รักคุณผ่านเวลาและพื้นที่

ตอนที่ 1 แรกตนในครอบครัวชาวนา



ตอนที่ 1 แรกตนในครอบครัวชาวนา

ณ หมู่บ้านหวง ตำบล แคว้น กั่ว บนเตียงเก่าผุพังหลังหนึ่ง ดวงตาคู่หนึ่งพลันเบิกโพลงขึ้น

สภาพทรุดโทรมที่ปะทะเข้ามาในม่านสายตานั้นทำให้คน ที่นอนอยู่บนเตียงตกตะลึงในทันใด รับผุดลุกขึ้นนั่ง ยังไม่ทัน สำรวจโดยรอบให้ชัดเจนก็รู้สึกปวดตุบๆ ที่ศีรษะ ทำให้เธออด ที่จะยืนหัวคิ้วไม่ได้

ที่นี่คือที่ไหนกัน แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมถึงได้ ปวดหัวแบบนี้ล่ะ เพิ่งคิดได้เท่านี้ก็มีเรื่องราวมากมายผุดขึ้นมา ในสมองของเธออย่างฉับพลัน ทำเอาเธอแทบจะทนไม่ไหวจน สลบไปอีกครั้ง ครู่หนึ่ง ความทรงจำสองส่วนในสมองของเธอ ถึงได้หลอมรวมจนสงบนิ่งลง เธอในฐานะนักฆ่ามือพระกาฬใน โลกมืดของศตวรรษใหม่ ได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเพิ่งเชี่ยน โยวหญิงสาวครอบครัวชาวนาคนนี้

พูดถึงเพิ่งเขียนโยวคนนี้นับเป็นหญิงสาวที่โชคดีมากคน หนึ่ง แม้นางจะเกิดในครอบครัวยากจน แต่พ่อแม่รักใคร่ ปรองดอง มีพี่ชายด้วยกันสองคน น้องชายอีกหนึ่งคน ในฐานะ เด็กสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว นางจึงเป็นดั่งสมบัติล้ำค่า ของครอบครัวมาโดยตลอด ในยุคสมัยที่ให้ความสำคัญกับบุรุษมากกว่าสตรีนี้ เรียกได้ว่านางเติบโตมาอย่างไข่ในหิน งานหนักในท้องนาไม่เคยให้นางทำ ในบ้านมีอะไรอร่อยก็จะ ให้นางกินก่อน ผิดก็ตรงที่เอาใจนางมากเกินไป ทำให้นางมี นิสัยตะกละเกียจคร้าน ชอบเปรียบเทียบ สองสามวันก่อนเห็น หลิวลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ใส่ชุดลายดอกตัวใหม่ก็อยากได้บ้าง แต่เพราะครอบครัวยากจน ไหนเลยจะมีเงินเหลือเก็บมาซื้อ เสื้อผ้าให้นาง สุดท้ายเด็กสาวก็อาละวาดจนแอบหนีขึ้นเขาไป เอง หวังว่าจะเจอของดีเพื่อเอามาแลกเงินไปซื้อเสื้อผ้า แต่ปกติ นางนั้นไม่เคยทำงาน ไม่รู้ว่าที่ไหนคือที่ไหน เพิ่งจะมาถึงบนเขา ไม่ทันระวังก็ล้มลงหัวกระแทกพื้น โชคดีที่ชาวบ้านหมู่บ้าน เดียวกันขึ้นเขาไปพบเข้าจึงรีบนำตัวส่งมาที่บ้าน นางถึงรอด จากการถูกสัตว์ร้ายคาบไปได้ ไม่คิดว่านางจะตกใจขนาดหนัก ทำให้เสียชีวิตลงโดยฉับพลัน ในตอนที่วิญญาณหลุดลอยไป นั้น เพิ่งเชี่ยน โยวก็ทะลุเข้ามาอยู่ในร่างของนางแล้ว

หลังจากเข้าใจต้นสายปลายเหตุทั้งหมดเพิ่งเชี่ยนโยวก หัวเราะออกมา คนในครอบครัวหรือ เป็นคำที่น่าอัศจรรย์ พันลึกนัก! ชาติที่แล้วตั้งแต่จำความได้เธอก็ฝึกวิชา ลอบฆ่าคน อยู่ในหน่วยลับแล้ว ทุกวันไม่เคยกล้าหลับเต็มอิ่ม เพราะกลัวว่า คนในครอบครัว ข้างกายนั้นจะลอบทำร้าย แล้วตายไปทั้งๆ ที่ ยังหลับฝัน ภายหลังเวลาออกไปปฏิบัติภารกิจก็นึกอิจฉา ครอบครัวของคนอื่น แต่พอได้เห็นพี่ชายน้องชายทำร้ายกันเอง พ่อลูกไม่ลงรอยกัน พี่สาวน้องสาวใช้มารยาแก่งแย่งกันมาก เข้า เธอก็ค่อยๆ หมดความสนใจกับการมีคนในครอบครัว

“อยากรู้นักว่าคเขียนโยวพูดพิมพ์เสียงเบา

“พี่ พี่สาว สะใภ้หวังข้างบ้านให้ขนมมาชิ้นหนึ่ง ช้าอดใจ ไม่ยอมกิน เพื่อที่จะเอากลับมาให้พี่เลยนะ” หลังจากเสียงร้อง ตะโกนดังขึ้น เด็กชายอายุประมาณห้าหกขวบคนหนึ่ง ก็ทะยาน กายเข้ามา ในมือของเขาประคองขนมที่นางไม่รู้จักชื่อชิ้นหนึ่ง ยื่นมาที่เบื้องหน้าเพิ่งเชี่ยนโยว แล้วมองนางตาปริบๆ

“ดี” เสียงเพิ่งเชี่ยนโยวหัวเราะ พลางลูบหัวเด็กน้อยแล้ว เบา “พี่ไม่กินหรอก เจี่ยเอ๋อร์กันเถอะ”

“พี่หัวแตก ท่านพ่อกับท่านแม่บอกว่าต้องบำรุงให้มากๆ ขนมของสะใภ้หวังเจียเอ๋อร์ไม่เคยเห็นมาก่อน แน่นอนว่าจะ ต้องอร่อยที่สุด กินแล้วพี่จะได้ไม่ปวดหัวอีก” พูดจบเด็กตัวน้อย ก็ยื่นขนมไปที่ปากของนาง ราวกับว่ากำลังมอบสมบัติล้ำค่าให้ อย่างไรอย่างนั้น

ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในจิตใจของเพิ่งเรียน โยว นางหยิบขนมชิ้นเล็กๆ เข้าปาก เคี้ยวไปพลางพูดขึ้นว่า “อืม อร่อย! แต่หวานไปหน่อย พี่กินไม่หมดหรอก เจี่ยเอ๋อร์ช่วย พี่กันหน่อยนะ

“อือ ได้สิ” เด็กตัวน้อยรับคำอย่างเชื่อฟัง หยิบขนมขึ้นมา

กินค่าเล็กๆ

“อร่อยจังเลย!”

เห็นท่าที่พึงพอใจของเด็กชายตัวน้อยแล้ว เพิ่งเรียนโยวกั หัวเราะออกมา รอยยิ้มนั้นทำให้บ้านหลังเล็กทรุดโทรมหลังนี้พลันสว่างไสวขึ้น

ในตอนนั้นเอง บานประตูผุพังด้านนอกก็ถูกเปิดออก ชาย หญิงอายุประมาณสามสิบกว่าปีคู่หนึ่งเดินเข้ามา เสื้อผ้าที่พวก เขาสวมใส่น่าจะใส่มาเป็นเวลานานแล้ว ถึงได้มีรอยปะชุนอยู่ ไม่น้อย ผู้ชายร่างกายสูงใหญ่แบกจอบอันหนึ่ง ดูก็รู้ว่าเป็น หนุ่มบ้านนาเอาการเอางาน ส่วนหญิงสาวผู้นั้นรูปร่างเล็ก บอบบาง ในมือถือเคียว อาจเพราะเพิ่งกลับมาจากที่นา ทำให้ รองเท้าของทั้งสองจึงเต็มไปด้วยดินเลน

“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกลับมาแล้ว” พอเด็กตัวน้อย เห็นก็รีบวิ่งเข้าไปร้องตะโกนตรงหน้าคนทั้งสอง

“พี่สาวฟื้นแล้ว ข้าก็ดูแลเป็นอย่างดีเลยขอรับ

“โยวเอ๋อร์ฟินแล้วหรือ” หญิงสาวพูดด้วยความยินดีพลาง

ก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นชายหนุ่มก็เดินตามเข้ามา เมื่อเห็นเพิ่งเรียนโยวนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าก็พลันฉายเป็นความ ยินดี

“โยวเอ๋อร์ ลุกขึ้นมาทำไมกัน นอนลงก่อนเถิด ท่านหมอบ อกว่าครั้งนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องนอนรักษาตัวบนเตียง ให้ดี เจ้าไม่ต้องกังวลนะ ไว้เสร็จงานรอบนี้แล้วพ่อของเจ้าจะ ออกไปหางานรับจ้างทำ พอได้เงินค่าจ้างมาจะได้เอามาซื้อชุด ใหม่ให้เจ้า

“ใช่แล้วๆ ไว้พ่อไปรับจ้างทำงานได้เงินมา จะซื้อชุดใหม่ ให้เจ้าก่อนเลย” ชายหนุ่มพูดสมทบตาม
เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ของสองสามีภรรยา อีกทั้งได้ฟังคำพูดพร่ำไม่หยุดนี้ ความรู้สึกประหลาดในใจเพิ่ง เขียนโยวก่อตัวขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เจ้าค่ะ” นางเอนกายนอนลงอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเห็นท่าที่เชื่อฟังของลูกสาวแล้ว สองสามีภรรยาต่างก็ ตกตะลึง ปกติลูกสาวเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย น้อยครั้งนัก ที่นางจะเชื่อฟังเช่นนี้ กระนั้นก็พลันนึกได้ว่าอาจเป็นเพราะครั้งนี้ บาดเจ็บรุนแรง ยังไม่หายดี หัวใจก็พลันเจ็บปวด จึงรีบพูดว่า

“โยวเอ๋อร์นอนให้สบายเถอะนะ แม่จะไปทำกับข้าวให้เจ้ากิน

“ข้าจะไปขอยืมไข่ไก่สองฟองจากสะใภ้หวังข้างบ้าน ไว้ให้ เจ้าทำไข่ตุ๋นให้โยวเอ๋อร์กิน” ชายหนุ่มรีบพูดขึ้น

นอนฟังคำพูดที่อ่อนโยน ความอ่อนล้าก็ค่อยๆ คืบคลาน เข้ามาเพิ่งเชี่ยนโยวเข้าสู่ห้วงฝันอันแสนหวาน ในที่สุด

แล้วเมิ่งเชี่ยน โยวก็ถูกเสียงร้องยินดีหนึ่งปลุกให้ตื่นอีก

พวกเรามีเนื้อกินแล้ว”

ครั้ง

“พี่ใหญ่ พี่รอง ไก่ป่าที่พวกท่านจับได้ตัวใหญ่จัง” เสียง เด็กตัวน้อยเต็มเปี่ยมไปด้วยความปีติ

“เสียนเอ๋อร์ เออร์ พวกลูกบาดเจ็บหรือไม่” หญิงสาวถาม

อย่างเป็นกังวล
“ไม่ขอรับ ไก่ป่าตัวนี้ติดกับดักที่พวกเราวางไว้ พวกเรา เลยจับมา ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวลนะขอรับ” เสียงเด็กหนุ่มคน หนึ่งตอบกลับ

“น้องสาวเป็นอย่างไรบ้าง” เด็กหนุ่มอีกคนถามชื้น

เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ เพิ่งเชี่ยนโยวก็ลุกขึ้นจากเตียง หยิบ เสื้อมาคลุมร่างแล้วค่อยๆ เดินออกมาถึงหน้าประตูบ้าน

ที่บริเวณลานบ้านนั้นมีเด็กหนุ่มสองคนที่อายุไล่เลี่ยกันยืน อยู่ คนที่ตัวสูงกว่านั้นสวมชุดสีน้ำเงิน หัวไหล่ซ้ายมีรอยปะชุน ขนาดใหญ่ สวมรองเท้าผ้าขาดวิ่นจนเผยให้เห็นหัวแม่เท้า ส่วน อีกคนนั้นเตี้ยกว่า ร่างกายผอมแห้ง สวมชุดสีน้ำตาล กางเกง

บริเวณหัวเข่ามีรูขนาดใหญ่ เมื่อเห็นเพิ่งเรียนโยวเดินออกมา ทั้งสองคนก็รีบวิ่งไปตรง หน้าของนางทันที เด็กหนุ่มที่ตัวใหญ่กว่านั้นยกไก่ป่าในมือขึ้น ยิ้มพลางพูดว่า “น้องสาว ไก่ป่านี้ประเดี๋ยวจะให้ท่านแม่เอาไป ตื่น เก็บไว้ให้เจ้าค่อยๆ กิน ไม่นานแผลที่หัวของเจ้าก็จะหาย กลับมาสวยสดใสเหมือนเดิมแล้ว”

เด็กหนุ่มที่ตัวเตี้ยกว่ายืนเกาหัวไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่ส่งรอยยิ้มยินดีให้กับเพิ่งเชี่ยนโชว

“พอเถอะ น้องสาวของพวกเจ้าเพิ่งฟื้น ให้น้องพักผ่อนเสีย ก่อน เรียนเอ๋อร์ เออร์พวกเจ้าเอาไก่ป่าไปถอนขน เจียเอ๋อร์ ลูกอยู่เป็นเพื่อนพี่เขา

“ขอรับ” เด็กทั้งสามรับคำพร้อมกัน แต่ละคนแยกย้ายกันไปทํางาน

เพิ่งเชี่ยนโยวมีเด็กตัวน้อยอยู่เป็นเพื่อน นางนั่งเท้าคางอยู่ บนธรณีประตู มองภาพตรงหน้าทั้งหมดอย่างเงียบๆ

บ้านหลังน้อยที่ดูทรุดโทรม คนในครอบครัวที่แสนอบอุ่น แสงแดดอุ่นยามโพล้เพล้ คล้ายกับว่าทั้งหมดนั้นจะเป็น สัญญาณบอกว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี “พี่ใหญ่ พี่รอง พวกพี่ จัดการไก่เรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นชิ้นๆ นะ ข้าจะสอนวิธีทำแบบ ใหม่ให้ท่านแม่” จู่ๆ เพิ่งเขียนโยวก็หันไปพูดกับพี่ชายทั้งสอง คนที่กำลังจัดการกับไก่

เมื่อพี่ชายทั้งสองได้ฟังแล้วก็จ้องมองนางอย่างตกตะลึง นานครูใหญ่ก็ยังไม่ได้สติคืนกลับมา

“เป็นอะไรไป ไม่ได้หรือเจ้าคะ” เพิ่งเชี่ยนโยวถาม

“เปล่า ปกติแล้วน้องสาวไม่ชอบการทำอาหารมากที่สุด ไม่ใช่หรือ พอท่านพ่อท่านแม่จะสอนเจ้าทำอาหารก็ร้อง โวยวาย วันนี้เกิดอะไรขึ้นกัน ยังจะสอนท่านแม่ทำอาหารอีก เจ้าก็ทําเป็นด้วยหรือ” เพิ่งเรียนถามขึ้นด้วยความสงสัย

“จู่ๆ ข้าก็แค่เกิดอยากจะทำขึ้นมา อยากทดลองดูเท่านั้น เช่นนี้ก็ไม่ดีหรือเจ้าคะ” เพิ่งเรียนโยวเอียงคอถามอย่างซุกซน

เพิ่งเรียน เพิ่งก็ไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของน้องสาวมา ก่อน เช่นนั้นก็พลันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“พริต!” เพิ่งเขียนโยวเห็นท่าที่นั่งอึ้งจนดูตลกของทั้งสอง คนแล้ว ก็กลั้นไม่ไหวหลุดหัวเราะออกมา

“น้องสาว เวลาเจ้าหัวเราะก็สวยจริงๆ” เพิ่งพูดอย่าง ประหลาดใจ

“อะไรกัน เดิมทีน้องสาวของพวกเราก็สวยอยู่แล้ว เพิ่ง เสียนพูดกับเพิ่งอย่างไม่สบอารมณ์

“พอแล้ว พวกเจ้านะ ในเมื่อน้องพูดเช่นนี้แล้วพวกเจ้ายัง ไม่รีบลงมืออีกหรือ” หญิงสาวพูดกับลูกชายทั้งสองคน

“ท่านแม่ ที่บ้านของเรามีเห็ดหอมหรือไม่เจ้าคะ” เพิ่งเชี่ยน

โยวถาม

“เห็ดหอม อะไรคือเห็ดหอมหรือ” หญิงสาวมองเพิ่งเขียน

โยวด้วยความสงสัย

“ข้าก็ไม่รู้ว่าคืออะไร เพียงแต่เคยได้ยินคนอื่นเขาพูดกัน เท่านั้น นึกว่าที่บ้านของเราจะมี” เพิ่งเชี่ยนโยวแลบลิ้นแปลบๆ พูดออกมาอย่างเก้อเขิน

“อ๋อ” หญิงสาวรับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก บางครั้งที่ลูกสาว ของนางติดตามพ่อเข้าไปในเมือง อาจจะไปได้ยินคนอื่นพูดมา เมื่อก่อนยังดีหน่อย ทว่าตอนนี้พอป่วยก็นึกขึ้นได้ พอคิดได้ แบบนี้หญิงสาวก็ทอดถอนใจ ปีนี้น้ำน้อย การเก็บเกี่ยวในที่ นาน้อยไม่ว่า แม้แต่ผักที่ตัวเองปลูกไว้ก็เติบโตไม่ดี

“ช้ากลับมาแล้ว!” ชายหนุ่มตักน้ำมาหนึ่งหาบ ในมือถือผักสดหนึ่งหัว เดินโงนเงินเข้ามาในบ้าน

“ตอนข้าตักน้ำนั้นเจอย่ารองข้าช่วยหาบน้ำให้นางถึงหนึ่ง นางเลยยัดผักสดให้ข้าเอามาให้ได้ ข้าจะไม่เอา แต่นางก็วิ่ง ตามมาเสียแล้ว ขากลัวว่านางจะล้ม เช่นนั้นจึงจำต้องรับเอามา เสียแล้ว” ชายหนุ่มเดินไปพลางอธิบายไปพลาง

“ย่ารองอยู่ตัวคนเดียวไม่ง่ายเลยนะ ต่อไปช่วยอะไรได้ ต้องช่วย และห้ามรับสิ่งของมาเด็ดขาด เสียนเอ๋อร์ เออร์จับ ไก่ป่ามาได้ อีกเดี๋ยวค่อยเอาเนื้อไก่ไปให้นาง

“ขอรับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ