ตอนที่ 10 สัตว์เลี้ยงใหม่
เหมือนผ่านไปเป็นศตวรรษหนึ่ง เตชิตจึงหยุดทรมานเธอ
นัชชาอดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา น้ำตาไหลลงบนใบหน้าซีด เซียวเล็กๆของเธอ เธอนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ร่างกายยังสั่นไป เล็กน้อย
ปากของเธอซาจนเหมือนไม่มีความรู้สึก และแก้มทั้งสองของ เธอก็มีอาการเจ็บ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สงสารเธอแม้แต่นิด เดียว
เตชิตมองผู้หญิงที่ล้มอยู่บนเตียง ริมฝีปากที่สีชมพูบวมอยู่ ทรงผมที่ยุ่งหญิง สีหน้าที่ไร้เดียงสาดูเป็นสิ่งเซ็กซี่ที่หาจากผู้หญิง คนอื่นไม่ได้
เขาจับคางของเธอไว้ และดึงผมที่ติดอยู่บนหน้าเธอออกอย่าง เผด็จการ “นัชชา ในเมื่อเธออยู่กับผมแล้ว ก็อย่าไปคิดผู้ชายคน อื่นอีก ไม่ว่าจะสามีเก่าหรือว่า ใครคนอื่น ผมไม่อนุญาต ”
สิ่งของของเขา มันเป็นเฉพาะของเขาเท่านั้น
นัชชาพูดไม่ออก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ยังทำให้เธอรู้สึกกลัว อยู่ ถ้าจะบอกว่าก่อนหน้านี้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาคือหวั่นเกรง งั้นความรู้สึกในตอนนี้ของเธอก็คือหวาดกลัว
นัชชาเหมือนเข้าใจแล้ว เมื่ออยู่หน้าเตชิต เธอห้ามพูดถึง นึกถึง ผู้ชายคนอื่น
เมื่อกี้นั้นก็เป็นการลงโทษที่เขาทำกับเธอ เขามองเธอเหมือน เครื่องมือระบายอารมณ์โดยไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยแม้แต่ น้อย
นัชชาค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ฉากในวันนี้ก็แวบเข้าในสมอง ของเธอ มันช่างอัปยศจริงๆ
เตชิตมองเห็นเธอเหมือนจะสูญเสียความรู้สึกไป เลยขมวดคิ้ว ขึ้น ฝ่ามือใหญ่ๆบีบแก้มของเธอ “พูดสิ!”
นัชชาตอบด้วยเสียงแหบๆ “ฉันรู้แล้ว”
คืนนี้ นัชชานอนหันหลังให้กับชายคนนั้น ตอนแรกเธอไม่กล้า นอน กลัวว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และพุ่งเข้ามาอีก หลังจากมีประสบการณ์ที่ไม่เต็มใจหลายครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกกลัว กับเรื่องนี้มาก
ผ่านไปได้ครึ่งคืน นัชชาก็ผล็อยหลับไปเพราะรู้สึกปวดหัว
เช้าวันที่สอง เตชิตตื่นนอนเป็นปกติ หกโมงครึ่งเขาจะตื่นนอน ตรงเวลา เมื่อลืมตาก็มองหันรูปร่างเปราะบางของนัชชาที่นอน ห่มผ้าห่มอยู่
ผู้ชายแปลกใจไปเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังค้นหาความจำอยู่ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงนอนอยู่บนเตียงของเขา แต่ไม่นานเขาก็จำได้แล้ว
ยังไม่ตื่น ?
เขามีนิสัยออกกําลังกายตอนเช้า และเขาอยากให้นัชชาออก กําลังกายตอนเช้าด้วยกัน เลยใช้มือผลักไปที่ร่างกายของผู้หญิง ตัวเล็กๆ “ตื่นได้แล้ว”
เห็นเธอไม่มีการตอบสนอง เขาใช้แรงผลักเธออีกสองครั้ง “นัชชา ตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า
เธอยังคงหลับอยู่และลมหายใจหนักหนาขึ้น
มือของเตชิตที่จะผลักไปอีกก็หยุดลง และเอื้อมไปแตะที่หน้า ผากของเธอ เพิ่งสัมผัสไป ความร้อนที่บนหน้าผากของเธอทำให้ มือของเขาชบไปทันที
อุณหภูมินี้น่าจะประมาณไม่น้อยกว่า 39องศาแล้ว
เตชิตขมวดคิ้ว ดึงร่างกายของเธอมายังฝ่ายเขา เห็นหน้าของ เธอแดงเหมือนโดนเผาไหม้
“ตายละ !” เขาสบถออกมา รีบไปเอากล่องยาออกมา แล้วเอา แผ่นแปะลดไข้แปะไว้ที่หน้าผากของเธอ และหยิบยาลดไข้ออก มาชงให้เรียบร้อย วางแก้วยาอยู่โต๊ะข้างๆหัวเตียง แล้วเรียกเธอ “ลูกมากินยา”
นัชชาหลับเป็นตาย เธอไม่ชอบที่ถูกรบกวน จมูกก็รู้สึกหนักจน หายใจไม่ค่อยสะดวก “ออกไป ..
“กินยาซะ เดี๋ยวผมจะออกไป ” เตชิตพยายามเกลี้ยกล่อม
อย่างอดทน
“ฉันไม่อยากกิน”
“ต้องกิน” เตชิตไม่เคยดูแลคนป่วยมาก่อน เขาเกาหัวอย่าง หงุดหงิด “นัชชา ความอดทนผมมีขีดจำกัดนะ
ถ้าเป็นปกติ นัชชาคงกินไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เธอมีไข้สูงและ เวียนหัวเลยไม่รู้สึกกลัวอะไร ใช้มือสะบัดไป “ก็บอกว่าไม่กิน
เตชิตหมดความอดทน เขายิ้มเยาะ และพยักหน้า “งั้นก็ไม่
ต้องกิน”
พูดเสร็จเขาก็เดินออกไปจากห้องนอน ทิ้งยาแก้ววาที่ยังมีกลิ่น ไอร้อนๆและผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่นอนขดอยู่บนเตียงไว้ในห้อง
หลัง15 นาที ประตูห้องนอนถูกเปิดออกอีกครั้ง เตชิตเข้ามา พร้อมกับผู้ชายคนใส่เสื้อกาวน์สีขาวหนึ่งคน ผู้ชายคนนั้นหน้าตา หล่อเหลา ผิวขาวเนียม ตัวเตี้ยกว่าเตชิตนิดหน่อย ดูแล้วทำให้ นึกถึงคำว่า มองมุมไหนก็ดูดี
เขาชื่อว่า ปรัณ เป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของเตชิต ทำงานใน โรงพยาบาลเอกชน และยังพัฒนาสูตรยาใหม่ๆและอุปกรณ์การ แพทย์ใหม่ๆ อย่างลับๆ เรียกได้ว่าเป็นคนมีฐานะคนหนึ่ง
“แค่มีไข้นิดหน่อย แกถึงให้ผมที่อยู่ไกลมานี้หรอ ” ปรัณมอง ไปยังหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง เขาพูดอย่างแกล้งหยอก
“หยุดพูดไร้สาระได้ละ ไปดูเธอส” เตชิตสีหน้าไม่เปลี่ยน เขา เดินมาข้างเตียง
ปรัณวัดไข้ให้กับนัชชา 39.8 องศา ไข้สูง ให้ยาน้ำเกลือกับ เธอทันที หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อย เขาเหลือบไปถึงขวดยาที่อยู่ใกล้หัวเตียง อดหัวเราะไม่ได้ “ชาตินี่ได้เห็นแกดูเลยคนอื่นมัน ไม่ง่ายเลยวุ้ย”
เตชิตเขม็งไปที่เขา “ไม่มีเรื่องแล้วแกก็ไสหัวไปเลย
“อย่าง ใช้ผมเสร็จก็จะเตะผมออกมา มันโหดร้ายจริงๆ ปรัณ มองไปทางนัชชา “นี่ใครอ่ะ ถึงทำให้คนอย่างประธานเตชิตมา ดูแลเธอ”
เตชิตเห็นเขายังถามไม่หยุด ก็พูดขึ้น “อยากรู้มากหรอ ?”
“อยากรู้มาก”
“สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของผม
..….……. ปรัณอึ้งไป เมื่อเขาเห็นสายตาที่มืดมนของเตชิตราวกับ เข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว จึงพูดอย่างขำๆ “สัตว์เลี้ยงตัวนี้ของ แกดูไม่เลวนะ รอแกเบื่อเมื่อไหร่ให้ผมเอาไปที่บ้านเลี้ยงสักสอง วัน โอเคไหม”
อย่างที่เขาคิดจริงๆ หลังได้ที่เขาพูด สีหน้าของเตชิตมืดครึ้ม ลงทันที แม้บรรยากาศรอบๆก็เย็นลงราวกับลมหนาวที่พัดมา จากไซบีเรีย ทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
ปรัณรีบอธิบาย “ก็แกพูดเองว่าเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ในเมื่อเป็น สัตว์เลี้ยง ใครจะเลี้ยงไม่ได้ล่ะ …
ปรัณตั้งใจจะแกล้งเตชิต เตชิตก็รู้อยู่ แต่เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาก็ ยังคงอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวดขึ้นมา “ผมจำได้ว่าโรงพยาบาลของ แกยังไม่เสร็จคดีเมื่อเดือนที่แล้ว …..
“ผมผิดไปแล้ว ! ” ปรัณรีบยอมแพ้ทันที “คนเราก็พูดกันอยู่ว่า ในชีวิตสัตว์เลี้ยงมันจะมีแค่เจ้าของคนเดียว ถึงผมจะอยากเลี้ยง แต่สัตว์เลี้ยงของแกคงไม่พอใจให้ผมมาเลี้ยงมั้ง ”
เตชิตส่งเสียงที่ออกมา มองไปที่ประตู “แกกลับไปได้แล้ว”
ปรัญส่งเสียง “ขอรับ”
เมื่อเขาจะกลับไป เตชิตก็ยังไปส่งเขาที่หน้าประตูวิลล่า ปรัณ ตัว ใส่เสื้อกาวน์สีขาว มือถือกล่องยาอยู่ เขาพูดกับเตชิตด้วย เสียงต่ำๆ “ยานั้นผมได้ให้คนไปพัฒนาสูตรยามาใหม่ เป็นส่วน ผสมที่มีประสิทธิภาพดีจากการทดลองทางคลินิก….”
เตชิตจุดบุหรี่สูบไป “ฉันไม่ต้องใช้มันแล้ว ”
ปรัณร้องด้วยความตกใจ “แกฟังฉันพูดให้เสร็จก่อนสิ ยาตัวนี้ ปลอดภัยแน่นอนไม่มีผลข้างเคียง ราคาทุนสูง เลยไม่ได้ผลิต ออกมามาก หาซื้อตามตลาดไม่ได้นะวุ้ย!”
เตชิตยิ้มพร้อมกับเขี่ยก้นบุหรี่ “ปรัณ ฉันพึ่งรู้ว่าแกก็เป็นคน ค่อนข้างอันตรายคนหนึ่ง
“ที่ผมทำก็เพื่อแกไง แกพึ่งอายุ 32 ปี แกอยากอยู่แบบนี้ไป ตลอดชีวิตเลยรึไง ? ถึงแกจะอยาก แต่ร่างการของแกก็กินไม่
ไหว …
“ปรัณ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองไปยังชั้นสอง นัยน์ตามีแสง เปล่งประกาย “ฉันเหมือนหายดีแล้ว”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ