สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งชื่อ

บทที่ 6 สิ่งที่สามีสมควรทำกับภรรยา



บทที่ 6 สิ่งที่สามีสมควรทำกับภรรยา

เมื่อมองไปที่เด็กน้อยน่ารักที่อยู่ตรงหน้านี้แล้วซูสือเยวก็ขมวดคิ้ว ขึ้น เด็กคนนี้หัวเร็วขนาดนั้นเลย?

ไม่ทันได้คิดอะไรมาก เธอสวมเสื้อคลุมอย่างลวกๆ ลงไปชั้น ล่างเพื่อทำอาหารให้ชิงหยุน

ในขณะที่กำลังยุ่ง หญิงสาวพับแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นรอย

แผลฟกช้ำไปทั่วแขน

ซึ่งหยุนน้อยนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อมองไปที่รอยฟกช้ำและ รอยแดงบนแขนของเธอ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เมื่ออาหารเช้าหน้าตาเหมือนกันทั้งสองชุดถูกยกขึ้นโต๊ะ อาหาร ดวงตาดำสนิทเหมือนองุ่นดำคู่หนึ่งของเด็กชายตัวน้อย จับจ้องมองเขม็งไปที่ซูสือเยว่

ดวงตาของเขาเป็นสีดำสนิท ผิวขาวสะอาดหมดจด ใบหน้า

ละเอียดอ่อนงดงาม

ท่าทางที่จับจ้องมองเธออย่างจริงจังของเด็กชายตัวน้อยน่ารัก เกินไป จนซูสือเยวรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังจะละลายแล้ว

เธอโน้มตัวลง พยายามทำเสียงให้นุ่มนวลที่สุด “เป็นอะไรไป? ชิงหยุนน้อย?

เด็กชายตัวน้อยยกมือขาวอ่อนขึ้นพลางชี้ไปที่แขนของเธอ“บาดเจ็บแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก็กระโดดลงจากเก้าอี้ เดินไปหิ้วเอากล่อง ยาบนชั้นวางของมา

“ไม่ต้องหรอก”

ซูสือเยวแย่งเอากล่องยาไป “เดี๋ยวฉันทำเอง

ตอนนี้ซึ่งหยุนถึงกลับไปนั่งบนเก้าอี้ พลางกินข้าวพลางมอง เธอไปด้วยอย่างเงียบๆ

ซูสือเยว่เปิดกล่องยาออก

ซิงหยุนไม่พูด เธอคงจะไม่สังเกตเห็นเลยจริงๆ ว่าตามร่างกาย ของเธอจะมีรอยฟกช้ำมากมายขนาดนี้

หญิงสาวทายาให้ตัวเองไปด้วยพลางแอบด่าผู้ชายเมื่อคืน

วานคนนั้นไปด้วย

ทายากลงบนแขนแบบลวกๆ อย่างขอไปที จากนั้นหญิงสาวก็

โชว์แขนของเธอราวกับว่ากำลังแสดงของล้ำค่าให้ดูยังไงอย่าง นั้น “เสร็จแล้ว!”

“ขาด้วย”

ซูสือเยว่ “.….”

เขารู้ได้ยังไงว่าเธอมีแผลที่ขาด้วย?

ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างๆ ก็ดังขึ้นมา
เสียงของฟู เชียนเชียนดังสะท้อนออกมาอย่างร้อนใจ “สือเยว่ เธอแต่งงานเสร็จแล้วก็ควรมาสตูดิโอภาพยนตร์ใต้แล้วมั้ง?”

“วันนี้ฉากต่อสู้เยอะมาก หัวหน้าคนงานบอกว่ามีนักแสดง หญิงคนหนึ่งเรียกร้องอยากให้เธอ…

ซูสือเยว่เลิกคิ้ว “ฉันจะไปถึงเดี๋ยวนี้”

ตอนแรกที่ซูสือเยว่กำลังคบหากับเฉิงเซวียนอยู่นั้น แม้ว่า อยากจะเลี่ยงไม่ให้คนสงสัย แต่ก็อยากจะเจอหน้าเขาทุกวันด้วย ดังนั้นเธอจึงไปเป็นสแตนด์อินที่สตูดิโอภาพยนตร์ ตามคำ แนะน่าของเฉิงเซวียน

ในบรรดาสแตนด์อินทั้งหมด สแตนด์อินศิลปะการต่อสู้ทำเงิน ได้มากที่สุด ดังนั้นซูสือเยวจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไปเป็น สแตนด์อินบทต่อสู้ ในฐานะสแตนด์อินบทต่อสู้หญิงเพียงคน เดียวในสตูดิโอภาพยนตร์ซูสือเยว่จึงเป็นคนที่เจ้านายเอ็นดู อย่างมาก

“ป้าไปทํางานแล้วนะ!”

ขณะที่เสียงของหญิงสาวเปล่งออกมานั้น ตัวเธอก็ยืนอยู่ตรง โถงทางเดินแล้ว และกำลังมองหารองเท้าของเธออยู่

“ห้ามไปนะ”

เด็กชายตัวน้อยรีบร้อนลงจากเก้าอี้วิ่งอุตลุดออกไป หยุดยืน อยู่ที่หน้าประตู แขนทั้งสองข้างกางออก เหมือนกับนกอินทรีตัว น้อย
“บาดเจ็บแล้วต้องพักผ่อน

น้ำเสียงของเขายังฟังดูอ่อนวัย แต่กลับแฝงไว้ด้วยความ เผด็จการและความเป็นห่วง

ซูสือเยว่อบอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอย่อตัวคุกเข่าลงพลางลูบ หัวของซึ่งหยุนเบาๆ อย่างสนิทสนม “บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้ สําหรับป้าแล้ว มันไม่มีอะไรเลย”

เธอเป็นสแตนด์อินบทต่อสู้ บาดแผลแบบนี้เป็นแค่เรื่องเล็ก

น้อยเท่านั้น

“ไม่ได้!”

เขากัดฟันซิงหยุนกัดริมฝีปาก กางมือเล็กๆ หันไปทางซูสือเยว่

“ห้านาที”

“ห้านาทีแล้วค่อยไป

“โอเค”

ห้านาทีถือว่ายังรอได้อยู่

ซึ่งหยุนถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลื่อนหารูปโปรไฟล์ของซิงเฉินแล้วส่งข้อความไป

ชั้นบนซิงเฉินที่สวมชุดนอนสีเหลืองอ่อนแบบเดียวกันกับซึ่งหยุ นรีบผลักประตูห้องหนังสือเปิดออกอย่างรวดเร็ว

“แด๊ดดี้ มีเรื่องให้แด๊ดดี้ช่วยครับ!”
เวลาค่อยๆ ผ่านไปทุกวินาทีซูสือเยวสวมรองเท้าไปด้วยพลาง ยิ้มๆ มองไปที่เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย “ตกลงกัน แล้วนะว่าห้านาที ตอนนี้ผ่านไปสู่นาทีแล้ว

“เหลืออีกหนึ่งนาที เธอก็จะห้ามป้าไม่ให้ไปทำงานไม่ได้อีก แล้วนะ”

ซึ่งหยุนพยักหน้าอย่างจริงจัง “อืม”

และในขณะที่เหลืออีกสามสิบวินาทีก็จะถึงห้านาทีพอดีนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของซูสือเยว่ก็ดังขึ้นมาอีก

“สือเยว่ วันนี้เธอไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ”

น้ำเสียงของฟู เขียนเชียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “วันนี้สตูดิ โอภาพยนตร์หยุดงานล่ะ!

ซูสือเยวมึนงง “หยุดงาน?”

“ใช่สิ”

ฟู เชียนเขียนเอ่ยปากพูดอย่างอิจฉา “ว่ากันว่ามีคนใหญ่คน โตคนหนึ่งไม่อยากให้เมียเขามาทํางาน ดังนั้นก็เลยให้ทีมงาน ทุกคนทุกกองละครทั้งสตูดิโอภาพยนตร์หยุดงานได้หนึ่งวัน

“จุ๊ๆ คนมีเงินนี่ชอบทําตามอำเภอใจจริงๆ!”

ซูสือเยว่บีบโทรศัพท์ด้วยความตะลึง

สตูดิโอภาพยนตร์มีผลกำไรดีมาก ตั้งแต่เธอไปทำงานที่สตูดิ โอภาพยนตร์จนถึงตอนนี้ ที่นั่นยังไม่เคยได้หยุดงานมาก่อนเลย
วันนี้กลับละเว้นเป็นกรณีพิเศษให้หยุดงานเพื่อเมียของคน ใหญ่คนโตคนนี้

มันช่าง…ทำตามอำเภอใจตัวเองจริงๆ นั่นแหละ

ซูสือเยว่วางโทรศัพท์อย่างจนปัญญา

เหมือนเธอจะเห็นใบธนบัตรสีแดงปลิวว่อนผ่านไปต่อหน้า ต่อตายังไงอย่างนั้น

ภายในดวงตาของซิงหยุนน้อยที่อยู่ตรงหน้ามีแววความพอใจ

ปรากฏผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นาน เด็กชายตัวน้อยก็กระแอมออกมาอย่าง เคร่งขรึม มองเธอนิ่งๆ “ไปกินข้าว”

“อ๋อ”

ไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้สือเยว่ก็ทำได้เพียงเดิน

ไปกินข้าวอย่างเชื่อฟัง

ซึ่งหยุนกลับไม่ได้กลับไปที่โต๊ะอาหาร

เขาสอดมือสองข้างเข้าไปในกระเป๋า เดินขึ้นชั้นบนไปอย่าง เท่ๆ “ฉันมีเรื่องต้องไปทำนิดหน่อย

หลังจากพูดจบ เด็กชายตัวน้อยก็หันตัวเดินขึ้นชั้นบน

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันหลังกลับมาอีก เหลือบ มองไปที่จานอาหารตรงหน้าของซูสือเยว่นิ่งๆ “ต้องกินให้หมด” ซูสือเยว่รู้สึกตลกกับท่าทางเขา “เธอขอให้ป้าทําอาหารเช้าให้เธอสองชุด เธอเพิ่งจะกินไปแค่ส่วนเดียวเองนะ”

ชิงหยุนหยุดชะงักเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นาน ขาก็เอ่ยปากพูดอย่างเล่นแง่ “เดี๋ยวฉันจะ ลงไปกินเดี๋ยวนี้แหละ

หลังจากเสียงตกออกไป เด็กชายตัวน้อยก็ยิ่งๆ ปังๆ ก้าวยาว ขึ้นชั้นบนไป

เพียงไม่นานซิงเฉินก็รีบลงไปชั้นล่างพร้อมกับผมที่ถูกพี่ชาย

หัวจนยุ่งเหยิงอย่างรวดเร็ว “ผมมากินอาหารเช้าของผมแล้ว!”

เขาพุ่งลงมาอย่างรีบร้อน นั่งลงตรงหน้า โต๊ะอาหาร พลางกิน ข้าวไปด้วยพลางชมไปด้วย “อร่อยมากเลย!”

ซูสือเยวมองอย่างตกตะลึง เด็กคนนี้ทำไมขึ้นชั้นบนไปแค่แป๊ป

เดียว ก็เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนแบบนี้ล่ะ?

ณ ห้องหนังสือชั้นบน

ชายผู้สูงศักดิ์และแสนเย็นชากำลังทำงานอยู่

ซึ่งหยุนผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไป ร่างเล็กปีนขึ้นบน เก้าอี้ แล้วปีนจากเก้าอี้ขึ้นไปที่โต๊ะทำงาน

สุดท้าย เขาก็นั่งลงบนโต๊ะทำงานอย่างสง่าผ่าเผย ผลัก โทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าของฉันไม่หาน “คุณฉิน” ชายผู้เย็นชาเย่อหยิ่งหยุดมือที่กำลังพิมพ์บนแป้นพิมพ์ลง มือเรียวใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

บนหน้าจอมือถือเป็นมือของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ และรอยแดง

รูปถัดไปเป็นขาของเธอที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ

ซึ่งหยุนน้อยยกมือขึ้นกอดอก สีหน้าเหมือนกำลังคิดบัญชีกับ เขา “ผมต้องการคำอธิบาย

ฉันโม่หานวางโทรศัพท์ลง ยกมือขึ้นกอดอก เอนตัวไปทาง ด้านหลัง น้ำเสียงเผด็จการเยือกเย็น “หล่อนเป็นคนที่พวกลูก บอกให้พ่อแต่งงานด้วย สิ่งที่สามีสมควรทำกับภรรยา จําเป็น ต้องอธิบาย?”

“เธอเป็นคนที่ผมปกป้องอยู่

ซึ่งหยุนเชิดหน้าที่เหมือนใบหน้าของฉันไม่หานย่อขนาด จ้อง มองเขากลับอย่างไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงอ่อนวัย แต่กลับเต็มไปด้วยความเผด็จการ “ทำคนของผมบาดเจ็บ พ่อไม่ จําเป็นต้องอธิบายเหรอ?”

สองพ่อลูก ท่าทางเหมือนกัน ใบหน้าเหมือนกัน คนหนึ่งนั่งบน เก้าอี้ คนนั่งบนโต๊ะทำงาน กำลังใช้สายตาเผชิญหน้ากัน

“คุณผู้ชาย —

พ่อบ้านผลักประตูเข้ามา “สัญญารับซื้อกิจการของสตูดิโอ ภาพยนตร์เซ็นแล้ว….
ยังพูดไม่ทันจบ ดวงตาดำขลับเหมือนหินออบซิเดียนทั้งสองคู่ ก็หันมองไปที่พ่อบ้านพร้อมกัน

เสียงสองเสียง เสียงหนึ่งใหญ่เสียงหนึ่งเล็กดังสะท้อนขึ้น

“ออกไป

“ออกไป

พ่อบ้าน “..….”

เขาเหลือบมองสองพ่อลูกที่กำลังฟาดฟันกันอยู่ตรงหน้าอย่าง อ่อนแรง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ครั้งนี้เป็นเพราะอะไรอีกล่ะ ครับ?”

“เขาทําร้ายคนของผม

ชิงหยุนเบะปากพูดด้วยเสียงเยือกเย็น

พ่อบ้านมึนงงอยู่นาน กว่าจะได้สติกลับมา ที่ซึ่งหยุนพูดถึง บางทีอาจจะเป็น….คุณผู้หญิง

“คุณชายน้อยชิงหยุน คุณเข้าใจผิดแล้วครับ”

พ่อบ้านหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “บาดแผลบนตัวของคุณผู้ หญิง ไม่ใช่คุณผู้ชายทำนะครับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ