ตอนที่ 2
“ใช่ครับ…แดเนียล และคุณก็รู้ดีว่าคุณได้ค้นพบอะไร ถึงผมจะไม่ใช่อัจฉริยะทางด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์แต่ก็พอ จะรู้ว่าการค้นพบธาตุลำดับที่ 94 หรือพลูโทเนียมทำให้ สหรัฐสามารถพัฒนาระเบิดปรมณูลูกแรกได้ และไซ ออนเนตก็เช่นเดียวกัน พวกเขาอาจไม่ใช่อัจฉริยะด้าน นิวเคลียร์ฟิสิกส์เหมือนผม แต่เขารู้วิธีการต่อยอดว่า ทำยังไงถึงจะใช้ธาตุชนิดใหม่ที่พวกคุณเพิ่งค้นพบไป พัฒนาเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทําลายล้างร้ายแรงยิ่งกว่า นิวเคลียร์”
“พระเจ้า! เออร์วิ่ง คุณรีบบอกพวกเรามาเถอะว่าไอ้หัว ขโมยนั่นมันเป็นใครกันแน่”
มอโรว์เป็นฝ่ายถามอย่างร้อนใจ เขาก็เหมือนกับอีก หลายคนในที่นั้นซึ่งนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ทว่าตรงข้ามกับแด เนียลที่แม้เคร่งเครียดมากกว่าใคร ๆ แต่เขากลับมีทีท่า เยือกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด
“เออร์วิ่ง…ผมไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เรายังไม่ ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพเคมีบริสุทธิ์ และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศรู้เรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ คือเราโชคดีที่มีคุณ”
“ผมตั้งใจกับงานทุกอย่างที่ได้รับอยู่แล้วครับ คุณแดเนียล”
เออร์วิ่งกล่าวก่อนเคาะปลายนิ้วลงบนแล็ปท็อปให้หน้า จอมอนิเตอร์แสดงใบหน้าตรงของหญิงสาวผมยาวดำ ขลับตัดกับสีนัยน์ตาประกายน้ำตาลแกมเขียวสว่าง จมูก โด่งรั้นและริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยบนโครงหน้ารูปไข่
“ผู้หญิงคนนี้เป็นสายลับมือหนึ่งที่เข้ามาฉกข้อมูลลับ ของคุณถึงในคฤหาสน์ไพรซ์ เธอทํางานให้กับไซออน เนต…มันเป็นองค์กรลับที่มีเครือข่ายอยู่ในอเมริกาและ ยังเชื่อมโยงกับพวกผลิตอาวุธและนักค้าอาวุธสงคราม ข้ามชาติ น่าแปลกที่ไซออนเนตเหมือนไม่มีความซับซ้อน อย่างองค์กรลับทั่วไป แต่กลับเข้าถึงได้ยาก เป็นองค์กรที่ ดูสะอาดแต่แฝงอันตรายไว้รอบด้าน”
“เธอน่าจะไปเป็นนางแบบหรือไม่ก็พวกเมียเก็บเศรษฐี มากกว่าจะมาทํางานเสี่ยงตายแบบนี้”
“ออโซลย่า คือชื่อที่ใช้เรียกเธอในองค์กร…ผมก็คิด แบบเดียวกับคุณนั่นแหละ แดเนียล ว่าผู้หญิงที่ทั้งสวย และฉลาดขนาดนี้ไม่น่าจะทำงานอันตรายอย่างการเป็น สายลับ”
“โอเค!” มอโรว์แทรกขึ้นขณะลุกจากเก้าอี้ “นี่พวกคุณ สองคนคงได้ข้อสรุปกันแล้วซีนะว่าไอ้หัวขโมยที่มันกล้า เข้ามาจารกรรมข้อมูลถึงที่นี่เป็น…เอ้อ…สายลับที่สวย ที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยพบ ให้ตายเถอะ! ผมกับทีมนัก นิวเคลียร์ฟิสิกส์ในห้องนี้อยากรู้มากกว่าว่าตอนนี้แม่สายลับแสนสวยของพวกคุณน่ะไปอยู่เสียที่ไหนแล้ว”
“ผมคิดว่าหลังจากนี้คงเป็นการส่งมอบข้อมูลครับ สาย สืบของผมรายงานมาว่ามีคนเห็นเธออยู่ที่นิวยอร์ค”
เออร์วิ่งตอบอย่างรวดเร็ว
“แดเนียล ในเมื่อรู้ว่าเจ้าหัวขโมยอยู่ที่ไหนเราก็ควร จะแจ้งตำรวจให้รวบตัวแม่นั่นเสียเลยจะดีกว่า”
มอโรว์รีบออกความเห็นแต่คนที่เขาให้ข้อเสนอกลับ เยือกเย็นจนน่าหวาดหวั่น นัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงส่อง ประกายวาววับราวกับมีบางอย่างแอบแฝง
“เราจะยังไม่แจ้งตำรวจ เพราะถ้าเจ้าหน้าที่รัฐทราบเรื่อง นี้มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ทันที”
“แล้วคุณจะทำยังไง?”
“ผมจะออกตามหาออโซลย่า เอาชิปข้อมูลกลับมาและ ปิดคดีด้วยตัวผมเอง!”
ดูเหมือนไม่มีผู้ใดในที่นั้นแสดงข้อกังขาต่อคำกล่าวของ แดเนียล แม้เขาจะมีอายุน้อยที่สุดในทีมปฏิบัติการแต่ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มกลับได้รับการยอมรับมาก ที่สุดจากนิสัยจริงจังเด็ดขาดและความเป็นอัจฉริยะของ เขา ทว่าเออร์วิ่งก็อดที่จะแสดงความกังวลออกมาไม่ได้
“คุณแดเนียล…แน่ใจหรือครับว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ ด้วยตัวเองจริง ๆ
นักสืบหนุ่มมองตรงไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำ นั้นดูคมเข้มน่าเกรงขามมากแค่ไหน แดเนียลยกยิ้มมุม ปากก่อนตอบ
“ผมอยากจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวผมเอง คุณ เออร์วิ่ง ไม่เคยมีใครกล้ากระทำการอุกอาจแบบนี้ใน อาณาจักรของผม โดยเฉพาะการทดลองที่เป็นปฏิบัติ การลับอย่างที่สุด สาบานได้ว่าถ้าผมลากคอตัวต้นเหตุมา ลงโทษไม่สําเร็จ ผมคงไม่มีวันนอนหลับได้อย่างสบายใจ เพราะนี่เป็นเรื่องที่รบกวนความรู้สึกของผมอย่างมาก”
“คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้างหรือเปล่า?”
เออร์วิ่งถามขณะอีกฝ่ายเลื่อนสายตาคมวับกลับไปจับ จ้องบนหน้าจอแล็ปท็อป แดเนียลขบกรามก่อนเค้นเสียง หนัก
“ผมขอแต่ประวัติโดยละเอียดของออโขลา ส่วนที่
เหลือ…ผมจะจัดการเอง!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ