สายลับจับอ๋องใหญ่(มีEbook)

บทที่ 1 ตีนแมวแห่งเป่า



บทที่ 1 ตีนแมวแห่งเป่า

ร่างเล็กบางที่กระโจนขึ้นบนกำแพงแล้วป่ายปีนอย่างรวดเร็ว ทำเอาเจ้าเมืองเป่าเหลียงฮุยฟหัวเสียยิ่งนัก นี่เป็นครั้งที่สามใน รอบเจ็ดวันที่เขาวิ่งตามจับนางไม่ทัน

“ซินเอ๋อร์ หากเจ้ากลับมาเมื่อใด พ่อจะขังเจ้าไว้สามวันสาม คืนเที่ยว” เสียงชายวัยกลางคนตะโกนไล่หลังมา มิได้ทำให้สาว น้อยรู้สึกหวาดกลัวเลย นางหันหลังกลับมาตะโกนตอบ

“ท่านพ่อ เอาไว้ข้าสืบได้ความจริงเมื่อใด? ข้าจะกลับมาหา ท่านก็แล้วกันนะ” จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงถ้วยน้ำชาใบใหญ่ กระทบกําแพงดังเพลง

เหลียงเฉินซินวิ่งบนกำแพงได้อย่างคล่องแคล่วคล้ายวิ่งบน พื้นราบ หากจะนับท่านน้าไปมู่หลิวเป็นมือปราบอันดับหนึ่งแห่ง ตะวันออก ท่านลุงไปเฉิงหลิวผู้ถ่ายทอดวิชาแมวเก้าชีวิตนี้ให้ นางก็นับเป็นนักสืบอันดับหนึ่งได้เช่นกัน ในตระกูลไปของท่าน แม่มีเพียงท่านลุงเท่านั้นที่ถ่ายความพิเศษมาจากท่านตา นั่นคือ เลือดของเขาสามารถต้านพิษได้ทุกชนิด รวมทั้งหมดออกมา ละลายน้ำกินล้างพิษได้ และนางก็พบในภายหลังว่าตนเองก็คือ ทายาทรุ่นหลานที่ได้รับความพิเศษนี้มา

“ซินเอ๋อร์ เจ้ามาเสียที ข้ารอจนตะคริวจะกินแล้วนี่?” ไป๋ฉิง เหวินญาติผู้พี่บุตรของท่านน้ามือปราบยืนหน้าหงิกรอนางอยู่ข้าง กําแพงนัดหมาย
“กว่าข้าจะหลบท่านพ่อออกมาได้ นี่ก็โดนคาดโทษไว้แล้วว่า จะขังขาสามวัน หากข้าไม่มีผลงานกลับไปอวดอ้างล่ะก็ คราวนี้ เห็นทีโดนขังลืมเป็นแน่” นางตอบพร้อมกระโดดตุ๊บ! ลงมาจาก กําแพง

“เจ้ามันสมกับเป็นทายาทแมวเก้าชีวิตของท่านลุงจริงเชียว”

“อย่ามัวชื่นชมข้าอยู่เลย ไหนบอกมาว่าร่องรอยคดีนี้มี อะไรบ้าง?”

ไป๋ฉิงเหวินเป็นมือปราบหน้าใหม่ของเมืองเป่า เขาอายุ มากกว่าซินเอ๋อร์เพียงหนึ่งปี ทั้งสองเป็นคู่หูกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ เพราะความหัวไวของเหลียงเงินซืนทำให้นางเป็นที่ถูกใจของ ท่านลุงใหญ่ ตอนนางอายุแปดขวบจึงได้รับการถ่ายทอดวิชา แมวเก้าชีวิต เมื่อฝึกฝนจนครบห้าปีนางก็กลายเป็นตีนแมว อันดับหนึ่ง ครั้นมาช่วยญาติผู้พี่สืบคดีนานวันเข้านางก็อวดอ้าง ตนเองเป็นนักสืบแห่งเปา ตามรอยของท่านลุง

“ข้าอยากได้หลักฐานเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ผู้ต้องสงสัยว่าฆ่า แม่ค้าผ้ารายนี้อ้างว่ามิได้เกี่ยวข้องกับผู้ตาย แต่ทั้งถนนก็มีแต่ เขาคนเดียวเดินผ่านในยามนั้น แม้จะยังหาอาวุธไม่เจอ เรื่อง ความสัมพันธ์ ข้าว่าเราคงจะหาได้แน่ ถ้าเข้าไปค้นที่บ้านคนผู้นี้ ได้” มือปราบหนุ่มยื่นกระดาษที่เขียนที่อยู่และชื่อของผู้ต้องสงสัย ให้กับญาติผู้น้อง

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักสืบเงินซินเถิด เจ้าไปนั่งดื่มน้ำ ชารอที่โรงเตี๊ยมไข่มุกได้เลย” นางใช้ฝ่ามือตบอกเบาๆ “ข้าเอากระเป๋าเครื่องมือมาด้วย เจ้าไม่ต้องห่วง งัดแงะแกะต้นที่ใดก็ได้ ทั้งนั้น”

เสี่ยวเหวินมองดูกระเป๋าผ้าที่นางสะพายทแยงแนวป่าแล้ว พยักหน้า “ดี! เช่นนั้นข้าจะไปรอเจ้าที่เดิม เมื่อทำสําเร็จแล้วเดี๋ยว ช้าจะแบ่งเงินรางวัลให้

“ได้! แล้วเจอกัน” นางวิ่งด้วยความเร็วไปยังบ้านของผู้ สงสัยที่อยู่ถัดไปอีกสามซอย มือปราบไปถึงเหวินมองตามด้วย ความสบายใจ

กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยามก็เห็นเหลียงเฉินซินเดินผิวปาก หรือเข้ามาที่โต๊ะ

“ข้าขอซาลาเปาไส้หมูผสมไข่สองลูก เกี๊ยวน้ำไส้หมูอีกหนึ่ง ชาม”

ไป๋ฉิงเหวินเห็นท่าทางของตีนแมวสาวก็รู้ว่านางทำสำเร็จ เขายิ้มแย้มพลางตะโกนสั่งบุตรชายของเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเสียงดัง ลั่น “อาจือ เอาเหมือนเดิมเพิ่มเติมเกี๊ยวน้ำไส้หมู

“ได้เลย!” สองพี่น้องคุ้นเคยกับเถ้าแก่โรงเตี๊ยมและบุตรของ เขาเป็นอย่างดี ถงหลังคือรุ่นเดียวกันกับไปวิ่งเหวินเรียนหนังสือ ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ อาจือร้องสั่งเสี่ยวเอ้อเอามาบริการสหาย โดยเร่งด่วน

“ว่าไงแม่ตีนแมว คราวนี้เสี่ยวเหวินใช้เจ้าไปทำอันใดอีก?” ถงหลิงจือเดินมาสัพยอกน้องสหาย
“เรียกให้ดีๆ อาจือ ข้าเป็นนักสืบซินต่างหากเล่า? บอกที ไม่รู้จักจำ ประเดี๋ยวข้าย่องมาขโมยของร้านเจ้าเสียเลย ดวงตากลมโตสุกใสมีท่าที่ดุร้ายขึ้นมาทันควัน

“เอาล่ะๆ ท่านนักสืบนอย่าไม่ล้อเจ้าแล้ว อย่ามาทํา อันตรายขาเลย” ถึงหลิงจือคุ้นเคยกับเหลียงเฉินซินเป็นอย่างดี นางมักจะติดสอยห้อยตามญาติผู้พี่คนนี้เหมือนเงาตามตัว นาง ควักเอาของที่ได้มายื่นให้มือปราบหนุ่ม

“นี่หลักฐาน ชัดเจนจนไม่รู้ว่าจะรอดตัวได้อย่างไร?”

ไป๋ฉิงเหวินเปิดดูของในห่อผ้าสีขาว มีปิ่นปักผมกับจดหมาย อยู่สี่ฉบับ เมื่ออ่านดูแล้วล้วนเป็นของสตรีที่เสียชีวิตผู้นั้น “อา…ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง” เขารีบเก็บหลักฐานเข้าไว้ในสาบเสื้อ “เจ้ารีบกินแล้วไปศาลกับข้า”

นักสืบซินไม่รอให้พี่ชายพูดซ้ำ นางรีบกินเกี๊ยวน้ำจนหมด ชามก่อนจะควักเอาผ้าขาวออกจากกระเป๋าที่สะพายข้างหลังห่อ ซาลาเปาสองลูกลงไป “เอาไว้ถึงศาลก่อนข้าค่อยเอาออกมากิน อีก”

ทั้งสองเดินตามกันไปยังศาลเมืองเป่า หัวหน้ามือปราบไป มู่หลิว บิดาของไป๋ฉิงเหวินกำลังอ่านผลการชันสูตรศพสตรีที่เพิ่ง ตายเมื่อคืนวานอย่างคร่ำเคร่ง อาวุธที่ใช้สังหารยังค้นหาไม่พบ แม้จะมีผู้ต้องสงสัยรายเดียวที่เดินผ่านซอยนั้น ในยามค่ำคืนแต่ เมื่อไม่มีรอยเลือดบนตัวเขาก็ยากจะปรักปรำ จําใจต้องปล่อยคน ผู้นั้นกลับเคหะสถานไป นางก็โดนแทงตั้งหลายแผล เลือดจะไม่กระเด็นโดนคนผู้นั้นหรือไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ