รักคุณผ่านเวลาและพื้นที่

ตอนที่ 6 ขึ้นเขาอีกครั้ง



ตอนที่ 6 ขึ้นเขาอีกครั้ง

เดินเข้าประตูใหญ่มา เพิ่งเชี่ยนโยวเห็นเตาไฟยังเผาไหม้อยู่ เดิมที่เพิ่งชื่อกลับมาจากที่นา เห็นลูกทั้งสองคนไม่อยู่บ้าน จึง ให้เพิ่งออกไปหา ส่วนตัวเองทํากับข้าวในบ้าน เพิ่งหาอยู่ เป็นนาน ถึงได้ยินป่าหวังบอกว่าสองพี่น้องขึ้นไปบนเขา พอ เพิ่งบอกเพิ่งซื้อก็ตกใจร้อนรน ไม่ทันได้ดับไฟก็รีบออกไปตาม หาทันที

“โยวเอ๋อร์ เหนื่อยใช่ไหม นั่งพักก่อน เกี่ยวกับข้าวก็เสร็จ แล้ว” เพิ่งซื้อพูดจบบอกให้เพิ่งเอาโต๊ะเล็กมาตั้งกลางบ้าน วางถ้วยตะเกียบให้เรียบร้อย ส่วนตัวเองนั้นก็ยกข้าวเที่ยงเข้า มา

เพิ่งเชี่ยนโยวมองดู นอกจากข้าวต้ม แป้งวอโถว [1] แล้ว บนโต๊ะยังมีผักป่าไม่รู้ชื่อเพิ่มมาอีกจานหนึ่ง และไข่ไก่ที่เหลือ ตอนเช้าก็ย่อมมาปรากฏอยู่ในถ้วยของนาง นางหยิบตะเกียบ ขึ้น แบ่งไข่ไก่เป็นสี่ส่วน วางไว้ในถ้วยของทุกคน คนละชิ้น เพิ่ง เขียนโยวอ้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พอเห็นท่าที่แน่วแน่ของเพิ่งเซียน โยวแล้ว คนที่เหลือทั้งสามจึงคืบไข่ไก่ใส่เข้าปากบ้าง หลังกิน ข้าวเสร็จ เพิ่งชื่อและเพิ่งเตรียมจะไปที่นา

“ท่านแม่ ตอนบ่ายข้าอยากให้พี่รองตามข้าขึ้นไปบนเขา ด้วย” เพิ่งเขียนโชวพูดออดอ้อนกับเม็งชื่อที่กำลังจะออกไป
เพิ่งชื่อตื่นตะลึง

“ข้าเจอของดีบนเขา อยากให้พี่รองช่วยเอามา” เห็นเพิ่ง ชื่อตกตะลึง เมิงเซียน โยวก็รีบอธิบายขึ้น

“ของดีอะไรหรือ” เพิ่งถาม

“ขึ้นไปบนเขาแล้ว ท่านพี่ก็จะรู้เอง” เพิ่งเชี่ยน โยวพูด

โยกโย้

เพิ่งชื่อหัวเราะ ตั้งแต่เด็กคนนี้ฟื้นขึ้นมา นางก็ซุกซนขึ้นไม่

น้อยเลย

“ไปเถอะ ระวังตัวและรีบกลับมานะ” เพิ่งซื้อกำชับ

“รู้แล้วขอรับ | เจ้าค่ะท่านแม่” ทั้งสามตอบ โดยพร้อม

เพรียง

เพิ่งชื่อรีบร้อนเดินจากไป “พี่รอง เอาตะกร้าสะพายหลัง ของเราออกมา แล้วก็หาพลัวเล็กๆ ไปอีกสองสามวัน” เพิ่ง เขียนโยวก็พูดกับเมิ่งขึ้น

เพิ่งเดินไปด้านหลังห้องครัว หยิบตะกร้าสะพายหลัง ขนาดใหญ่เล็กออกมาสองสามอัน จากนั้นหาพลัวเล็กมาได้ สองอัน วางไว้ตรงหน้าเพิ่งเขียนโยว พูดว่า “น้องสาว บอกพี่มา ว่าอยู่ตรงไหน พี่ไปแบกกลับมาเองก็ได้ เจ้ากับน้องเล็กพักผ่อน เถอะ”

“ไปด้วยกันเถอะพี่รอง ข้าจะได้เดินออกกำลังไปด้วย

“แต่ร่างกายเจ้าจะทนไหวหรือ
“พี่รองไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเรารีบไป เถอะ” นางพูดไปพลางสะพายตะกร้าไว้ที่หลัง เพิ่งที่ไม่มีทาง เลือก จึงได้แต่หยิบตะกร้าใบใหญ่ที่สุดสะพายไว้ที่หลัง และให้ เพิ่งเงี่ยสะพายอันเล็ก หลังจากนั้นก็หยิบพลัวเล็ก แล้วทั้งสาม คนก็มุ่งหน้าเดินไปยังภูเขา

เพิ่งเชี่ยน โยวเดินมาถึงริมพื้นที่มีมันฝรั่ง นางก็วางตะกร้า สะพายหลังลง ขุดมันฝรั่งที่ฝังไว้เมื่อตอนเช้าออกมาทั้งหมด แล้วพูดกับเมิ่งว่า “พี่รอง อย่างไรเล่า มันฝรั่ง

“มันฝรั่ง” เพิ่งเอามือหยิบขึ้นมาดูอย่างแคลงใจ ถามขึ้น ว่า “ของสิ่งนี้มีประโยชน์อะไรหรือ

“กินได้ไง!”

“พวกเราไม่เคยเห็นของสิ่งนี้มาก่อน เจ้ารู้ได้ยังไงว่ากินได้ อีกอย่าง เจ้ารู้ได้ยังไงกันว่ามันเรียกว่ามันฝรั่ง”

เพิ่งเขียนโยวพลันตกใจ นางมัวแต่ดีใจจนลืมไปว่าตัวเอง ก็ไม่เคยเห็นมันฝรั่งมาก่อน แล้วจะพูดว่ายังไงดีล่ะ

“ข้าเข้าเมืองไปกับท่านพ่อ ถึงได้เคยเห็นพ่อค้าถิ่นอื่นเอา

มาขาย ตอนนั้นข้าเพ่งพินิจอยู่นาน ก็เลยจำได้น่ะ” นางตอบ ออกมาอย่างสมองไว

“อ่อ” เมื่อได้ยินเพิ่งเขียนโยวพูดแบบนี้ เพิ่งจึงคลาย ความสงสัยลง น้องสาวบอกว่าเคยเห็นก็จะต้องเคยเห็น น้อง สาวเป็นคนฉลาด นางจะต้องจำไม่ผิดแน่
เมื่อเห็นเพิ่งที่ไม่ถามต่อ เพิ่งเขียนโยวจึงถอนหายใจออก

มาโล่งอก

“ถ้าเช่นนั้นเราเริ่มขุดกันเถอะ เหมือนอย่างนี้นะ ต้อง ค่อยๆ พยายามอย่าดเสียล่ะ” เมิ่งเชี่ยนโยวพูดสาธิต

เห็นนางขูดออกมาหนึ่งลูก เพิ่ง ฉีก็เก็บรายละเอียดได้ แล้ว ก็ลงมือขุดบ้าง เพิ่งเจียเองก็ทำตามอย่างครูพักลักจำ แม้จะมี พลั่วเป็นเครื่องมือ แต่ดินบนเขานั้นก็แข็งมากเกินไป เวลาผ่าน ไปพักใหญ่ เพิ่งจะขุดได้แค่ครึ่งตะกร้า

“น้องสาว เจ้ากับน้องเล็กพักก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่รองขุดเอง เห็นเพิ่งเชี่ยนโยวเหนื่อยจนหายใจหอบ เพิ่งจึงเอ่ยปากปราม

“อือ” ครั้งนี้เพิ่งเชี่ยนโยวไม่ดึงดั้นอีกต่อไป นางลุกขึ้นไป นั่งบนก้อนหินใหญ่ข้างๆ

พักได้ครู่หนึ่ง ก็พูดกับเมิ่งว่า “พี่รอง วันนี้ขุดเท่านี้เถอะ

“ได้ยังไงกัน ถ้าไม่รีบขุดออกมาแบกไปเก็บไว้ที่บ้าน แล้ว เกิดมีคนขุดไปจะทำยังไง” เมิ่งขุดไปพลางตอบไปพลาง เดิมที่ไม่รู้ก็ช่างเถอะ ตอนนี้รู้แล้ว เขาจะต้องรีบแบกเอากลับ บ้าน ของกินเยอะแบบนี้ คนในบ้านจะได้ไม่ต้องทนหิวอีกต่อไป แล้ว

“คนที่นี่ไม่มีใครรู้จัก พี่จะกังวลอะไรกัน” เห็นท่าทางคลั่ง สมบัติของเขา เพิ่งเขียนโยวจึงอดไม่ได้หัวเราะออกมา

เพิ่งฉียผม หัวเราะออกมาอย่างเก้อเขิน พอได้ยินว่ามันฝรั่งกินได้ก็ดีใจจนลืมตัว ไหนเลยจะคิดถึงข้อนี้

“ข้ากับน้องเล็กเจอพืชพรรณผืนหนึ่งทางโน้น เหมือนข้า จะเคยเห็น พวกเราเด็ดกลับบ้านกันดีไหม” มีบทเรียนจากเมื่อ ครู่แล้ว เพิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่กล้าพูดว่านั่นคือนั่งฉีก มีคุณสมบัติ เป็นยาสมุนไพรอีก และก็กลัวเพิ่งจะไม่เห็นด้วย จึงต้องพูด โกหก

เพิ่งหน้าแดง รีบพยักหน้า น้อยครั้งที่น้องสาวจะใช้น้ำ เสียงออดอ้อนแบบนี้พูดกับพวกเขา เขาฟังแล้วเขินอายทำตัว ไม่ถูก

ทั้งสามคนเดินตามสัญลักษณ์ที่ทำไว้มาถึงบริเวณต้น นั่งฉีก เห็นพืชพรรณผืนกว้าง เพิ่งจึงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “น้องสาว นี่คืออะไรหรือ กินได้หรือไม่”

“ข้าก็ไม่รู้ ครั้งก่อนที่ข้ากับพ่อไปซื้อยาในเมืองให้แม่ เห็น คนขายมันอยู่ในร้านยา น่าจะเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง เพิ่งเรียน โยวแสร้งพูดอย่างไม่แน่ใจ

“จริงหรือ สิ่งนี้เอาไปขายได้หรือ” เพิ่งกล่าวด้วยความ

ยินดี

“ข้าก็ไม่รู้ พวกเราลองเก็บไปดูก่อน หากขายใต้ พวกเรา ค่อยเอากลับบ้านไปทั้งหมด

“ได้ๆๆ” เพิ่งพยักหน้าเต็มแรง แต่ต้องทำอย่างไรล่ะ ต้องชุดออกมาหรือไม่
“ข้าเห็นคนนั้นหยิบส่วนใบกับดอก พวกเราก็เด็ดแค่ไ กับดอกเถอะ แต่ว่า จะต้องสมบูรณ์นะ ห้ามเด็ดเด็ดขาด ข้า ได้ยินหลง ร้านยาบอกว่าใบกับดอกของคนๆ นั้นมีบางส่วน เสียหาย ให้เงินเขาน้อยลงไปตั้งเยอะ

เพิ่งพยักหน้าหมึกหงัก

“เราแยกเก็บใบกับดอกเถอะ เก็บใบไว้ในตะกร้าของข้า ส่วนดอกไว้ในตะกร้าน้องเล็ก น้ำหนักไม่มาก พวกเราน่าจะ แบกไหว”

“ตกลง” พูดแล้วก็ทำ ทั้งสามคนลงมือทำงานพร้อมกันอีก

ครั้ง

งานนี้สบายกว่าขุดมันฝรั่งมาก ไม่นานเท่าไหร่ ทั้งสามคน ก็เด็ดได้เต็มตะกร้าทั้งสองใบ

“เอาล่ะ พี่รอง ได้พอประมาณแล้ว พวกเราเด็ดเท่านี้ก่อน เถอะ หากเด็ดมากไป พวกเราก็เอากลับไปไม่ไหว” เพิ่งเซียน โยวพูดกับเม็ง ทีเด็ดอย่างขันแข็ง

เพิ่งมองดูตะกร้าที่เต็มแน่นแล้วพูดว่า “ข้าเดินเร็ว จะเอา กลับไปที่บ้านก่อนรอบหนึ่ง เจ้ากับน้องเล็กพักก่อน รอช้ากลับ มาพวกเราค่อยเด็ดอีกรอบ”

เห็นท่าทางคลังสมบัติของเพิ่งนี้แล้ว เพิ่งเรียนโยวก็พูด หยอกล้อขึ้น “พี่รอง เรายังไม่รู้เลยว่าจะขายได้หรือไม่ เด็ดไป เยอะขนาดนี้ ถ้าวางไว้แล้วเสียจะทำยังไง
เพิ่งนิ่งอึ้ง ขยี้หัว หัวเราะเก้อเขินแล้วพูดว่า “พี่ใจร้อนเกิน

ไป น้องสาวเจ้าพูดถูกต้องแล้ว” “งั้นพวกเรากลับเถอะ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน คิดจะเอาตะกร้า ขึ้นสะพายหลัง เพิ่งรีบเอาตะกร้าอุ้มไว้ในอกตัวเองพูดขึ้น “ข้า

แบกเอง เจ้าแบกอันเล็กของน้องเล็กเถอะ”

เพิ่งเขียนโยวมองตระกร้าสะพายหลัง “ขนาดจําลอง” ไม่รู้ ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ตะกร้าใบเล็กขนาดนี้ นางใช้มือข้าง เดียวก็ยกกลับบ้านได้แล้ว

“เจี้ยเอ๋อร์ไม่ต้องให้พี่สาวแบก เจี่ยเอ๋อร์แบกเองได้” เด็ก ตัวน้อยออกแรงแบกตะกร้าขึ้นหลัง พูดกับเพิ่งเชี่ยนโยวว่า “เจียเอ๋อร์โตแล้ว เจี๊ยเอ๋อร์ช่วยงานพี่ชายพี่สาวได้แล้ว”

มองดูเด็กตัวน้อยแบกตะกร้าสะพายหลัง เพิ่งเชี่ยนโยวก รู้สึกเจ็บแปลบพูดไม่ออก ในสมัยปัจจุบัน เด็กห้าขวบเป็นวัยที่ ไร้ทุกข์ไร้กังวล สามารถออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดพ่อแม่ ต้องขอ สิ่งของที่ตัวเองชื่นชอบ เที่ยวเล่นได้ตามใจ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ ร้องไห้โวยวาย แต่เพิ่งเลี้ยกลับรู้ความรู้จักช่วยผู้ใหญ่แบ่งเบา ภาระตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะขุดมันฝรั่งหรือเด็ดนั่งฉีก เด็กตัว น้อยไม่เคยบ่นเหนื่อยสักแอะ

นางลูบหัวเด็กตัวน้อยพูดว่า “ก็ได้ ถ้าเจี้ยเออร์เหนื่อยก็ บอกพี่นะ พี่จะช่วยเจ้าเอง

“อือ” พยักหน้ารับคำอย่างรู้ความ

เพิ่งเดินนำไปยังพื้นที่มันฝรั่งก่อน ยกตะกร้าใบใหญ่แบกขึ้นที่หลัง กอดตะกร้าอีกใบกำลังจะมุ่งหน้ากลับ

“พี่รอง ช้าก่อน” เมิ่งเซียน โยวร้องเรียก

เพิ่งหันหน้าไปด้วยความงุนงง

“พี่รอง พี่จะแบกลงเขาแบบนี้หรือ หากเจอคนในหมู่บ้าน ถามพี่จะทำยังไง” เพิ่งเชี่ยน โยวไปที่ตะกร้า ใบใหญ่ร้องถาม

“เอ่อ…” เขาขยี้หัว

“พวกเราหากิ่งไม้แห้งวางไว้ข้างบนก่อนเถอะ หากคนอื่น ถาม พี่ก็บอกว่าพาพวกเราสองคนขึ้นมาเก็บฟันบนเขา เห็น ใบไม้และดอกไม้สวยๆ อดใจไม่ไหวเด็ดเก็บกลับมา

“ตกลง”

เพิ่งวางตะกร้าลง แล้วเก็บกิ่งไม้แห้งรอบๆ หนึ่งหอบ ใหญ่ วางทับไว้ด้านบนตะกร้าอย่างแน่นหนา สามพี่น้องถึง ค่อยๆ เติมจากเขาลงมา แม้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว แต่ช่วงกลางคืนในฤดูร้อนมาช้า คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ฉวย โอกาสมีลมฤดูร้อนที่เย็นสบายยังคงทำงานอยู่ในที่นา มีบาง คนเลิกงานเร็ว แบกจอบเดินทางเล็กกลับบ้าน บางครั้งเจอกับ คนที่ยังทํางานในท้องนาก็ร้องตะโกนทักทาย

เพิ่งเชี่ยน โยวเดินไปพลางชื่นชมกับชีวิตที่สงบสุขนี้ไป พลาง เธอไม่เคยได้มีเวลาผ่อนคลายแบบนี้เลย ตั้งแต่จําความ ให้เด็กอย่างพวกเธอทั้งห้าสิบคนก็ต้องเริ่มฝึกฝนในหน่วยลับ แล้ว พอโตขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเจอกับการถูกคัดออกที่โหด** ยม ทุกช่วงระยะเวลาจะต้องมีเด็กถูกเพื่อนร่วมทีมฆ่าตาย กระทั่งอายุได้สิบสี่ปี เด็กที่เธอฆ่าไปเหลืออยู่เพียงห้าคน และ ถูกปล่อยออกมาจากหน่วยลับนั้น เวลาปฏิบัติภารกิจ เธอยิ่งไม่ กล้าประมาทเลินเล่อ หากชะล่าใจเพียงเล็กน้อยก็อาจจะหมาย ถึงชีวิตต้องหาไม่ กระทั่งตอนที่วิญญาณหลุดลอยนั้น เธอกลับ รู้สึกยินดีที่ในที่สุดก็หลุดพ้นแล้ว ไม่คิดว่าสวรรค์จะให้เธอมา เกิดใหม่ ไม่เพียงให้เธอได้มีครอบครัวที่รักใคร่ปรองดอง ยัง ให้เธอได้มีชีวิตที่ผ่อนคลายสบายอุราเช่นนี้

“โอ้ เพิ่งเรียนโยว ขึ้นเขามาอีกแล้วหรือ” น้ำเสียงดูแคลน เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังของนาง

เมื่อหันกลับไปมอง ก็เห็นหลิวลูกสาวผู้ใหญ่บ้านกำลัง ยืนมองตัวเองด้วยสายตาเหยียดหยามตรงหน้าตัวเอง

“ครั้งนี้หาของอะไรมาได้หรือเปล่า” พอหลิวลี่เห็นเพิ่ง เขียนโยว ก็อดริษยาไม่ได้ ตัวเองเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน แต่ยัง ต้องทำงานหนักทุกวัน แต่นั่งตัวที่บ้านก็ออกจะจน คนในบ้าน ยังเห็นนางเป็นของล้ำค่าอีก อะไรก็ไม่ให้นางทำ เลี้ยงดูนางจน ตัวขาวนุ่ม ไม่เหมือนคนบ้านนอกสักนิด โดยเฉพาะใบหน้านั้น แม้ตอนนี้จะมีผ้าพันแผลแต่ก็ปิดบังความสวยสดใสนั้นไม่ได้ ตัวเองยืนตรงหน้าของนาง ไม่อาจเทียบนางได้เลย

“เจ้าบอกว่าพ่อแม่รักเจ้ามาก จะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้า ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมยังใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ชุดนี้อยู่เล่า

“ข้าได้ยินพ่อแม่ข้าบอกว่าเจ้าไปล้มหัวแตกบนเขา เพื่อรักษาเจ้า พ่อกับแม่ของเจ้าก็เอาสิ่งของมีค่าในบ้านไปขายจน หมด เจ้าบอกเองนะว่าภายในหนึ่งเดือนถ้าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ จะคอยคุ้มกันพวกเราแล้วร้องโฮ่งๆ เหมือนสุนัข ไม่รู้ว่าเจ้าร้อง เป็นหรือยัง”

” เพิ่งก้าวไปก้าวหนึ่ง กำลังจะเอ่ยปาก แต่เพิ่ง เชี่ยนโยวก็ดึงเขาไว้แล้วพูดเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ยังไม่ถึงหนึ่ง เตือนไม่ใช่หรือ”

เมื่อเห็นรอยยิ้มจางๆ ของเพิ่งเชี่ยนโยว หลิวก็รู้สึกตก ตะลึงในทันที ทำไมถึงรู้สึกว่าคนตรงหน้าแตกต่างไปจากเมื่อ ก่อน เมื่อก่อนถ้าได้ยินนางพูดเช่นนี้ นังตัวดีนี่จะต้องร้อนรน แล้ว จะต้องโต้เถียงกับนางอย่างไม่ลดลาวาศอก และเพราะ นิสัยใจร้อนบุ่มบ่ามของนังตัวดี ดังนั้นทุกครั้งเวลาคนเยอะ นางจึงมักตั้งใจยุแยงนาง ให้นางต้องอับอาย

มองเห็นสีหน้าของหลิวลี่ เพิ่งเชี่ยนโยวก็ยิ้มแผ่ว ลูกไม้ ของนางไม่มีค่าพอให้อยู่ในสายตานาง

“อย่าเพิ่งลำพองใจไปเลย ถึงเวลานั้นดูสิว่าเจ้าจะร้อง โฮ่งๆ ยังไง!” หลิวลี่ที่ได้สติกลับมาพูดเสียงสูง

“ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากัน” เพิ่งเรียนโยวไม่สนใจหลิวอีก พาเพิ่งเจียเดินนำหน้าตรงกลับบ้าน

(1) วอโถว อาหารประเภทแป้งของคนจีนทางเหนือ ทำ จากแป้งข้าวโพดและถั่วเหลือง รสชาติจะแห้งกระด้างกว่าก้อนหมั่นโถว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ