ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!

บทที่ 8



บทที่ 8

พยาบาลฝ่ายต้อนรับ โต๊ะสังเกตเห็นเด็กน้อยเข้า เขามี ศรีษะ ปกคลุมด้วยผมสีดำทรงเสน่ห์ และใส่เสื้อยืดสี ขาวที่มีรูปชุดเกราะถูกสกรีนอยู่บนอก พร้อมด้วย กางเกงวอร์มสีดำและหน้ากากอนามัยสีดำเช่นกัน

ด้วยลุคสีขาวดำจากเสื้อผ้า หน้าผม ทำให้เขาดูมีสไตล์ อย่างมาก ราวกับว่าเขาเป็นผลงานศิลปะจากศิลปินเอก ในจินตนาการของพยาบาลสาว เขาดูเหมือนเจ้าชายที่ หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนเลยทีเดียว

‘เด็กคนนี้น่ารักสุดๆเลย!

“หนูกำลังตามหาใครอยู่จ้ะ หนุ่มน้อย?” คุณพยาบาล ได้เข้ามาหาเขา และกล่าว ทักทาย ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เสียงของเธอฟังดูอ่อนโยน

“ผมกำลังตามหาคุณ—คุณพ่อของผมอยู่ครับ!” เด็กชายกล่าวโดยสัญชาตญาณ

‘คุณแม่บอกว่าเราควรระวังเวลาที่อยู่ข้างนอก

‘ห้ามบอกความจริงกับใคร ยกเว้นกับคุณตำรวจ แน่นอนอยู่แล้ว

หนุ่มน้อยเงยหน้ามองพยาบาลด้วยใบหน้าใสซื่อ “คุณผู้ หญิง คุณพอจะรู้ไหมครับว่าคุณพ่อผมอยู่ไหน?”

เมื่อพยาบาลร่างเล็กพิจารณาใบหน้าของเด็กชาย ด้วยดวงตา กลม โตที่ถูกบดบัง อยู่ ใต้หน้ากาก อนามัย เธอ ตกใจ พร้อมกับรู้ได้ทันที ‘ตาพวกนั้นเหมือนกับตาของ คุณอาเรสผู้เย็นมาเลย!

ยังไงก็ตามแต่ คุณอาเรสนั้นมีใบหน้าจริงจังเป็น เครื่องหมายการค้า ตลอดเวลา แม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่ เต็มไปด้วยเสน่ห์มาตั้งแต่เกิดก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีใคร หน้าไหนกล้าที่จะเข้าใกล้เข้านัก

แต่หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้นั้นแตกต่างโดย สิ้นเชิง เขาดูนุ่มนิ่มน่ากอด รอยยิ้มของเขาอบอุ่นพอที่จ ะละลายหิมะได้เลย พูดตามตรง ความน่ารักของเขามัน เกินต้านจริง ๆ

“โอ้ แน่นอน จ้ะ ห้องทำงานของคุณอาเรสอยู่ที่ชั้นเก้า น่ะ!” นางพยาบาลรีบตอบโดยไม่ลังเล

หนุ่มน้อยรู้สึกหงุดหงิด นิดหน่อย นี่เขาดูเหมือนลูกชาย ของคุณอาเรสอะไรนั่นขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่าเขา หน้าโหล?

ท่าทางของพยาบาลดูเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอโน้มตัว เข้ามาแล้วถามอย่างสุภาพ “ให้ฉันพาเธอไปที่ห้อง ทํางานเขาไหม?”

เด็กชายรีบสายหัว “ไม่ครับ”

‘พยาบาล คนนี้หน้าตาค่อนข้างดี แต่เธอไม่ค่อยฉลาด เท่าไหร่ ถ้าเธอตามเราไปล่ะก็ แผนเราพังไม่เป็นท่าแน่ เขาคิดในตอนนั้นเองที่ประตูลิฟต์พลันเปิดออก แล้วเด็กชายจึง โผเข้าไปในลิฟต์

เมื่อ ลิฟต์ เคลื่อนตัวขึ้นไป ตัว ติดตาม ในสมาร์ทวอทช ของเขาก็บอกว่าเขากำลังเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเขาขึ้นมาถึงขั้นที่เก้า ตำแหน่งที่เขาอยู่และตำแหน่ง ปลายทางที่ระบุไว้ก็ซ้อนทับกัน

หนุ่มน้อยออกมาจากลิฟต์ และเดินตามที่ระบบนำทาง บอกไว้ ในที่สุดตำแหน่งของห้องที่โรสอยู่ก็ถูกระบุอย่าง ชัดเจน

ที่หน้าประตูไม้บานใหญ่ซึ่งมีป้ายไม้ที่สลักไว้ว่า “ห้อง รับรองท่านประธาน” ติดเอาไว้

เด็กชายตัวน้อยผลักประตู ทว่ามันไม่ขยับเลย

เขาสังเกต เห็น ล็อค ทองแดง แบบ สแกนลายนิ้วมือ บน ประตู ด้วยความที่เขาไม่มีแผนที่ดีไปกว่านี้แล้ว เขาจึง ลองแปะนิ้วลงที่แป้นสแกน และนั่นก็ทำให้เขาต้อง ประหลาด ใจ เขาได้ยินเสียงล็อคที่ถูกปลดออกพร้อม กับบานประตูที่ถูกเลื่อนออกมา

เจ้าหนุ่มน้อยงงเป็นไก่ตาแตก ‘นี่ล็อคสแกนลายนิ้วมือ อันนี้มันถูกออกแบบมาเพื่อเรารึเปล่า?’ เขานึกฉงน

เด็กชายดันประตู ให้เปิดออกและเห็นเข้า กับร่างที่ถูก รังแก ของแม่เขา ซึ่งถูกผูกติดไว้กับขาโต๊ะ เส้นผม ของ เธอยุ่งเหยิง และใบหน้าของเธอก็ก้มติดกับเข่า ไหล่ของเธอสั่นไหว

“นั่นคุณแม่ร้องไห้อยู่เหรอ?” เขาคิดและเริ่มตื่น ตระหนก

เขาไม่เคยเห็นคุณแม่ร้องไห้มาก่อน

‘ต้องมีใครทำเรื่อง ไม่ดีกับคุณแม่แน่ เธอถึงได้ร้องไห้ แบบนี้

“คุณแม่!” เด็กน้อยตะโกน ก่อนจะปล่อยสกู๊ตเตอร์ ลง กับพื้นแล้วพุ่งเข้าไปแก้มัดให้โรส

เมื่อ โรสได้ยิน เสียงอันน่ารักของลูกชายที่แสนคุ้นเคย เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้น มันเป็นเขา ร็อบ บี้น้อยของเธอ ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอ โรสในตอนนี้เรียก ได้ว่าตะลึงจนแทบเป็นใบ้ไปแล้ว

เธอมองไปที่เครื่องแสกนลายนิ้วมือ แล้วเธอก็รู้ได้ว่าลาง

สังหรณ์ของเธอมันถูกต้อง 1

ร็อบบี้น้อยของเธอมีลายนิ้วมือแบบเดียวกับของเจนสัน

จริง ๆ

ร็อบบี้น้อยดึงหน้ากากของเขาออกและใบหน้าเล็ก ๆ อัน หล่อเหลาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยโทสะ

“คุณแม่ นักเลงคนไหนมันรังแกคุณแม่? ผมจะฆ่ามัน” ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา เขาก็แสดงลูกเตะที่ปราดเปรียว และงดงามไปบนอากาศ

ร็อบบี้น้อยมีพรสวรรค์ด้านเทควันโดที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ตั้งแต่เริ่มแรก โรสสมัครคลาสเรียนเทควันโดเพื่อเสริม สร้างร่างกายที่ปวกเปียกและอ่อนแอให้เขา

และนั่นทําให้เธอต้องประหลาดใจ เมื่อ โค้ชได้บอกถึง พรสวรรค์ โดยกำเนิด ของเด็กชา ยอย่าง ตื่นเต้น สองปี หลังจากนั้น ชั้นหนังสือของร็อบบี้น้อยก็เต็มไปด้วยถ้วย รางวัลเทควันโด

หกเดือนที่ผ่านมา เขาแม้แต่เริ่มท้าทายกลุ่มที่โตกว่าและ ทํามันได้อย่างดีเยี่ยม

โรสสวมหน้ากากอนามัย บนหน้าของเขาใหม่ “ที่นี่มัน อันตราย ” เธอกล่าวเสียงเบา “ค่อยคุยทีหลัง เราต้อง รีบไปจากที่นี่กันก่อน”

“ได้เลยฮะ!” ร็อบบี้น้อย ตอบสนอง ด้วยความเชื่อ ฟัง 1

แต่ก่อนที่เธอจะไป โรสก็พลันนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวก่อน” เธอกล่าว “เราต้องหาวิธีลบข้อมูลที่กล้องวงจรปิด บันทึกไว้ก่อน เราจะให้พวกคนไม่ดีรู้ตัวตนลูกไม่ได้เด็ด ขาด”

“ง่ายมากฮะ ให้ผมจัดการเอง”

ผ่านไปไม่นาน ภาพที่ถูกบันทึกจากกล้องวงจรปิด ของ ทั้งตึกก็ถูกลบหายไป

หมู่บ้าน หรูในเซาธ์ซิตี้แทบดูเหมือนจะหลอมรวมไปกับเส้นขอบฟ้า บริเวณนี้เป็นที่โด่งดังและรู้กันดีว่าเป็น อสังหาริมทรัพย์สุดหรูที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเมือง

คฤหาสน์ตากอากาศของที่นี่ใหญ่โตด้วยตัวของมันเอง อยู่แล้ว แต่สวนของที่นี่กลับใหญ่ยิ่งกว่า

หมู่บ้านแถบนี้มีเปอร์เซ็นความหนาแน่นของประชากรใน เมืองที่ตา—น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นของประชากรอาศัย อยู่ที่นี่ แน่นอน มีเพียงแค่คนที่ร่ำรวยที่สุดและทรง อำนาจที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถอาศัยอยู่ในที่ๆเหมือน เป็นส่วนนึงของสวรรค์นี้ได้

เจย์ขับรถหรูยี่ห้อ ลินคอล์น เข้าไป เก็บ ในโรงรถ ใต้ดิน อย่างรวดเร็วและบรรจง เขาโฉบเข้าไปที่จุดจอดรถ และ จอดลงอย่างงดงาม

เจย์รีบลงจากรถและพุ่งเข้าบ้านไป

เขา เปิด ประตู นิรภัย ออก กลิ่น หอม พลัน ลอยเตะจมูก ทันที เจย์ถึงกับผงะเล็กน้อย แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง

“เจย์ นายกลับมาตอนไหนน่ะ?” โจเซฟินกำลังถือถาด ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานและกล่าวทักทายเจย์ที่เข้ามา

แม่ของเจย์กำลังจัดโต๊ะสำหรับมื้ออาหาร

พ่อของเจย์กำลังอยู่ในพื้นที่พักผ่อนในห้องนั่งเล่นด้วย กันกับหลานชายของเขา พวกเขากำลัง ต่อหุ่นเลโก้ตัว

ใหญ่ด้วยกันอยู่หรือถ้าจะให้เจาะจงไปมากกว่านั้น คุณปู่ผู้ชราเพียงแค่ นั่งอยู่ข้าง ๆ เจนสัน มองดูหลานของเขาอย่างภูมิใจ

อีกด้านหนึ่ง เจนสันไม่สนใจการมีตัวตนของคุณปู่เลย สักนิด

เจย์เปลี่ยนไปใส่รองเท้าสําหรับเดินในบ้านแล้วเดินไปห าเจนสัน และกล่าวอย่างผ่อนคลาย “ถ้าคุณปู่กับคุณย่า อยู่ที่นี่ ทำไมต้องให้คุณพ่อกลับบ้านมาด้วยล่ะ? วันนี้ คุณพ่อน่ะยุ่งมาก—”

‘ยุ่งกับผีสิ!’ เจนสันสบประมาทในใจ

เจนสันทําเป็นหูทวนลมต่อคำพูดของพ่อของเขา เขาเริ่ม สร้างหุ่นเลโก้ที่ตอนนี้สูงกว่าตัวเขาอย่างมีความสุข

“พูดอะไรบ้างสิ!” เจย์หมดความอดทน

“คุณพ่อกลับมาเองต่างหาก” เจนสันตอบอย่างเฉยชา

ความหมายที่เขาจะสื่อ ก็คือ ในเมื่อ คุณ พ่อ ของเขา มี ความคิดของตัวเองและมีขาของตัวเอง การกลับบ้านมา นั้นเป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ไม่ใช่เจนสัน จริง ๆ นะ ทำไม เขาถึงได้ไม่พอใจขนาดนั้นถ้าเขาเลือกมันด้วยตัวเอง?

เจย์พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง แต่เขาก็ตั้งสติและพยายาม อธิบายเหตุผลแก่ลูกชายของเขา “คุณพ่อรีบกลับบ้านม าเพราะนึกว่าลูกไม่มีอาหารเที่ยงกิน ถ้าลูกบอกคุณพ่อ ว่าคุณปู่กับคุณย่าอยู่ที่บ้านทางโทรศัพท์ คุณพ่อก็ไม่ จําเป็นต้องรีบกลับบ้านมา
“คุณหมอบอกว่าผมเป็นออทิสติก ทำไมคุณพ่อถึงคาด หวังให้ผมพูดเยอะแบบนั้น? งี่เง่า!” เจนสันกระแทกเล โก้ชิ้นสุดท้าย เข้าที่ดวงตาของหุ่นอย่างแรงก่อนจะลุก ขึ้นยืน เขาผลักเจย์ออกไปและเดินขึ้นชั้นบนไปคนเดียว

“แล้วทำไมตอนนี้ลูกดันพูดเยอะขึ้นมาเล่า?” เจย์ ตะโกนไล่หลัง

“ไม่รู้สิ ผมคงชนะตัวเองได้แล้วมั้ง!” เจนสันตะโกนสวน กลับ

ใบหน้าของเจย์พลันมืดมนหลังจากเจนสันยอกย้อนใส่ เขา

คุณปู่หัวเราะออกมาและพูดอย่างประชดประชัน “พ่อ ลูกเหมือนกันไม่มีผิด

เจย์โมโหมากจนเกือบ จะฟาดใส่หุ่นเลโก้ของเจนสัน คุณปู่รีบห้ามเขาทันที “อย่าทํามัน นั่นคือแม่ของเจนสัน ถ้าแกแตะต้องแม่ของเขาล่ะก็ ลูกชายของแกบอกว่าเขา จะทําแบบเดียวกันใส่แก

มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ทั้งครอบครัวมักจะต้องทุกข์ใจ เวลาที่เจนสันอาละวาดใส่การกระทำของเจย์

แล้วก็มักจบลงด้วยน้ำตาของคุณย่าที่เสียใจต่อหลานรัก ของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ