บทที่ 08 ฉันอยากกอดคุณ
เจนอารีต้องคอยพึ่งแสงสว่างอันน้อยนิดจากดวงจันทร์ ถึงจะพอมองเห็นทางเดินได้ชัด ในวินาทีนี้เธอลืมความ หวาดกลัวจากความมืด เพราะผู้ชายสองคนนั้นทำให้เธอ รู้สึกน่ากลัวมากกว่า เธอวิ่งหนีเร็วมากและเร็วมากๆด้วย
เพราะเคยชินกับการออกกำลังกายวิ่งตอนเช้ามาหลาย ปี ตอนวิ่งมาจริงๆ เลยไม่มีใครรู้ความอดทนของเจน อารีไหวเลย
อย่างน้อยชายหนุ่มหัวทองสองคนนี้สู้ไม่ไหว
ห้านาที
สิบนาที
ยี่สิบนาที….………..
เจนอารีวิ่งจนหายใจหอบหืด และยิ่งชายหนุ่มหัวทอง สองคนนั้นยิ่งหายใจไม่ทันจนทำให้ก้าวเดินต่อไม่ไหว
“ผู้หญิงคนนี้…..เก่งเกินไปละ..…….…….
“ไม่ไหวแล้ว………ไม่มีแรง….…….ไม่ไหวแล้ว…….…….
พอดีกับที่บนถนนมีแสงสอดส่องเข้า มีรถวิ่งผ่านมาพอดี
ชายหนุ่มหัวทองสองคนนี้พอเห็นมีคนมาก็วัวสันหลังหวะ
รีบหันหลังและวิ่งกลับไป
รถหยุดตรงหน้าเจนอารี ประตูรถถูกเปิดออกมาก็มี ร่างสูงใหญ่คนหนึ่งออกมาจากในรถ ยืนย้อนแสงไฟ ดวงตาและหว่างคิ้วราวกับภาพวาดราวกับเทวดาที่ถูก หลงลืมในมนุษย์ เจนอารีชะงักยืนมอง รู้สึกแสงสว่าง บนโลกใบนี้เหลือเพียงเขาคนเดียว
“คุณครู…….. เจ.อารีร้องไห้ทันที ความหวาดกลัว และความตื่นตระหนกทั้งหมดในตอนนี้ ถูกระบายออกไป พร้อมกับเสียงที่ร้องออกไป
เจนอารีรีบวิ่งเข้าไปหาลินคอล์น นั่นเป็นแสงสว่างเพียง หนึ่งเดียวของเธอในชาตินี้
ในวินาทีนี้ เธออยากโอบกอดเขา
แต่แล้ว..……..
“อารีที่รัก!” ทันใดนั้น ประตูรถอีกฝั่งถูกเปิดมาทิลด้า ออกมาจากรถ เธอรีบวิ่งมาหาเจนอารีด้วยความตื่นเต้น และสวมกอดเจนอารีทันที
เจนอารีได้สติขึ้นมาทันที
“อารีที่รัก คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ได้เกิดเรื่องอะไร ขึ้นใช่ไหม?” มาทิลด้ารีบกวาดมองเจนอารีด้วยความเป็น ห่วง จากนั้นก็ชี้ไปที่ชายหนุ่มหัวทองสองคนนั้น “พวก เขาเป็นใคร เมื่อกี้กำลังวิ่งตามคุณอยู่หรือไง?”
“เป็น………… เจนอารีก้มหน้าลงไม่กล้ามองมาทิลด้า เธอ รู้สึกละอายใจและรู้สึกผิดกับการกระทําของตัวเองที่ อยากเข้าไปกอดลินคอล์นเมื่อกี้
“พวกขยะสังคม!” ลินคอล์นแค่ได้ยินนิดเดียว ก็รู้เลย ว่าเมื่อกี้เจนอารีเพิ่งผ่านอะไรมา นัยน์ตาเย็นชาของเขา เตรียมจะวิ่งตามสองคนนั้นไป
“ไม่ต้องไป” เจนอารีรีบห้ามไว้ “คุณไม่ต้องไป พวก เขามีกันสองคน คุณสู้เขาไม่ไหวหรอก ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เมื่อพวกเขาวิ่งตามฉันไม่ทัน พวกเรารีบขึ้นรถกันเถอะ!”
เจนอารีรู้ดีว่าลินคอล์นไม่ถนัดเรื่องการต่อยตี ผู้ชาย คนนี้ที่เคยเป็นครูอ่อนโยนราวกับหยกไม่เคยเห็นด้วย กับความรุนแรงมาตลอด มีเพียงไม่กี่ครั้งที่เกิดการ ทะเลาะวิวาทเพื่อเธอ อย่างเช่นตอนกลางวันตอนอยู่ โรงเรียน
มาทิลด้าก็รีบพูดต่อ “คอล์นแถวนี้มันเปลี่ยวเกินไปพวกเราอย่าบุ่มบ่ามเลย กว่า รีบขึ้นรถกันเถอะ
พึ่งพูดจบก็ช่วยพยุงเจนอารีขี้นรถ
ลินคอล์นมองดูวี่แววคนเลวสองคนนั้นที่ค่อยๆหายไป จากสายตา ถ้าเขาวิ่งตามไปตอนนี้ที่จริงก็ตามไม่ทัน และอีกอย่างเจนอารีดูเหมือนจะตกใจและกังวลใจหนัก มาก เขาจะทําให้เธอยิ่งกังวลตกใจเพิ่มอีกได้ยังไง? ก็ เลยกลับตัวขึ้นรถ เลี้ยวรถกลับเข้าไปในเมือง
“อารีที่รัก อยู่ดีๆคุณไปที่เปลี่ยวและไกลแบบนั้นได้ยัง ไง?” ในรถเงียบ มาทิลด้าไถ่ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน มือของเธอสวมกอดเจนอารีด้วยความปลอบใจ
เจนอารีตัวสั่นตลอด เธอส่ายหัวตอนนี้เธอไม่อยากพูด อะไร แค่อยู่พึ่งพิงอยู่ในอ้อมกอดของมาทิลด้าแบบนี้ ก็ เป็นที่สุดท้ายที่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
มาทิลด้าถอดหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวนะ มี ฉันอยู่ด้วยทั้งคน!”
หยุดไปสักพักแล้วพูดต่อ “ยังไม่ได้แนะนำให้คุณเลย คนนี้เป็นลินคอล์น ตอนกลางวันฉันไปทำงานไม่มีเวลา ว่าง เลยให้เขาช่วยเอากระเป๋าและโทรศัพท์ไปคืนให้ คุณ พวกคุณน่าจะรู้จักกันแล้วใช่ไหม? ทีแรกฉันจะขับรถมาหาคุณคนเดียว แต่ว่ามาถึงครึ่งทางรถเสีย ฉัน เลยเรียกเขามาด้วยยังดีที่ยังไม่สายเกินไป ค่อยยังชั่ว
เจนอารีรีบสวมกอดมาทิลด้าไว้แน่น “ยังดี โชคดีที่ฉัน ยังมีคุณ” เธอไม่หันไปมองลินคอล์นอีก
ลินคอล์นที่กำลังขับรถอยู่ หลังจากได้ยินที่มาทิลด้า แนะนำเสร็จก็หันข้างมาแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ใช่ ฉันเป็นเพื่อนของมาทิลด้า ยินดีที่ได้รู้จักคุณ
เจนอารีชะงัก
“อะ…..ไรนะ?” นี่เขากำลังแกล้งไม่รู้จักกับเธองั้นเห
รอ?
“เพื่อนของทิลด้าก็ถือว่าเป็นเพื่อนของฉัน เรื่องที่เกิด ขึ้นในวันนี้ฉันจะไม่ไปพูดกับคนนอกเด็ดขาด ที่จริงก็ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ถ้าพูดออกไปแล้วเดียวโดนคนอื่นเอา
ไปนินทาอยู่ดี” ลินคอล์นพูดด้วยสีหน้าปกติ
เจนอารีหมดคำพูดจริงๆ
นี่เขากำลังแกล้งเป็นไม่รู้จักเธอจริงๆด้วย
ทําไมเหรอ? ไม่อยากให้มาทิลด้ารู้เรื่องอดีตระหว่าง เธอและเขา เพราะไม่อยากให้มันไปกระทบกับความ สัมพันธ์เขาสองคนงั้นเหรอ?
เจนอารีรู้สึกแน่นหน้าอกจนเจ็บ ได้ เยี่ยมไปเลย ที แรกเธอก็อยากอวยพรพวกเขาสองคนอยู่แล้ว
งั้นก็ทําเป็น………ไม่เคยรู้จักกันก็ได้!
เจนอารีหลับตาลงไม่อยากพูดอะไรเพิ่มอีกแล้ว เธอขด ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของมาทิลด้า เงียบจนเหมือนหลับ ไปแล้ว
สุดท้ายเจนอารีโดนมาทิลด้าพากลับมาที่บ้าน
คืนนั้นเจนอารีไข้ขึ้นสูงจนถึง40องศา
สองวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายถึงจิตใจเธอจะทนไหว แต่ร่างกายเธอรับไม่ไหวแล้ว ความเจ็บป่วยก็ราวกับ ปีศาจที่ถูกขังไว้เนิ่นนาน พอถูกปล่อยออกมา ก็พุ่งออก มาด้วยความร้ายแรงจนเหมือนจะเอาชีวิตเธอไปด้วย
ทั้งตัวเจนอารีไข้ขึ้นสูงจนมึนงง แต่เธอรู้สึกได้ว่ามาทิ ลด้าดูแลเคียงข้างเธอตลอด
ทําไมเหรอ? ไม่อยากให้มาทิลด้ารู้เรื่องอดีตระหว่าง เธอและเขา เพราะไม่อยากให้มันไปกระทบกับความ สัมพันธ์เขาสองคนงั้นเหรอ?
เจนอารีรู้สึกแน่นหน้าอกจนเจ็บ ได้ เยี่ยมไปเลย ที แรกเธอก็อยากอวยพรพวกเขาสองคนอยู่แล้ว
งั้นก็ทําเป็น………ไม่เคยรู้จักกันก็ได้!
เจนอารีหลับตาลงไม่อยากพูดอะไรเพิ่มอีกแล้ว เธอขด ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของมาทิลด้า เงียบจนเหมือนหลับ ไปแล้ว
สุดท้ายเจนอารีโดนมาทิลด้าพากลับมาที่บ้าน
คืนนั้นเจนอารีไข้ขึ้นสูงจนถึง40องศา
สองวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายถึงจิตใจเธอจะทนไหว แต่ร่างกายเธอรับไม่ไหวแล้ว ความเจ็บป่วยก็ราวกับ ปีศาจที่ถูกขังไว้เนิ่นนาน พอถูกปล่อยออกมา ก็พุ่งออก มาด้วยความร้ายแรงจนเหมือนจะเอาชีวิตเธอไปด้วย
ทั้งตัวเจนอารีไข้ขึ้นสูงจนมึนงง แต่เธอรู้สึกได้ว่ามาทิ ลด้าดูแลเคียงข้างเธอตลอด
เจนอารีได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดไปอีก “ฉันสบายดีแล้ว คุณไม่ต้องอยู่ตรงนี้ต่อแล้ว คุณออกไปเถอะ”
ลินคอล์นทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาไปเปิดข้าวกล่องเก็บ ความร้อนที่วางอยู่บนหัวเตียงแล้วพูดด้วยความอ่อนโยน “ฉันรู้ว่าตอนกลางวันคุณไม่ได้กินอะไรเลย อันนี้เป็น โจ๊กที่ฉันทำเอง เป็นโจ๊กผักที่คุณชอบกินเลยนะ เดียว ฉันป้อนคุณกินเอง มา เด็กดี อ้าปาก” ระหว่างพูดก็ ตักขึ้นหนึ่งช้อนส่งมาถึงข้างปากเจนอารี
“พอได้แล้ว” เจนอารีทำสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ ลินคอล์นคุณกำลังคิดอะไรของคุณ? คุณรู้ไหมว่าตัว เองกำลังทำอะไรอยู่? ฉันกับ ทิลด้าเป็นเพื่อนกัน แต่ คุณกลับมาทำแบบนี้แล้วจะให้ฉันต้องอยู่ในสถานะอะไร กัน?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ