นอย่างมาก จู่ๆดันรนหาเรื่องวุ่นวายให้ตัวเองและที่สำคัญยัง เป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเสียด้วย

“ฉันขอโทษ ในตอนนั้นฉันรับไม่ไหวจริงๆ เมื่อกี้ตอนที่กลับ เข้าไปในบ้าน เผอิญไปได้ยินแม่กับพี่ชายพูดว่าฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบ้านวงศ์อัจฉรา ฉัน…ฉันเสียใจมากก็เลยวิ่งหนีออกมา”เพ็ญ จิตทําจมูกฟุตฟิต

ตอนนี้สวิทย์เป็นเสมือนฟางเส้นสุดท้ายของเธอ นอกจากเขา แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนได้อีก และที่สำคัญสุวิทย์ช่างปรากฏตัว ได้ถูกเวลาเสียด้วย ในยามที่เธอต้องการเขาก็ดันโผล่ตัวออกมา

“อะไรนะ คุณ…คุณหมายความว่าคุณถูกพ่อแม่รับเลี้ยงมางั้น หรือ?”สวิทย์ที่ถือแก้วน้อยู่ก็เผลอปล่อยแก้วลงมาจนบาดเข้าที่ เท้าก็ตัวเอง แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บ

เขารู้สึกราวกับว่าถูกคนแกล้งอย่างไรอย่างนั้น ในตอนแรกเพ็ญ จิตก็เล่าเรื่องงานวิวาห์สามครั้งอันน่าเวทนา แล้วตอนนี้ยังมาเล่า เรื่องลูกบุญธรรมที่ดูเหมือนใจเกินจริงนี้อีก ใต้หล้านี้จะมีเรื่อง บังเอิญเฉกเช่นนี้จริงๆหรือ?

“ไม่ใช่ เท่าที่ได้ยินแม่กับพี่ชายคุยกัน ดูเหมือนว่า…เหมือนว่าฉัน จะเป็นลูกติดของคุณพ่อ เพียงแค่ถูกแม่รับมาเลี้ยงแค่นั้น ดังนั้น แม่จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ฉันแต่งงานออกไป และดังนั้น ไม่ว่าฉันจะเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่ายสักเท่าใด แม่ก็ไม่มีทางชอบ ฉัน ฮือๆๆๆ … ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองช่างโชคดีที่สุด มาถึง ตอนนี้เพิ่งจะรู้ตัวว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรคุณแม่ ก็เอาอารมณ์ความเกลียดราวกับศัตรูคู่อริมาลงที่ฉัน ตั้งแต่เล็กจน โต ขอแค่เพียงรู้ว่าเธอไม่ชอบอะไรฉันก็จะไม่ทำเด็ดขาด กระทั่ง เรื่องการเรียน ถ้าจะเลือกเรียนสาขาวิชาไหนก็จะถือเอาตามการ ตัดสินใจของแม่ทั้งหมด หรือกระทั่งถ้ามีเพื่อนๆเข้าหาฉันไม่ว่า หญิงหรือชาย ท่านก็ไม่ยอมให้ฉันคบกับใครทั้งนั้น…”

เพ็ญจิตไม่ใช่คนโง่เง่าเต่าตุ่น เพียงแต่ว่าอารมณ์ของเธอก่อนหน้านี้ไม่สู้ดีนัก ตอนนี้เมื่อสงบสติอารมณ์ลงแล้วจึงตระหนัก ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคำพูดของสุวิทย์

“เอาเถอะ เรื่องมันก็แล้วไปแล้ว ตอนนี้คุณคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ ไป?”สุวิทย์มองไปยังเพ็ญจิต เขาไม่ใช่วัยรุ่นที่อ่อนต่อโลก เขาไม่ คิดว่าแค่ทะเบียนสมรสใบเดียวจะสามารถทําให้พวกเขาใช้ชีวิต อยู่กินกันเหมือนสามีภรรยาได้อย่างคู่อื่นๆเขาได้

“ฉัน….”เพ็ญจิตจ้องสุวิทย์ จิตใจของเธอตอนนี้ช่างสับสนวุ่นวาย ไปหมด ไม่ได้คิดว่าต่อจากนี้จะทําอย่างไรต่อไป แม้กระทั่ง ตนเองจะไปอยู่ไหนก็ยังไม่รู้เลย แม้ว่าตัวเธอนั้นจะมีทรัพย์สินอยู่ มากมาย แต่ทว่าก็ไม่เคยออกห่างจากบ้านมาก่อน

“เอาล่ะ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรตอนนี้คุณก็เป็นภรรยาของผมแล้ว คุณก็อยู่ที่นี่ไปพลางๆก่อนเถอะ ส่วนเรื่องอื่นพวกเราก็ค่อยๆคิด กัน ถึงอย่างไรก็ดีผมก็ไม่สามารถไปจากที่นี่ได้สักพักหนึ่งเหมือน กัน”

สุวิทย์ไม่มีทางเลือก เขาเป็นชายชาตรีจะทิ้งผู้หญิงตัวคนเดียว ไว้บนถนนได้อย่างไรกัน และประเด็นสำคัญคือระหว่างพวกเขา ยังมี ข้อตกลง เป็นทะเบียนสมรสใบแรกราคา 9 หยวนนี้อยู่ด้วย
“ขอบใจ คุณช่างดีจริงๆ ฉันเชื่อว่าฟ้ายังมีตา”เพ็ญจิตทอดสายตา ไปยังสุวิทย์ ในช่วงเวลาเศร้าหมองเช่นนี้ การมีใครสักคนอยู่ ข้างๆก็ถือช่างโชคดีเสียจริง

สุวิทย์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นก็เงียบขรึมไม่พูดไม่จา เขาตระหนัก ได้อย่างถ่องแท้แล้วว่าตนได้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเพ็ญ จิตไปเสียแล้ว เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าจะเร็วถึงเพียงนี้ เขาไม่เคย คิดมาก่อนว่าข้างกายจะต้องมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ด้วยตลอดไป หรือว่า… เขานึกย้อนไปถึงเหตุอันหน้าสะเทือนใจเมื่อครึ่งปีที่แล้ว จากนั้นก็จ้องมองไปที่เพ็ญจิตที่นั่งตาบวมแดงอยู่ ก็บังเกิด ความคิดขึ้นมา บางทีเขาอาจจะพาเธอกลับบ้านไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ