Ep.3
ร่างสูงใหญ่ยังคงหอบหายใจเพื่อข่มความรู้สึกที่กำลังคุกรุ่น ไปด้วยอารมณ์ปรารถนาให้ดับลงอยู่นานหลายนาที ก่อนที่จะ พลิกไปอ่านค่าโปรยปกหลังอย่างละเอียดอีกครั้ง
พนาวินชายหนุ่มผู้ซึ่งเกลียดการคลุมถุงชนมากที่สุด กลับ ถูกบิดาบังคับให้แต่งงานกับชญาดา ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็มีคนรัก อยู่แล้ว
ชญาดาสาวน้อยผู้ไม่เคยมีรัก แต่เมื่อพบเจอว่าที่สามีแค่ เพียง ในนามของตนเองในวันแรกเธอก็ตกหลุมรักเขาเสียแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าพนาวินมีคนรักอยู่แล้ว และที่ต้องแต่งงานกับเธอ เพียงเพราะต้องการครอบครองสมบัติของพ่อตามพินัยกรรม ทำให้หญิงสาวรู้สึกน้อยใจยิ่งนัก
และเมื่อทั้งสองไม่อาจขัดใจพ่อกับแม่ของตนได้ การ แต่งงานและการสมรสที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกัน เพลิงรักก็ถูกจุดขึ้นได้ง่ายโดยไม่อาจหัก ห้ามใจ มันเร่าร้อนดั่งเปลวไฟ ร้อนระอุดั่งเพลิงปรารถนา ร้อน แรงเกินจะพรรณนา เกินกว่าที่จะดับไฟรักให้มอดลง
แล้วเมื่อถึงเวลา วันที่ผู้หญิงอีกคนก้าวเข้ามา และถูกจับได้ว่า ทุกอย่างคือการโกหก พนาวินจะยอมปล่อยให้ภรรยาแต่เพียง ในนามของเขาเป็นอิสระหรือไม่ แล้วชญาดาล่ะเธอแน่ใจแล้ว หรือที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา
ธนาในอ่านดูแล้วนิยายเรื่องนี้มันช่างคล้ายกับเขาในตอนนี้ เหลือเกิน ที่จะต้องทำตามประกาศิตของมารดา ว่าต้องแต่งงาน เร็วๆ นี้ เหตุผลย่อยๆ อาจจะต่างกันแต่เหตุผลหลักๆ ก็หนีไม่พ้น การแต่งงาน ซึ่งมันทําให้เขาแสนกลุ้มใจ ถ้าหากว่าแม่ของเขา ไม่เป็นโรคหัวใจ เขาก็คงจะหาทางปฏิเสธได้โดยง่าย แต่เพราะ เป็นห่วงสุขภาพของผู้เป็นมารดาทำให้ธนาวินต้องมาเตร็ดเตร่ อยู่แถวร้านหนังสือนี้เป็นนานสองนาน
เพราะเขาต้องการผู้หญิงสักคนมาแต่งงานด้วย แต่ไม่ต้องการ ที่จะผูกมัดไปตลอดชีวิต และเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาจึงทำ ให้ธนาวินต้องเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาหลอกๆ ให้แม่ของ เขาตายใจสักพัก เพื่อรอวันที่หญิงคนรักของเขากลับมา แล้ว ค่อยเลิกกับภรรยาจอมปลอม
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่าเขาจะหาใครดีมาทำหน้าที่เป็นเมีย ชั่วคราวหลอกๆ ให้กับเขา และทำให้ชีวิตการแต่งงานปลอมๆ นี้ ไม่น่าเบื่อ และไม่ต้องซ้อมบทละครกันให้เสียเวลามากมาย รับรองว่ามันไม่ง่ายแน่
ผู้หญิงคนนั้น ฉันอยากให้เป็นเธอนะจินดารา เธอเป็นคน เขียนนิยายเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเธอคงรู้ดีว่าต้องทำยังไง แต่ ว่า…เธอจะยอมหรือเปล่า เฮ้อ! จะบ้าตาย ธนาวินถอนหายใจ ยาวก่อนที่จะยืนนิ่งคิดประมาณหนึ่งนาที แล้วจึงตัดสินใจได้ใน ที่สุด
ร่างสูงใหญ่เดินออกไปจากชั้นวางหนังสือ ในมือถือหนังสือ นิยายเล่มหนึ่งติดมือออกมาด้วย เป็นครั้งแรกที่นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขาซื้อหนังสือนิยายแบบนี้ไปอ่าน มันน่าขำชะมัดแต่ มันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับเขาในเวลานี้ก็ได้
…และเขาจะไปอ่านต่อฉากเลิฟซีนที่ค้างเอาไว้ คืนนี้…
จินดารากำลังนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คเครื่องกะทัดรัดของเธอด้วย สีหน้าไม่ค่อยจะสดชื่นเท่าไรนัก เพราะหญิงสาวรู้สึกเครียดที่นั่ง อ่านคอมเม้นท์หน้าเว็บนิยายที่เธอเอานิยายของตนเองไปลงไว้
“วรรณ แกมาอ่านคอมเม้นท์ของฉันดูสิ เขาบอกว่าบทเลิฟซีน ของฉันมันไม่ค่อยโอเค โดยเฉพาะในตอนเข้าด้ายเข้าเข็มน่ะมัน แข็งไป อ่านแล้วไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมด้วย นี่แกว่าฉันเขียนแย่ ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ฉันซักไม่มั่นใจแล้ว” นักเขียนมือใหม่หัน มาถามเพื่อนรักที่เป็นนักเขียนหัดใหม่เหมือนกัน ด้วยสีหน้ายุ่งๆ หัวคิ้ววิ่งมาชนกันจนแทบจะเป็นปม
“ไหน ใครบังอาจมาคอมเม้นท์เพื่อนรักของฉัน” แล้วธีระ วรรณก็คลิกไปเปิดดูที่คอมพิวเตอร์ของตนเอง แล้วก็คลิกเข้าไป ในหน้าเว็บที่มีคอมเม้นท์ของเพื่อนรัก
“เราชอบแนวการเขียนนิยายของคุณจินนะ แต่ว่าของบ ทเลิฟซีนหน่อยค่ะ อยากจะบอกว่ามันแข็งกระด้างเกินไป อยาก ให้คุณจินใส่อารมณ์ให้เต็มที่กว่านี้ค่ะ” ธีระวรรณอ่านออกมา เสียงดัง แล้วก็หันไปมองหน้าเพื่อน เพราะความที่ไม่เคยเข้าไป อ่านนิยายของเพื่อน เลยไม่รู้ว่าที่เขาวิจารณ์มามันเรื่องจริงหรือ เปล่า
“อย่าคิดมากน่าจิน แกยังไม่เคยมีสามี เขียนเลิฟซีนออกมาได้ขนาดนี้ก็บุญแล้ว หรือถ้าจะให้ฉันแนะนำนะ แกก็ควรจะหาแฟน สักคนแล้วก็ไปดูกัน เดี๋ยวแกก็เขียนฉากรักได้ซี้ดซ้าดถึงใจ เองแหละ ฮ่าๆๆ
คนที่ไม่ค่อยคิดอะไรมาก ให้คำแนะนำกับเพื่อนรักอย่าง ทะลึ่งๆ จนคนฟังค้อนขวับด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“จะบ้าเหรอ แฟนน่ะไม่ใช่หนังสือดีๆ ที่จะหาอ่านได้ง่ายๆ นะ จ๊ะ แล้วผู้หญิงที่เชยๆ เพิ่มๆ อย่างฉัน ผู้ชายที่ไหนเขาจะมามอง
จินดาราทำท่าเจียมเนื้อเจียมหน้าตาของตนเอง เพราะหล่อน มองตนเองผ่านแว่นสายตาในกระจกทุกวัน ก็ไม่เคยที่จะมั่นใจ ในรูปร่างและหน้าตาของตนเองเลยสักครั้ง
“แหม แม่นักเขียนใหญ่ ฉันว่าแกสวยจะตาย ไอ้พวกผู้ชาย มันตาถั่วต่างหากล่ะ ที่มองไม่เห็นความสวยของแกที่ซ่อนอยู่ ลึกๆ ข้างใน
ธีระวรรณพยายามให้กำลังใจเพื่อนรัก ทั้งๆ ที่ในใจก็อดขำ การแต่งตัวและท่าทางของจินดาราไม่ได้เหมือนกัน แต่ครั้นจะ บอกความจริงตรงๆ ว่าเพื่อนรักของตนเองเป็นมากแค่ไหนก็ไม่ กล้า กลัวว่าคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งไม่มั่นใจในตัวเอง เข้าไปใหญ่
“ก็ความสวยของฉันมันอยู่ลึกเกินไปนะ เขาก็เลยมองไม่เห็น ไม่เหมือนแกนี่เพอร์เฟคไปเสียทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ วงศ์ตระกูล แล้วก็ยังมีคนรู้ใจอีกด้วย เฮ้อ! แต่ฉันยังไม่เคยรู้จัก ความรักเลย แล้วฉันจะเขียนบทเลิฟซีนได้ดีไปกว่านี้ได้ยังไงเนี่ย”จินดาราพันลมหายใจออกมาใส่หน้าคอมฯ อย่างปลงๆ
ที่ผ่านมาในงานเขียนนิยายของเธอแต่ละเรื่อง ก็มีธีระวรรณ แหละคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบทรักเบื้องต้น แล้วก็มีบ้างที่มี เพื่อนหญิงหลายคนมาเล่าประสบการณ์รักให้ฟัง เธอก็จ่าๆ มา เขียน บางทีก็ดูในหนังในละครก็จินตนาการเอาไปเขียนตาม เรื่องตามราวเท่าที่จะสามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้
“อย่าเพิ่งท้อนะ สู้ๆ เพื่อนรัก” ธีระวรรณ ให้กำลังใจ
สู้นะเธอสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว แต่บางครั้งมันก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ โดนตำหนิอยู่แค่เรื่องเดียว ที่สำคัญมันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ หญิงสาวยอมรับว่าตนเองยังไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ และ พยายามที่จะตั้งใจทำงาน ให้ออกมาดีที่สุด แต่เรื่องบางอย่างที่ ไม่เคยและมันก็ละเอียดจนไม่สามารถจะเข้าถึงได้ มันก็ปรับปรุง ได้ยากจริงๆ
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเธอดันมาชอบนิยายแนวรักโรแมน ติกและนิยายแนวโรมานซ์มาโดยตลอด เธอก็เลยต้องเขียนแนว ที่ตนเองชอบ แต่นิยายแนวนี้ส่วนใหญ่แล้วจะหลีกเลี่ยงบทเลิฟ ซีนไม่ได้เลย มันต้องมีสอดแทรกอยู่บ้างเพื่อให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ มากยิ่งขึ้น
“จิน เราไปอาบน้ำเตรียมตัวกันดีกว่านะ เพราะเดี๋ยวพี่วินก็จะ กลับมาแล้ว เราจะได้ออกไปทานข้าวข้างนอกกัน” ธีระวรรณหัน มาบอกเพื่อนรักเพื่อหยุดกิจกรรมหน้าคอมฯชั่วคราว
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็เริ่มหิวนิดหน่อยแล้วล่ะ” สาวแว่นหันมาตอบรับเจ้าของบ้านคนสวยด้วยใบหน้าที่ดูสดใสขึ้นมาทันที
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองสาวก็ออกมาในชุดที่พร้อม จะออกไปข้างนอก ธีระววรณอยู่ในชุดเดรสสีม่วงน่าค้นหา ผิว พรรณของหญิงสาวดูผุดผาดขาวผ่องมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในชุดที่ เธอสวมใส่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยสยายเต็มกลางหลังทำให้สาว น้อยหน้าหวานคนนี้ดูสวยสดงดงามจนคนข้างๆ มองแล้วยังอด อิจฉาเพื่อนไม่ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ