ร้อนรักชีคซาตาน

บทที่ 1 (1)



บทที่ 1 (1)

ในค่ำคืนอันเต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีบน ถนนบางลา ณ หาดป่าตอง ซึ่งเป็นชายหาดอันสวยงามเลื่องชื่อของจังหวัดภูเก็ต

เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายชาติหลายภาษา ที่ต่างก็เดิน ท่องราตรีอันครึกครื้น ชื่นชมความงดงามของแสงสี แวะชิม อาหารรสเลิศ และเพลิดเพลินไปกับสาวงาม ทั้งสาวแท้และสาว เทียม ที่เริงร่า โยกย้ายส่ายสะโพกไปกับจังหวะเพลง ซึ่งดัง กระหึ่มไปทั่วตลอดเส้นทางของถนนสายนี้

นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นจำนวนมาก ที่มา ท่องเที่ยวชื่นชมความงดงามของท้องทะเล และแสงสีเสียงของ ประเทศไทย

หนึ่งในนักท่องเที่ยวเหล่านี้ ก็มีนักท่องเที่ยวจากดินแดนทะเล ทรายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไกลเพื่อมาจัดปาร์ตี้สละโสดถึง แผ่นดินประเทศไทย โดยเจาะจงเลือกไนต์คลับบนถนนบางลา เป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้

“มาริสส์ เจ้าจองไนต์คลับเรียบร้อยหรือยัง”

ชีคอัลมัส อัลซิดส์ คาลาห์ เพลย์บอยชื่อกระฉ่อนของแผ่น ดิน รัฐคาลาห์ ตรัสถามองครักษ์เอก ขณะทรุดกายลงนั่งอยู่หน้า กระจก เตรียมออกไปร่วมงานปาร์ตี้สละโสดที่ทรงให้จัดขึ้นใน ค่ำคืนนี้
“กระหม่อมจองไนต์คลับเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะท่าน ค

องครักษ์มาริสส์ ราอิส ไซดาท์ รับค่าเจ้าเหนือหัว พร้อมกับ หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท อันเป็นสีโปรดของเจ้าแห่งทะเลทรายผู้นี้ ไปยื่นให้กับพระองค์ด้วย

ชีคอัลมัสรับเสื้อสีดำ ราคาแพงมาสวมใส่ เสื้อที่ตัดเย็บจาก ผ้าเนื้อดีราคาแพง แถมตัดเย็บโดยดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก ส่งให้ เจ้าแห่งทะเลทรายผู้นี้ดูหล่อเหลาคมเข้ม อีกทั้งดวงเนตรคมกริบ ไม่ต่างจากดวงตาของพญาอินทรี ทำให้สาวๆ เกือบทั่วโลกใจ ละลายมานักต่อนักแล้ว

“เพื่อนของเรามาครบทุกคนหรือเปล่า” ราชนิกูลหนุ่มตรัส ถามโดยไม่ได้หันมามองหน้าองครักษ์เอก

“มาครบทุกคน ตามที่ท่านซีคได้ส่งการ์ดเชิญไปพะย่ะค่ะ”

“อืม…เรานึกว่าจะมีคนปฏิเสธไม่มางานเลี้ยงสละโสดของ

เราซะอีก”

ชีคอัลมสตรัสออกมาลอยๆ ทั้งที่รู้ดีว่าคงไม่มีสหายคนไหน กล้าปฏิเสธคําเชิญของพระองค์

นั่นก็เพราะว่าหากได้รับคำเชิญจากชีคอัลมัสผู้ร่ำรวยติดอัน ดับต้นๆ ของโลก ก็หมายความว่า ได้กินฟรี อยู่ฟรี แถมอยู่อย่าง อภิมหาเศรษฐีเสียด้วย

“ไม่มีใครกล้าปฏิเสธคำเชิญของท่านชีคหรอกพ่ะย่ะค่ะ เพราะพวกเขารู้ดีว่างานนี้พวกเขามีแต่ได้กับได้ นอกจากจะได้กินฟรี เที่ยวฟรีแล้ว บางทีอาจจะได้ของกำนัลติดไม้จากมือจาก พระองค์ด้วย”

น้ำเสียงที่ตอบเจ้าเหนือหัวติดเซ็งๆ เพราะองครักษ์มาริสส์รู้ ดีว่า พระสหายที่ซีคอัลมัส ให้เชิญมาร่วมงานปาร์ตี้สละโสดของ พระองค์นั้น ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธคำเชิญแม้แต่รายเดียว เพราะนอกจากจะเกรงกลัวอำนาจของชีคอัลมัสแล้ว พวกเขายัง ได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยฟรีๆ โดยไม่ต้องควักเงินแม้แต่ ใบเดียว

ชีคอัลมัสจับกระแสในน้ำเสียงขององครักษ์เอกได้ว่าไม่ค่อย พอใจสักเท่าไร ที่พระองค์ออกคำสั่งให้เชิญสหาย ซึ่งเป็นหนุ่ม โสดล้วนๆ แถมยังมีนิสัยเพลย์บอยไม่ต่างจากพระองค์ ครึ่งร้อย ชีวิต ให้เดินทางมาร่วมปาร์ตี้สละโสดของพระองค์บนแผ่นดิน ประเทศไทย

“เอาเถอะน่าเจ้ามาริสส์ อย่าบ่นมากเหมือนแม่ไก่สิ ปาร์ตี้ สละโสดของเรา ใช่ว่าจะมีทุกปีซะเมื่อไร

“แต่พระองค์ก็จัดปาร์ตี้ไม่เว้นแต่ละเดือนนะค่ะย่ะค่ะ

ชีคหนุ่มเจ้าสำราญและได้รับการขนานนามว่าเป็นราชนุกุล ที่เปลี่ยนผู้หญิงไม่เว้นแต่ละวัน ถึงกับถลึงดวงเนตรมององครักษ์ มาริสส์ เมื่ออีกฝ่ายพูดแทงใจดำ

“บ่นเป็นคนแก่อีกแล้วเจ้ามาริสส์”

“ก็มันจริงนี่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าพระองค์จัดปาร์ตี้บ่อยเกินไปแล้วนะค่ะย่ะค่ะ”
เพราะเป็นทั้งองครักษ์เอกที่คอยอยู่อารักขาเจ้าเหนือหัว หนุ่มแทบตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง อีกทั้งเป็นสหายคนสนิทที่สุดของ ช็คอัลมัส องครักษ์มาริสต์จึงกล้าเหน็บแนมเจ้าเหนือหัวของ ตนเอง

และแทนที่เจ้าแห่งทะเลทรายจะโกรธกริ้วองครักษ์ปากปีจอ พระองค์กลับหัวเราะร่วนแก้ต่างให้กับองค์เองหน้าตาเฉย

“เรายอมรับว่าที่ผ่านๆ มาเราจัดปาร์ตี้บ่อยไปหน่อย แต่เจ้า อย่าลืมนะมาริสส์ ว่านี่เป็น

ครั้งแรกที่เราจัดปาร์ตี้สละโสด”

“ฟังดูเหมือนพระองค์กำลังตื่นเต้นที่กำลังจะได้อภิเษกนะค่ะ

ช่างเป็นคำพูดที่ฟังไม่เข้าหูราชนิกุลหนุ่มเอาซะเลย และผล

ตอบแทนจากการพูดให้อารมณ์ของชีคอัลมัสต้องขุ่นมัว ก็คือ

การถูกซัดด้วยเท้าใหญ่ ทำเอาองครักษ์มาริสส์จุกไปหลายนาที

“ใครบอกเจ้าว่าเราตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับเจ้าหญิง ไลลา”

ชีคอัลมัสตรัสถามสุรเสียงเข้ม จากที่อารมณ์ดีๆ อยู่ ก็เริ่ม หงุดหงิดขึ้นมาในทันตาเห็น เพราะองครักษ์เอกดันพูดถึงพระคู่ หมั้นที่พระองค์ทิ้งไว้ไกลในแผ่นดินทะเลทราย

“อ้าว กระหม่อมเห็นพระองค์จัดงานปาร์ตี้สละโสดอย่างยิ่ง ใหญ่ แถมยังเดินทางมาจัดซะไกลถึงประเทศไทย กระหม่อมก็นึกว่าพระองค์ทรงยินดีกับการอภิเษก ในครั้งนีซะอีก”

“ยินติกะ นะสิ”

ชีคอัลมัสสวนกลับด้วยความโมโห เค้นสุรเสียงบอกองครักษ์ เอกด้วยสุรเสียงหัวนจัด

“ซีคอัลมัสผู้เย่อหยิ่งยโส มีผู้หญิงเข้าคิวคอยบำเรอรักไม่ซ้ำ หน้า แต่ต้องมาแต่งงานเพราะถูกคลุมถุงชน น่าอับอายชะมัด”

“ถ้าพระองค์ไม่ต้องการอภิเษก ทำไมไม่ล้มงานอภิเษกไป เลยล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

ช่างเป็นคำแนะนำที่ฟังดูดียิ่งนัก และใช่ว่าชีคหนุ่มที่ใช้ผู้ หญิงเปลืองยิ่งกว่ากระดาษทิชชูไม่อยากทำตาม ทรงอยากล้มพิธี อภิเษก ใจจะขาด ทว่าพระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะ หากทำเช่นนั้นคงถูกพระบิดาพิโรธจัดจนแทบจะตัดคอพระองค์ ได้

“เฮ้อ…เจ้าก็รู้ดีว่าเรายอมสละชีวิตโสด ยอมหาห่วงมาผูก คอ เพราะขัดคําสั่งของท่านพ่อไม่ได้

“กระหม่อมไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่าบาทต้องบังคับให้พระองค์ อภิเษกกับเจ้าหญิงไลลาด้วย”

เป็นคำถามที่องครักษ์มาริสต์ค้นหามานาน เพราะไม่อยากเชื่อ ว่าจู่ๆ ท่านชีคคาลาห์ ประมุขแห่งรัฐศาลาห์จะบังคับให้โอรส อภิเษกกับเจ้าหญิงไลลา ทั้งๆ ที่รู้ว่าโอรสไม่เต็มใจแม้แต่นิด เดียว
ชีคอัลมัสถอนหายใจยาว ตรัสตอบตามที่พระองค์คิดว่าควร เป็นเช่นนั้น ท่านพ่อคงกลัวว่าเราจะอยู่เป็นโสดไปจนตาย จึง บังคับให้เราแต่งงาน

“ถ้าไม่ถูกฝ่าบาทบังคับ กระหม่อมเชื่อว่าพระองค์คงต้องอยู่ เป็นโสดไปตลอดทั้งชีวิตแน่นอนพะยะค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ