ลูกแฝดแสนแสบกับพ่อประธานปี...

ตอนที่19 ผู้หญิงที่ถูกเตะลงจากเตียง



ตอนที่19 ผู้หญิงที่ถูกเตะลงจากเตียง

ตอนที่ 19 ผู้หญิงที่ถูกเตะลงจากเตียง

ไม่มีสิ่งใดจะสุขไปกว่าการที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันอีก แล้ว แต่ใครจะรู้ว่า ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเย็นชาที่เฉิง เฉิงแสดงออกมานั้นจากคนแปลกหน้าที่จู่ๆกลายมาเป็นคนใกล้ ชิดอย่างเขา มาถูกกู้ฮอนหอมเข้าไปอย่างแรง หน้าเขาก็แอบแดง เหมือนกัน

กู้ฮอนรอให้แม่กับลูกชายหลับก่อน

ค่อยหยิบกระเป๋าหนัง แล้วออกจากบ้านไป

ระหว่างทางเธอก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด

ตั้งแต่เย็นวันนั้นที่ทำให้เป่หมิงโม่ไม่พอใจ มาจนถึงการถูกหลั่ ติ่ง งคุกคาม

ยังเรื่องที่พ่อได้รับความอัปยศในคุก และเรื่องที่หยางหยาง หายตัวไปอีก

แน่ละเรื่อง เหมือนกับละครไม่มีผิด

ทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
ระหว่างทางก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

พอรับสาย

ยิ่งได้ยินเสียงของหลี่ดึงซึ่งที่หัวเราะอย่างน่าขยะแขยง

“กู้ฮอน เรื่องที่ให้คิดเป็นยังไงบ้าง

นิ้วที่กำโทรศัพท์มือถือสั่นเล็กน้อย “หลงซึ่ง ฉันจะไปให้คำ ตอบที่บริษัทคุณเดี๋ยวนี้”

“ดีมากกู้ฮอน ฉันจะรอนะ” หลี่ซึ่งซึ่งหัวเราะอย่างน่า กลัว***บริษัทดิ่งซึ่ง ห้องผู้จัดการ

หลี่ติ่งซึ่งมองกู้ฮอนที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้าม ใบหน้าซีดเผือด จ้องเขาอยู่เช่นกัน

เขายิ้มมุมปากไม่หยุด

เหมือนว่าใบหน้าสุภาพนั้น มีแต่แผนการที่น่ากลัวอยู่เต็มไปหมด

“กู้ฮอน ไม่ต้องเกลียดฉันจนถึงขึ้นไม่กล้าดื่มน้ำชาหรอกนะ
“หัวหน้าหลี่คิดว่ายังไงล่ะคะ หลังจากที่ฉันดื่มแชมเปญที่คุณใส่ อะไรลงไปวันนั้น ฉันยังจะต้องดื่มสิ่งที่คุณเอาให้อีกหรือคะ”

กู้ฮอนพูดประชดประชัน

มองดูใบหน้าที่ดูมีการศึกษาของหลี่ติ่งซึ่ง แวบหนึ่งที่รู้สึกว่าตัว เองโง่มาก ทำไมถึงดูไม่ออกว่าเขาคือหมาป่าในคราบมนุษย์ดีๆ นี่เอง

“ฮาฮาฮา กู้ฮอน พวกเราไม่ต้องอ้อมค้อมให้มากความ พูดเข้า เรื่องกันเลยดีกว่า”

หลี่ติ่งซึ่งไม่อ้อมค้อม

เอกสารปึกใหญ่ถูกโยนมาตรงหน้าของฮอน

“ในนี้เป็นข้อมูลทางธุรกิจของเป่หมิง เธอไปท่องมาให้ขึ้นใจ”

กู้ฮอนอ่านเอกสารหนาคร่าวๆ เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย “คุณ หมายความว่ายังไง”
“ก็ไม่ได้หมายความว่ายังไง เพราะคุณกู้สร้างความเดือดร้อนไว้ ประธานเป่หมิงเลยยึดอำนาจการแข่งขันของพวกเราไป ฉันแค่ อยากหาทางแก้ไขเท่านั้น”

กู้ฮอนยิ้มเย็นชา

เห็นได้ชัดว่าคนที่เป็นฝ่ายเสียหายคือตัวเธอ เขากลับพูดว่าตัว เองเป็นผู้เสียหาย

ในที่สุดเธอก็เข้าใจ บนโลกนี้คนที่ไร้ยางอาย มันก็จะไร้ยางอาย จนถึงที่สุด

หลี่ติ่งซึ่งยักไหล่อย่างไม่สนใจ “เธอโชคดีที่ฉันเพิ่งรู้จักกับคน คนหนึ่ง และพอจะมีผู้ใหญ่สองสามคนที่ท่านเป่หมิงพอจะฟังอยู่ บ้าง และท่านเป่หมิงพูดว่า แค่เธอรับปากเรื่องเดียว เขาก็มีวิธีโน้ม น้าวประธานเป่หมิงกู้ชื่อของบริษัทดิ่งซึ่งคืนมา”

หัวใจกู้ฮอนบีบรัดแน่น

เธอเผลอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “ท่านเป้หมิง รู้จักฉันด้วยหรือ”

“ฮาฮาฮา ในงานเลี้ยงวันนั้น ตอนที่ถูกผู้คนรุมจ้องประธาน
เป่หมิง เพราะเขาถอดเสื้อนอกของตัวเองมาคลุมให้เธอเหมือน ฮีโร่ แต่ตอนเย็นเธอกลับถูกเขาเตะจากเตียง เธอคิดว่าเรื่องพวกนี้ จะไม่เข้าหูท่านเป่หมิงบ้างเลยหรือ”

ใบหน้ากู้ฮอนแดงและซีดสลับกัน

ใครจะไปรู้ว่าที่เป่หมิงโม่มาทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยเธอในวันนั้น เพราะแค่อยากจะหาโอกาสทำให้เธอขายหน้าก็เท่านั้น

แต่ว่าเรื่องที่ถูกเตะตกเตียง เกรงว่าคงจะกลายเป็นเรื่องตลกไป เรียบร้อยแล้วสิ

เธอสูดหายใจลึก พยายามทำจิตใจให้สงบลง

“แล้ว ท่านเป่หมิงอยากให้ฉันทําอะไรล่ะ

“เรื่องนี้ เธอต้องเป็นคนไปถามเองแล้ว***ร้านกาแฟดิโอ ภายในห้องอาหาร

มีความเงียบแปลกๆลอยอยู่ภายในห้อง

ท่านเป่หมิงเจิ้งเทียนแห่งตระกูลเป่หมิงแม้ว่าอายุจะเข้าหกสิบ ผมกลายเป็นสีขาว แต่เขาก็ยังนั่งตัวตรงดึกอยู่บนโซฟาสีดำ
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยนั้น ยังคงดูออกว่าสมัยวัยรุ่นคงจะ หล่อเหลาไม่น้อยเลยเข้ารับราชการทหารมาหลายปี เลยทำให้ ทุกท่วงท่าของท่านมีรังสีของความโอหังอยู่ตลอดเวลา

ฮอนเคยได้ยินมาว่า ผู้ชายตระกูลเปรมิงตั้งแต่อดีตมาไม่ใช่ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่เป็นนายทหารชั้นสูงทั้งนั้น

และเกียรติยศทั้งหมดคงจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

แต่ทว่าบริษัทตระกูลเป้หมิง ว่ากันว่าผู้เป็นภรรยาจะมีอำนาจทุก

รุ่นทุกสมัย

จนมาถึงรุ่นของเป่หมิงโม่ ถึงวางมือจากการทหารแล้วหันมา ทําการค้าแทน

คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองอย่างเขา บวกกับภูมิหลังที่ยิ่ง ใหญ่ของครอบครัว ทำให้ระยะเวลาสั้นเพียงไม่กี่ปีบริษัทตระกูล เป็นมิงกลายเป็นบริษัทชั้นของเมืองA

คิดดูแล้ว เป้หมิงโม่ก็เป็นเหมือนหน่ออ่อนที่มีรากที่แข็งแรง เป็นการดูแลแบบรุ่นสู่รุ่น

มีพระเจ้าที่คอยหนุนหลังเขาเรียกได้เป็นมือหนึ่งของเมืองAก็ว่าได้

กู้ฮอนนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเป่หมิงเจิ้งเทียน

ท่าทีเงียบสงบ

เขาไม่ขยับ เธอก็ไม่ขยับ

เธอรู้ว่าสายตาเฉียบคมของท่านเอาแต่จ้องเธออย่างไม่วางตา

แต่กลับทำให้เธอรู้สึกสงบและปลอดภัย

ไม่รู้ว่าภายในห้องอาหารเงียบนานแค่ไหนแล้ว

ในที่สุด เป่หมิงเจิ้งเทียนก็หัวเราะเสียงดังขึ้น

เสียงหัวที่แข็งแกร่งดูมีพลัง ไม่รู้สึกถึงความแก่ของเขาเลยสัก นิด กลับยังดูแข็งแรงดีเสียด้วยซ้ำไป

“ไม่เลว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่พอเห็นฉันแล้วไม่นอบน้อมหรือ เข้ามาประจบประแจง
เป้หมิงเจิ้งเทียนเม้มปากแล้วยิ้ม ในดวงตาลึกของคนแก่กำลัง ประกายแสงสว่างอยู่

กู้ฮอนยิ้มทันที ไม่แปลกเลยที่เป็นพ่อลูกกัน เป้หมิงไม่ก็พูดว่า เธอเป็นผู้หญิงคนแรกของเขา

“ถ้างั้นฉันควรจะพูดอะไรให้ผู้ที่บารมีสูงอย่างท่านเป็นมิงได้รู้จัก ฉันมากขึ้นสักหน่อยเป็นเพราะฉันปลูกฝังนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่ ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ฉันจึงรู้สึกดีใจและซาบซึ้งมาก

เป่หมิงเจิ้งเทียนมองกู้ฮอนแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อ “น่าสนใจดี มิน่าล่ะเจ้ารองถึงดูสนใจเธอนัก”กู้ฮอนยักไหล่ “ฉันไม่ค่อยเข้าใจ สิ่งที่ท่านเป่หมิงพูดค่ะ”

“ในเมื่อฉันสามารถหาเธอเจอได้ แน่นอนว่าจะได้ตรวจสอบ ประวัติเธอมาแล้ว ห้าปีก่อนเธอพักการเรียนแล้วพาแม่ไปรักษา อาการป่วยที่อเมริกา ห้าปีต่อมาเธอกลับมาที่เมืองA ทำงาน แผนกวิศวกรรมที่บริษัทติ่งซึ่ง เป็นพนักงานธรรมดาๆคนหนึ่ง เงิน เดือนน้อยนิด แต่ลูกนอกสมรสอย่างเธอก็ไม่เคยได้รับการยอมรับ จากคนในตระกูลกู้เลย และชีวิตขัดสนมาก

ฟังจบรู้สึกเหมือนนายทหารเป่หมิงเจิ้งเทียนมารายงานประวัติ ชีวิตเธอยังไงยังงั้น หัวใจน้อยๆของกู้ฮอนก็ค่อยๆห่อเหี่ยวลง
โชคดี ที่เขาไม่รู้เรื่องของหยางหยาง

ห้าปีมานี้ เธอเก็บเรื่องลูกชายเป็นความลับอย่างดีมาโดยตลอด

เธอแกล้งทําท่าทีสงบ เธอยิ้มเล็กน้อยแสดงท่าทีที่เป็น เอกลักษณ์ออกมา

“ดูเหมือนว่าท่านเป้หมิงจะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับฉันดีเลยนะคะ”

คำพูดที่ฟังดูเหมือนสบายๆ แต่ที่จริงแล้วเหงื่อเธอกำลังผุดเต็ม ตัว “ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่มีความสามารถพอ ที่จะช่วยท่านเป่หมิง ได้หรอกค่ะ”

เป่หมิงเจิ้งเทียนตั้งใจมองฮอน ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้ หน้าตาสะสวยโดดเด่นมาก

“คุณกู้ เธอเป็นคนฉลาด แต่เสียดายความสามารถยังไม่สูงพอ

กู้ฮอนตกใจเล็กน้อย

ในดวงตาสีดำเกิดความสงสัยเล็กน้อย
เป่หมิงเจิ้งเทียนยิ้มอย่างแฝงความหมาย “ในเมื่อเธอถูกเจ้ารอง ช่วยไว้ แต่ทำไมรีบไปนอนกับเขาเร็วนักล่ะ มีแต่จะทำให้เขาดูถูก

นิ้วมือของกู้ฮอนสั่น

ที่จริงแล้วดูเหมือนว่าหลี่ติ่งซึ่งคงยังไม่ได้บอกความจริงกับเขา

สินะ

“อา……” เธอยิ้มเศร้า “ถ้าฉันบอกว่า ฉันถูกใส่ร้ายว่าขึ้นไป นอนบนเตียงเขา คุณจะเชื่อไหม

ไม่รอให้เป่หมิงเจิ้งเทียนตอบกลับ ในแววตาเธอก็ปรากฏความ เศร้าขึ้นชั่วขณะ แล้วพูดกับตัวเอง “คุณคงไม่เชื่อหรอก เพราะ ลูกชายของคุณก็ไม่เชื่อเหมือนกัน”

เป่หมิงเจิ้งเทียนเงียบไปพักหนึ่ง

เขาพูดต่อว่า “ไม่ว่าเธอจะเป็นคนทำหรือถูกใส่ร้ายก็ตาม ใน เมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้วก็ไม่ต้องซักถามให้มากความ ตอนนี้ฉัน ต้องการให้เธอรับปากกับฉันเรื่องหนึ่งก็พอ——

“อะไรคะ” เธอรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา
รู้สึกว่าเรื่องที่ท่านเป่หมิงกำลังจะพูดคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร

“ไปเป็นเลขาส่วนตัวให้เจ้ารองทันหน่อย

ประโยคสั้นของเป่หมิงเจิ้งเทียน ทำให้กู้ฮอนช็อกจนไร้ปฏิกิริยา

ตอบสนอง

“เลขา…… ส่วนตัว

ส่วนตัวยังไงกันนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ