สาวน้อยของประธานเจ้าเล่ห์

ตอนที่12 พาสามีเพิ่งแต่งเข้าบ้าน



ตอนที่12 พาสามีเพิ่งแต่งเข้าบ้าน

ตอนที่12 พาสามีเพิ่งแต่งเข้าบ้าน

เมื่อรถหยุดลง ทั้งสองยังไม่รู้สึกตัว คนขับจึงต้องเรียกบอก

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงครับ พวกเรามาถึงแล้วครับ”

“ครับ/ค่ะ ขอบคุณมาก ทั้งสองลงจากรถแล้วทอดสายตาไปยัง คฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า สุวิทย์ก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่ เพ็ญจิตต้องพบเจอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็กลับเป็นกังวลมาก ขึ้น ด้วยสภาพของเขาแบบนี้คงไม่อาจผ่านพ้นขวากหนามไปได้ แน่ๆ

“เพ็ญจิต ถ้าไม่อย่างงั้นคุณเข้าไปก่อนดีกว่า อย่างน้อยก็ให้ ครอบครัวคุณเตรียมใจเอาไว้และจะได้ไม่ทำให้แม่ของคุณตกใจ ด้วย สุวิทย์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูบานใหญ่

“คุณจะไม่เข้าไปพร้อมกับฉันงั้นหรือ”เพ็ญจิตจ้องสุวิทย์ แม้ว่า ใบหน้าของเขาตอนนี้จะปกคลุมไปด้วยหนวดเคลา แต่เธอมั่นใจ สุวิทย์ต้องไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่แน่ ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ทั้งสอง รู้จักกันนั้นจะสั้นเหลือเกิน แต่ดูจากการพูดการจา

จากระดับความรู้ความสามารถของเขาแล้ว คงไม่ใช่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าหรือไร้น้ำยาเป็นแน่

“ผมอยากเข้าไปนะ แต่ว่าถ้าต้องไปเจอครอบครัวคุณด้วยสภาพ นี้แล้วล่ะก็ พวกเขาคงไม่ยอมแน่ๆ ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่จนกว่าคุณ จะมาเรียกให้ผมเข้าไป” สุวิทย์ยิ้ม

“ก็ได้ งั้นฉันเข้าไปคุยกับแม่ก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะมารับคุณ เข้าไปเพ็ญจิตพยักหน้ารับ เธอเห็นด้วยว่าที่สุวิทย์พูดนั้นก็มี เหตุผลอยู่

“ครับ คุณภรรยา คุณเชื่อไว้นะว่าผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”สุวิทย์ ผงกหัว แล้วคว้าเพ็ญจิตเข้ามาในอ้อมกอดและจูบลงบนหน้าผาก ของเธอเบาๆ

“คุณหนู คุณหนูกลับมาแล้ว คุณชายกับคุณหญิงทะเลาะกันใหญ่ แล้วค่ะ”เพ็ญจิตเดินเข้าบ้านไป น้าอามก็ทำท่าทีรีบร้อน แต่ใน ขณะเดียวกันก็จ้องสุวิทย์ที่อยู่นอกประตูตาเขม็ง

“พี่ใหญ่กลับมาแล้ว!” เพ็ญจิตดีใจยกใหญ่ รีบรุดเข้าไปในบ้าน ประตูห้องรับแขกเปิดอ้าเอาไว้ก็ปรากฏเป็นเสียงของแม่ลอยอก มา ฝีเท้าของเพ็ญจิตจึงหยุดชะงักลง

ที่แท้แล้ว แม่กับพี่ชายกำลังทะเลาะกันอยู่ในห้องโถงนี่เอง
“อรรถพล แกกลับอเมริกาไปเดี๋ยวนี้นะ เรื่องของเพ็ญจิตฉัน จัดการเอง แกไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายเสียงของแม่ไม่ได้อบอุ่น นิ่มนวลแต่กลับเย็นยะเยือก เหมือนว่ากำลังอดทนอดกลั้นอยู่ อย่างไรอย่างนั้น

“แม่ครับ จริงๆแล้วแม่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เพ็ญจิตยังเด็กอยู่ นัก ทำไมแม่ถึงต้องรีบร้อนให้เธอแต่งงานออกไปด้วย คนแล้ว คนเล่า มีใครที่จริงใจต่อเพ็ญจิตจริงๆบ้าง แม่ครับ ในเมื่อแม่ก็ เห็นเพ็ญจิตทุกข์ทรมานใจแล้ว ก็อนุญาตให้ผมพาเธอไปด้วย เถอะ แม่คอยบงการเพ็ญจิตมาถึง22ปีแล้ว ตอนนี้ก็ควรจะปล่อย เธอให้เป็นอิสระบ้าง” นี่คือเสียงของพี่ชาย เมื่อได้ยินพี่ชายพูด ดังนั้น เพ็ญจิตก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าที่พี่พูดนั้น มันก็ดูออกจะเกินไปเสียหน่อย แม่จะเห็นเธอทุกข์ทรมานได้ยังไง แม่ก็ต้องหวังว่ามีผู้ชายสักคนที่รักเธอมาคอยอยู่ดูแลเธอส

“หุบปากซะ เด็กผู้หญิงคนนี้ฉันเลี้ยงมาจนโต ฉันจะให้มันแต่ง มันก็ต้องแต่ง ไม่เพียงแค่มันที่ต้องเชื่อฟังฉัน แกเองที่เป็น ลูกชายฉันก็ต้องฟังฉันเหมือนกัน แค่เพียงมันยังอยู่บ้านวงศ์ อัจฉราแห่งนี้ มันก็ต้องเชื่อฟังฉัน” ท่าทางแม่ดูแล้วว่ากำลัง โกรธอย่างเห็นได้ชัดถึงกับตะคอกเสียงออกมา

เพ็ญจิตยกเท้าจะก้าวเข้าไป แต่กลับได้ยินพี่ชายแผดเสียงออก

มา
“แม่ ต่อให้เพ็ญจิตไม่ใช่ลูกที่แม่คลอดออกมา แม่ก็ไม่มีสิทธิ ทำร้ายเธออย่างนี้ ที่แม่เลือกมานั่นมันเป็นผู้ชายประสาอะไรกัน ผู้ หญิงหน่ะถ้าเกิดแต่งงานกับคนไม่ดีแล้วทั้งชีวิตก็เหมือนทลายลง แม่ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แม่จะช่วยเข้าใจความรู้สึกของเธอสัก หน่อยไม่ได้หรือ

เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ เพ็ญจิตก็รู้สึกโกรธขึ้น กำลังอยากจะเดิน เข้าไป แต่กลับได้ยินแม่พูดขึ้นมาว่า”ฉันเข้าใจมัน แล้วใครล่ะจะ เข้าใจฉัน ลูกเอ๋ย ลูกก็รู้ว่ายี่สิบปีมานี้ ทุกครั้งที่แม่เห็นหน้ามัน แม่ก็คิดถึงแต่ผู้หญิงคนนั้น แล้วลูกจะให้แม่ทำยังไงดี

เสียงของแม่ฟังดูสะอึกสะอื้นเล็กน้อย เพ็ญจิตตกอยู่ในภวังค์ แห่งความสะเทือนใจ แม่ในวันนี้ช่างดูไม่เหมือนแม่ในเมื่อก่อน น้ำ เสียงคำพูดคำจาดูแปลกประหลาด พูดราวกับว่าหล่อนไม่ใช่ลูก ในไส้ของแม่ หรือว่าแท้จริงแล้วแม่ไม่ได้ห่วงใยลูกสาวคนนี้เลย แม้แต่นิดเดียว?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ