รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ

เมียทอม (40%)



เมียทอม (40%)

“อือ…ไอ้เมศ ทำไมตอนเมามึงหล่อจังวะ”

“แล้วตอนไม่เมาไม่หล่อหรือไง”

เขาถามเสียงห้าวติดจะพร่ามีแววหยอกล้อเล็กๆ ก่อนจะปัดมือ เรียวออกจากข้างแก้ม แล้วยื่นหน้าเข้ามาหาจนปลายจมูกคมสัน แตะปลายจมูกสั้น ทําเอาลมหายใจของคนถูกจู่โจมถึงกับสะดุด ก๊ก หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็น ส่วนใบหน้านวลปลั่งนั้นเพื่อร้อน ด้วยความสะเทิ้นอายแกมประหม่า

“หล่อ…แต่ตอนเมาหล่อกว่า ตาเยิ้มโคตรเซ็กซี่” วาจาเยินยอ ซื่อๆ ที่หลุดออกมาจากปากอวบอิ่มทำให้คนที่มักไม่แสดงอา รมณ์ใดๆ ผ่านทางสีหน้าหัวใจกระดูกวาบอย่างช่วยไม่ได้ ริม ฝีปากหยักกดลึกคล้ายพึงพอใจ และรอยยิ้มเล็กๆ นั้นก็ทำให้อีก ฝ่ายทําหน้าเหวอ

เอ๊ะ!…เธอตาฝาดหรือเมาจนเป็นบ้าสติฟั่นเฟือนกันแน่ ถึงได้ เห็นมุมปากของเขายกยิ้ม

“มึงยิ้มเป็นด้วยเหรอ” ธารธาราละล่ำละลักถาม พร้อมจ้อง หน้าหล่อระเบิดระเบ้อที่เพิ่งผละห่างเหมือนตัวประหลาด

“อ้าว…ก็คนนะครับ” เขาเลิกคิ้วเอ่ยหน้าตาย ทว่าแวว ตากลับปรากฏรอยยิ้มพรายชวนมอง และนั่นก็ทำเอาคนที่หัวใจ เต้นแรงๆ ซ้ำๆ ถึงกับยิ้มแก้มปริ อุ่นวาบในอกจนบรรยายแทบไม่ถูก

“ยิ้มให้กูบ่อยๆ นะ…กูชอบ มึงยิ้มทีใจละลาย” คุณหมอสาว เอ่ยเป็นเชิงอ้อนพร้อมมองหน้าหล่อๆ ด้วยสายตาหวานเชื่อม ขาดเธอก็ฟุบไปกับโต๊ะเสียดื้อๆ

“เฮ้ย! ไอ้น้ำ นี่จึงน็อกกลางอากาศเลยเหรอวะ”

“อื้อ…ไม่ได้นอก มึนหัวเฉยๆ ขอพักยกแป๊บนึง” คนเมาจัด ทำเสียงดื่มทั้งที่หน้ายังซุกอยู่กับโต๊ะ

“ไม่ต้องพักยกหรอก กูแดกเหล้าไม่ไหวแล้ว เรากลับกันเหอะ เดี๋ยวกูไปส่ง” เอ่ยจบร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างก็ผุดลุกขึ้น แล้วเซ นิดๆ อาการมึนหัวพุ่งเข้าจู่โจมจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่

ปรเมศยืนหลับตานิ่วหน้าอยู่สักพัก ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจฝืน ต้องทรุดกายลงนั่งอย่างหมดสภาพ เอื้อมมือไปประสานกับมือ ของธารธาราเอาไว้ แล้วฟุบไปไม่ต่างจากอีกฝ่าย

“เฮียครับ…เฮีย ร้านจะปิดแล้วครับ” นพเก้าเอ่ยบอกพร้อม สะกิดไหล่ของคนรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นน้อง ชายเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของปรเมศ

เสียงที่เหมือนลอยมาแต่ไกลทำให้ปรเมศได้สติอีกครั้ง

“อือ…” พ่อหนุ่มพันธุ์ดิบขานรับกลั้วคอหนา คลายมือจาก มือเรียวของธารธารา ก่อนจะทาบมือกับโต๊ะดันตัวเองให้ลุกขึ้น ด้วยสภาพทุลักทุเล เซน้อยๆ จากนั้นก็หันไปมองหน้าไอ้หนุ่ม สกินเฮด ลุคแบดบอย
“ร้านปิดแล้วเหรอวะไอ้เก้า”

“ใช่ครับ ผมว่าเฮียนอนที่นี่ดีกว่าไหมครับ” น้องชายเจ้าของ ร้านเอ่ยพลางรินน้ำเย็นๆ ส่งให้อีกฝ่ายเผื่อจะช่วยให้ตาสว่าง และสร่างเมาขึ้นมาบ้าง

“อือ…ก็ดีเหมือนกัน เมาขนาดนี้คงขับรถกลับไม่ไหว” หลัง จากซัดน้ำเย็นเข้าไปปรเมศก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ย เรียกคนที่ยังฟุบอยู่กับโต๊ะแบบไม่สนห่าอะไร

“เฮ้ย! ไอ้น้ำ ลุกเร็วมึง” สรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียกทำให้สาว ห้าวหูผึ้งอีกครั้ง สติเริ่มบังเกิด ก่อนจะผงกหัวขึ้นมามองอีกฝ่าย แล้วเอ่ยเข้าด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

“ฮั่นแน่ จึงเรียกชื่อกอีกแล้ว…ดีจัง

คนโดนล้อทำหน้าไม่ถูก รู้แต่ว่าซีกแก้มสากเหมือนมีไฟมาอัง อย่างน่าบัดซบ

“ไม่ต้องมาทําตาหวาน ลุกเร็ว ง่วงจะตายชัก” พ่อเจ้าประคุณ กลบเกลื่อนความรู้สึกด้วยการปั้นหน้าเรียบสนิท แล้วเอ่ยออกคำ สั่งเสียงแข็งๆ

“อือ…กูลกม่ายหวาย… ธารธาราพยุงตัวทำท่าจะลุกขึ้นด้วย ความยากลำบาก ก่อนจะทรุดลงอย่างยอมจํานนกับอาการโลก หมุน พื้นใต้เท้าโคลงเคลงไปหมด

“ลุกไม่ไหวก็ต้องลุก แข็ง ใจหน่อยเร็ว” ปรเมศเอ่ยเป็นเชิง กระตุ้นระคนเร่งเร้า ก่อนจะขยับเข้าไปดึงต้นแขนอีกฝ่ายเพื่อพยุงให้ร่างอ่อนปวกเปียกลุกขึ้น

“อือ…ลุกก็ลุก” เธอเอ่ยรับคำดื่มอย่างว่าง่ายหายพยศ แล้ว ทาบฝ่ามือลงกับพื้นโต๊ะตรงหน้าเพื่อดันให้ตัวเองลุกขึ้นยืนช่วย เขาอีกแรง

ท่าทางถ้อยทีถ้อยอาศัยของคนที่ต่างประกาศปาวๆ ว่าเกลียด กันทําให้น้องชายของเจ้าของร้านแอบอมยิ้ม เป็นบุญตาของเขา เหลือเกินที่ได้มาเห็นโมเม้นต์ปรองดองอย่างน่าพิลึกเช่นนี้

“เฮียจะให้ผมเอาหมอนไปส่งที่ห้องให้ไหมครับ” นพเก้าเอ่ย ถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันขวับมา มองตาขวาง ลักษณะเหมือนหวงคุณหมอสาวไม่มีผิด

“เดี๋ยวกูไปเอง ห้องไหน

“เอ่อ…ให้หมอนนอนห้องเดียวกับเฮียได้ไหมครับ พอดีว่าคืน นี้เพื่อนผมมาขอค้างด้วยสามคนห้องเลยเต็มหมด จะเหลือก็แต่ ห้องที่เฮียเคยนอน หรือว่าจะให้ผมโทรไปตามเฮียภูมารับหมอ น้ำดี เพราะรายนั้นบอกก่อนออกจากร้านว่าถ้าเฮียเอาหมอน้ำ กลับไม่ไหวก็ให้โทรหาแก

“ไม่ต้องโทรไปกวนไอ้ภูหรอก ป่านนี้มันคงหลับปานตายแล้ว เดี๋ยวให้ไอ้น้ำมันนอนกับกูก็ได้”

“งั้นฝันดีนะครับ ผมขอตัวไปดูเด็กเก็บร้านก่อน

นพเก้ากล่าวทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น แล้วหมุนตัวจากไปด้วย สีหน้าเปื้อนยิ้ม ส่วนปรเมศก็จับแขนธารธารามาพาดบ่ากว้างก่อนจะพาอีกฝ่ายออกก้าวเดินอย่างทุลักทุเล กว่าจะมาถึงห้องได้ ก็เล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว

หลังจากวางคนที่เมาไม่ได้สติลงบนเตียง ปรเมศก็ไปล้างหน้า ล้างตา ในห้องน้ำเพื่อเรียกความสดชื่น ครั้นเดินออกมาก็ต้อง ชะงักกับสายตาหวานหยาดเยิ้มของคนที่นั่งหัวฟูอยู่ปลายเตียง ซึ่งพุ่งตรงมายังเขา และน้ำคำหวานหูชวนใจละลายที่เล็ดลอด ออกมาจากปากสีแดงระเรื่อก็ทําให้เขาเกือบล้มหัวคะ

“เมศจ๋า….ร้อน”

“ร้อนก็ไปนั่งตากแอร์โน่น” เห็นท่าไม่ดีเขาก็ชี้มือไปยังข้าง เตียงอีกฝั่งที่แอร์ลงเต็มๆ แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้ายุ่ง สายหัว น้อยๆ แล้วลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง

“เฮ้ย! กูบอกให้ไปนั่งตากแอร์ไม่ใช่แก้ผ้าโว้ย!” ปรเมศร้อง ห้ามปรามเสียงหลง แล้วรีบหันซีกแก้มแดงก่ำไปอีกทางเมื่อ เหลือบไปเห็นเนินอกขาวผ่องรำไร

ยัยทอมบ้าเอ๊ย! เมาแล้วรั่ว แถมยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่กลัว ผู้ชายอีก

“น้ำจะถอด น้ำร้อน”

“โว้ย! ยัยทอมบ้าน ทำไมถึงดื้อแบบนี้วะ” ปรเมศหันมา คำรามอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน อยากจะทิ้งหัวตัวเองให้กับความ ดื้อด้านของอีกฝ่ายยิ่งนัก

“ถ้าน้ำดื้อเมศก็ลงโทษน้ำสิ” คนเมาจัดเอ่ยท้าพลางมองเขาตาเยิ้ม นี่ยัยทอมตัวดีจะรู้ไหมว่าที่เธอกำลังทำน่ะเขาเรียกว่าอ่อย และผู้ชายอย่างเขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนซะด้วยสิ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ