รักวุ่นวายของนายคิน

ตอนที่ 4



ตอนที่ 4

“นาย..ตามฉันมานี่..!!”

และทันทีที่ฉันพูดบอกเจ้าแม่ไป ฉันก็ลุกขึ้นและพูดใส่ ผู้ชายที่นั่งข้างๆฉันทันที ก่อนจะเดินนำออกไปยังบริเวณ นอกศาลเจ้า..และคิด..คิดว่าจะทํายังไงดี..ให้อีกสองเดือน ฉันยังเจอผู้ชายคนนี้อยู่..

ถ้าตอนนั้นฉันได้เงินก้อนหนึ่งแสนมาจริง..ฉันจะได้ติดต่อ ให้เขาแก้บนพร้อมกันกับฉันได้

แต่ฉันไม่บอกเขาตอนนี้หรอก เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็น ยังไง..เกิดเขาไม่ชอบขึ้นมา แตกตื่นแล้วหนีหายไป ซวยสิ เพราะฉะนั้น

“เออ บ้านนายอยู่ไหนเหรอ”

เบอร์โทรเปลี่ยนหนีกันได้..แต่ว่าบ้านหนีกันไม่ได้หรอก..

แต่แล้วทันทีที่ฉันเอ่ยถามแบบนั้นออกไป..เขาก็ยิ้มแบบ เดิม ก่อนที่จะพูดออกมาที่ทำให้ฉันต้องยืนเท้าสะเอวใน ทันที..
“หื้มมม..? แค่แนะนําชื่อ ก็อยากไปบ้านผมเลยเหรอ ครับ..ไม่เบาเลยนะ ยัยหมวย

“นี่!! เลิกเรียกฉันแบบนั้นซะที แล้วก็นะ ฉันไม่ได้พิศวาส ในตัวคุณด้วย..นิสัยไม่ดี โรคจิต แถมสมองก็ยังมีปัญหา อีก..ฉันไม่สนใจหรอกย่ะ! แต่ที่ฉันถาม ฉันก็แค่อยากรู้ ว่า..สังคมแวดล้อมที่คุณโตมามันเป็นแบบไหน ถึงบ่มเพาะ ให้คุณเป็นคนแบบนี้ได้ ก็เท่านั้นเอง”

“อ้อ..แบบนี้นี่เอง…

หลังจากที่เขาพูด เขาก็ลูบคางไปมา…และพยักหน้าเข้าใจ พร้อมกับทำหน้าจริงจัง…ในขณะที่ฉันรู้สึกได้ว่าเขากำลัง กวน..

“แล้วสรุปไง บ้านคุณอยู่ไหน

“งั้นป่ะ! หมวย….เดี๋ยวผมพาไปดูทุกซอกทุกมุมในบ้านผม เลย…”

แต่แล้วทันทีที่ฉันเอ่ยคำถามอีกครั้ง อยู่ๆเขาก็จับมือฉัน แล้วก็ทําท่าจะลากพาฉันออกไปในทันที..พร้อมกับคำพูด ที่ทําให้ฉันรีบสะบัดมือทิ้ง และแก๊ดเสียงด่ากลับเขาไปอย่างไว..

“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้อยากไปซะหน่อย…และที่สำคัญ อย่ามา แตะตัวฉันนะ!”

“หื้มมม?..หวงตัวซะด้วยย…เอ๋…แต่หวงตัวยังไงกันนะ.. ถึงได้มาถามหาบ้านผู้ชายแปลกหน้าแบบนี้..

อร๊ายยยย

ฉันขอกรี๊ดวันละสิบรอบกับผู้ชายคนนี้ได้มั้ย!!!

แต่เอาเถอะ ฉันต้องใจเย็นๆ และคิดใหม่..ฉันคงรู้ที่อยู่ บ้านนายนี่ไม่ได้แล้วล่ะ.. เอาไงดีวะ…..ทำยังไงดี ให้ฉัน ติดต่อนายนี่ได้

จะขอเบอร์ก็ดูออกตัวแรง เดี๋ยวเขาก็เข้าใจผิดอีก..

ว่าแต่….แม้ว่าเขาจะหน้าตาดี ผิวดูเนียนละเอียด แต่ ว่า….ดูจากลักษณะของเขาตั้งแต่คราวที่แล้ว และครั้ง นี้…อืม…เสื้อยืดเก่าสีซีด กางเกงตัวเดิม รองเท้าแตะที่ ดูเหมือนใกล้จะขาด แล้วไหนจะกระเป๋าสะพายข้างที่ดู เปื่อยๆอีก….เขาน่าจะไม่มีเงินซักเท่าไร หรือว่าเอาแบบนี้นะ..

“เออนี่ นายอะมีปัญหาเรื่องการเงินใช่มั้ย

“เฮ้ย!!..ยัยหมวย นี่เธอรู้ได้ไง…นอกจากรับจ้างงิ้วแล้ว ยังรับจ้างเข้าทรงด้วยเหรอ”

โอ๊ยย..มันน่าตบหัวให้อิ่มจริงๆ ผู้ชายอะไร กวน ชะมัด..แต่ฉันก็ยังต้องใจเย็นและฝืนยิ้มต่อไป

“สนใจมาทำงานร้านฉันเปล่า

“หื้ม? ”

“วันละสามร้อย มีสวัสดิการกินก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารฟรีมื้อ ละจาน มีน้ำฟรี..มีที่นอนฟรีดีแบบนี้หาที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว นะ”

นี่ล่ะ แผนเด็ดของฉันเอง…ก็อย่างที่บอก ตอนนี้คนงาน ที่บ้านก็ดันมาลาออกหมด แล้วฉันกับไอ้เจก็ต้องไปเรียน ทำให้ฉันช่วยงานได้ก็แค่ตอนช่วงที่ไม่มีเรียนเท่านั้น ส่วน ไอ้เจเหรอ นู้นนน มันก็เรียนยาวๆไป ทั้งวันธรรมดา และวัน เสาร์อาทิตย์ที่ต้องไปเรียนพิเศษ มันช่วยได้ก็แค่ตอนเย็นหลังเลิกเรียนเท่านั้น และฉันก็เข้าใจ ว่ามันคงเหนื่อยเอาการเลยล่ะ ..ด้วยกำลังคนที่น้อย กับ ปริมาณลูกค้าที่เริ่มเยอะกว่าแต่ก่อน ทำให้ช่วงนี้ร้านฉันยุ่ง เอามากๆ

แล้วที่ประกาศหาคนงานไป ก็ยังไม่มีมาสมัครซักราย เพราะฉะนั้น นายนี่แหละ คือความหวังในการแก้ปัญหา ทุกๆอย่างของฉันในตอนนี้

นอกจากจะช่วยงานร้านฉันแล้ว ถ้าเขาทํางานกับฉันทุก วัน..ฉันยังจะได้บิ้วอารมณ์ให้เขาอินกับการร่างิ้วอย่าง เนียนๆไปด้วยระหว่างนี้ เลิศสุด แผนฉัน

“ไหนวันก่อนบอกว่าห้ามผมเข้าร้าน…

“ก็….อืม สงสาร”

“สงสาร?”

“อื้มม… ว่าแต่..นายเรียนอยู่หรือเปล่า?”

หลังจากที่ฉันถามไป เขาก็ทำท่านึก..ซึ่งฉันคิดว่า เขาจะ นึกทำไม? เรื่องแบบนี้มันตอบยากตรงไหน แต่สุดท้ายเขาก็ตอบออกมา

“อื้ม…กําลังเรียนมหาลัยอยู่..

“อ้อ..ไม่เป็นไรๆ นายเอาตารางเวลาเรียนนายมา..เดี๋ยว ฉันจะจัดตารางทํางานให้ ถึงร้านฉันจะเปิด เที่ยง ถึง 2 ทุ่ม ก็จริง แต่ว่า ช่วงคนที่มากินเยอะ ก็คือหลัง 5 โมง ช่วงนั้น นายไม่มีเรียนอยู่แล้ว โอเคเลย..แต่ว่าถ้านายเรียนเยอะ แล้วช่วยงานฉันได้น้อย..นายไม่ได้ค่าทํางาน 300 บาท นะ..ต้องหักเงิน เดี๋ยวฉันจะคํานวณอีกทีตามความเหมาะ สม..”

แต่แล้วในขณะที่ฉันเอง สรุปเสร็จสรรพให้เขา..เขาก็พูด ตอบฉันมาพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงคําถาม ถามฉันในทันที..

“นี่หมวย.. ฉันบอกแล้วเหรอ ว่าจะทำงานด้วย?

เออ นั่นสิ..ฉันต้องพูดเชิญชวนเขาก่อนนี่หว่า.. รวบรัด และด่วนสรุปไปเองแบบนี้ เดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันมีแผนการ อะไรที่จะล่อลวงให้เขามาทำงานกับฉันแน่ๆ.. อืมๆ
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ เวลาที่นายได้ใช้เงินที่นายหามา เอง มันภูมิใจกว่าขอพ่อแม่เป็นไหนๆ แล้วอีกอย่าง..นาย อยากจะซื้ออะไร ทําอะไร มันก็เป็นสิทธิ์ของนายด้วย ดีจะ ตายไป..และที่สำคัญ..นิสัยแบบนี้ ไม่มีเจ้าของร้านไหนรับ เข้าทํางานง่ายๆนะจะบอกให้..นายโชคดีแค่ไหนแล้วที่เจอ ฉัน ไม่คว้าโอกาสนี้ไป แล้วนายจะเสียใจ..

หลังจากที่ฉันเอ่ยปากไปอย่างนั้น เขาก็มองฉันอย่างใช้ ความคิด..ก่อนที่อยู่ๆ เขาก็พยักหน้าและพูดออกมาว่า..

“ก็จริง..ทุกวันนี้ ผมไปสมัครงานที่ไหน ใครๆก็ไม่รับ..ผม ต้องใช้ชีวิตวันต่อวัน..มีเงินกินข้าวมื้อต่อมื้อเท่านั้น..ส่วน เรื่องที่บ้าน..ก็จริงอย่างที่หมวยว่า ผมแบมือขอพ่อแม่อยู่ เลย แต่ว่า ผมก็แบมือขอเงินได้แค่เดือนละพันเท่านั้นเอง พ่อแม่ผมเป็นแค่ลุงป้าบ้านนอกจนๆคนนึงเท่านั้นน่ะ มีให้ เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว”

ฮะ?!!

จริงปะเนี่ย….หนึ่งพันต่อเดือน กับการใช้ชีวิตในเมือง หลวงแบบนี้เนี่ยนะ?
ทําไมชีวิตเขาดูลำบากขนาดนั้นนะ..น่าสงสารจัง

เอ๊ะ หรือว่าเขาจะเป็นมิจฉาชีพกัน..

“แต่หมวย ไม่ต้องสนใจหรอก อีกอย่าง ผมมันก็แค่…คน แปลกหน้าที่ผ่านมา บางทีผมอาจจะพูดให้ดูน่าสงสาร เพื่อ ให้หมวยเห็นใจเฉยๆก็ได้นะ.. อย่าหลงเชื่อคนง่ายๆเชียว ละ ”

แต่เขาพูดแบบนี้ เขาคงไม่โกหกหรอกมั้ง.. แต่ว่านะ ที่เขา บอกว่ากินมื้อต่อมื้อ แล้วทำไม ทำไม….แล้วทำไมไม่กิน ก๋วยเตี๋ยวบ้านฉัน!!!

“ใช่ ฉันไม่เชื่อนายหรอก.. คราวที่แล้วยังเมินก๋วยเตี๋ยว ร้านฉันอยู่เลย แล้วมาบอกมีข้าวกินมื้อต่อมื้อเนี้ยนะ?”

“ผมแพ้ถั่วงอกน่ะ…

ฮะ…..แต่แล้วอยู่ๆเขาก็พูดออกมาในทันที..

แพ้ถั่วงอกเนี้ยนะ? นี่เหรอ สาเหตุที่เขาไม่แตะต้องชาม นั้น
“ก็บอกฉันสิ ฉันจะได้เปลี่ยนชามใหม่ให้

แหม..ยัยหมวย แค่ตอนนั้นฉันบอกว่าจะกินแต่น้ำ ยังคิด เงินเป็นพัน..แล้วถ้าเปลี่ยนชามใหม่ คิดว่าฉันจะไม่โดนคิด เงินเพิ่มเหรอ.. อีกอย่าง..ตอนนั้นก็มีเงินอยู่แค่ ห้าสิบบาท ด้วย.. เห้ออ..ตอนแรก ก็อุตส่าห์ว่าจะกินน้ำเปล่าให้อิ่ม เพื่อให้เหลือเงินอีกสี่สิบไปกินมื้อถัดไป..ก็มาโดนขูดเลือด ขูดเนื้อซะงั้น..

แม้ว่าเขาจะพูดเหมือนกับไม่ได้เครียด ไม่ได้ซีเรียส หรือ ดราม่า..แต่สำหรับฉันแล้ว เรื่องที่เขาพูดนั้น มันทำให้ฉัน รู้สึกอดที่จะ..สงสารเขาไม่ได้

เขาคงจนจริงๆสินะ และก็.. จนกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย..

ก็ถ้าเขาบอกว่าได้เงินต่อเดือน 1พัน ก็ไม่แปลกที่เงินอยู่ 50 บาท แสดงว่าวันนั้น เขาก็ต้องเหลือเงินอยู่แค่ 5 บาท เองสินะ แล้วนี่ขนาดว่าฉันเอาเงินไปคืนแล้ว เขาก็ยังไม่รับ เลย..บางทีฉันอาจจะประเมินคนตรงหน้าฉันผิดไป ฉันไป ตัดสินเขาทั้งๆที่ฉันเองไม่ได้รู้ที่มาที่ไปอะไรเลย
แย่จริงๆ..แกนี่มันนิสัยไม่ดีเลยจริงๆ ไอ้เหมยลี่

และด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ ทำให้ฉันตัดสินใจโพล่งปาก ออกไปทันที..

“ถ้าอย่างนั้น ฉันรับนายเข้าทำงานแล้ว…พรุ่งนี้นายก็มา เริ่มงานได้เลยนะ..หลังจากนี้ไม่ต้องหาอาหารกินเอง แล้ว..เดี๋ยวฉันจะบอกแม่ให้ทำแบบไม่ใส่ถั่วงอกให้..ถ้า นายได้กินก๋วยเตี๋ยวบ้านฉันแล้วนายจะติดใจ..ถึงไม่ใส่ ถั่วงอกก็อร่อย.. ฉันรับประกันเลย..^ A

“แล้วนี่ วันนี้นายกินข้าวยัง

ทันทีที่ฉันเห็นเขาส่ายหน้าไปมาอย่างช้าๆ…ฉันก็เลย ตัดสินใจ ล้วงไปหยิบเงินในกระเป๋าของฉันเป็นแบงค์สีแดง สองใบ ก่อนที่จะยัดใส่ในมือของผู้ชายตรงหน้าด้วยความ เห็นใจ และเอ่ยปากพูดต่อ

“งั้น อ่ะ เอานี่ไป วันนี้ห้ามกินน้ำเปล่าเป็นอาหารอีกขนาดต้นไม้ยังต้องการปุ๋ยเลย แล้วนายเป็นคนนะ จะกินแต่ น้ำอย่างเดียวไม่ได้! เข้าใจมั้ย….ไปหาอะไรกินอร่อยๆ ที่มี ประโยชน์ด้วยล่ะ!”

แต่แล้ว เงินที่ฉันยื่นไปให้ เขาก็ยื่นกลับมาใส่ในมือฉัน เหมือนเดิม

ก่อนที่เขาจะพูดอะไรบางอย่างตอบกลับมาที่ทำให้ฉัน ชะงักไปในทันที

“ถึงผมจะจน..แต่ผมก็ไม่ใช่ขอทาน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ