บทที่4 พ่อโง่
บทที่4 พ่อโง่
หลังจากกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ในตอน ที่ฉู่เทียนเจียงอุ้มอีอีเข้าไปในห้องรับแขก ฮัวจิ๋นถึงรู้สึก เซอร์ไพรส์จนยากที่จะอธิบาย เด็กน้อยตื่นขึ้นมาในเวลา นี้พอดี
มองดูฮัวจิ่นถิงที่ร้องไห้ด้วยความดีใจ มือปุ้มปุ้ยน่ารัก ของอีอีก็เช็ดไปที่ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาอย่างรีบร้อน แล้วพูดด้วยความหวาดกลัว
“มะ….แม่คะ อีอีอยากจะให้คุณลุงคนนี้เป็นคุณพ่อของ อีอีค่ะ หนู…อยากได้คุณพ่อหนึ่งคนค่ะ”
ฮัวจิ่นถิงร้องไห้อย่างปวดใจมากยิ่งขึ้น พยักหน้าหงิก หงักไม่หยุด
“ได้ค่ะ อีอีคะ คุณแม่อนุญาตค่ะ”
ทันใดนั้นเอง อีอีก็ใช้มือกอดไปที่ลำคอของฉู่เทียนเจียง และฮัวจิ่นถิงอย่างดีใจ
“เย้! เย้! อีอีมีความสุขมากเลยค่ะ”
ไม่เคยมีเวลาไหนเลย ที่ฉู่เทียนเจียงรู้สึกสบายใจเท่านี้ มาก่อน จริงๆนะ ไม่เคยสบายใจได้แบบนี้เลย
ฮัวเหวินฮุยกับหลิวหลานที่ยืนอยู่ด้านหลัง ตอนนี้ทั้งสอง น้ำตารินไหล สำหรับหลานสาวคนนี้แล้ว พวกเขารู้สึก ชอบเด็กคนนี้มาก แต่ในเวลานี้ มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถ ต่อต้านได้
โครกคราก!
ทันใดนั้นเอง เสียงท้องร้องด้วยความหิวของอีอีก็ดังขึ้น จมูกน้อยกระดุกกระดิกไปมา พูดพลางลูบไปที่ท้องน้อยๆ ของตัวเองเบาๆ
“หนูหิวแล้วค่ะ คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่าคะ อีอีอยาก กินบะหมี่ค่ะ”
“ได้ครับ กินบะหมี่นะครับ เดี๋ยวพ่อจะเข้าครัวทำให้หนู เองเลยดีไหมครับ
มองดูฉู่เทียนเจียงที่ยุ่งวุ่นวายในครัว หัวใจของฮัวจิ่นถิ งก็รู้สึกดีใจมาก เธอไม่ขอให้รวยล้นฟ้า ตอนนี้ขอเพียงแค่ ลูกสาวของเธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็พอแล้ว
“ว้าว! คุณพ่อทำอร่อยมากเลยค่ะ”
หลังจากผ่านไปสิบนาที เธอได้กินไปหนึ่งคำ อีอีก็ได้เอ่ย ปากชมฝีมือการเข้าครัวของฉู่เทียนเจียง คนที่ทํารู้สึก กดดันมาก นี่เป็นถึงคำวิจารณ์จากลูกสาวเชียวนะ มัน สําคัญมากกว่ารางวัลเกียรติยศทั้งหมดที่ตนเคยได้รับมา เลยล่ะ
หลังจากที่กินอิ่มแล้ว อีอีมีนิสัยนาฬิกาชีวภาพที่ดี กลับ ไปถึงห้อง ฉู่เทียนเจียงได้เล่านิทานให้ฟังอยู่หลายเรื่อง ประมาณสองทุ่มได้ เธอก็ได้เข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อย
เขาเดินลงมาด้านล่าง มองเห็นครอบครัวนั่งอยู่ในห้อง รับแขก ฉู่เทียนเจียงที่นั่งลงแล้วก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า
“อีอีถูกเอาตัวไปประมูล เป็นความคิดของคุณปู่ หรืออา รองกับฮัวว่านถงกัน”
คำถามนี้ ใครจะสามารถให้คำตอบได้ ฮัวจิ่นถิงโบกมือ ไปมา
“ไม่รู้ ฉู่เทียนเจียง คุณไม่ต้องสืบสาวราวเรื่องแล้ว ตอน นี้คุณกลับมาแล้ว ตัวตนของอีอีฉันก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง อีกต่อไป สามารถเปิดเผยได้อย่างชอบธรรม คุณปู่ไม่น่า จะว่าอะไรอีก แค่นี้ก็พอแล้ว”
พอแล้ว? ฉู่เทียนเจียงขมวดคิ้วเป็นปม เป็นไปได้ยัง ไง! ลูกสาวต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากแบบนี้ คนที่ร่วมมืออยู่ในนี้ ถึงจะมีสิบชีวิตก็ไม่อาจชดใช้ได้
พอเห็นฉู่เทียนเจียงไม่พูดไม่จาอะไร ฮั่วจิ่นถิงก็ปั้นหน้า เคร่งขรึมขึ้น
“ฉู่เทียนเจียงคุณฟังนะ การที่ฉันหัวเราะยิ้มกับคุณเมื่อ กี้ ความอบอุ่นที่ฉันมอบให้ มันเป็นของปลอม นับแต่นี้ไป ต่อหน้าของอีอี พวกเราจะต้องสามีภรรยาที่รักใคร่กัน ลับ หลังของอีอี รอให้ฉันให้อภัยคุณเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน อย่า คิดว่าจากไปสี่ปี พวกสายตาดูถูกเหยียดหยาม ความยาก ลำบาก ความอัปยศอดสู จะลบล้างได้ง่ายๆ
ฉู่เทียนเจียงถอนหายใจ แน่นอนเขารู้ดีว่าเขาติดค้าง ภรรยาคนนี้ เขาเอามือยื่นออกไป คิดไม่ถึงว่าจะถูกฮัว จีนถึงสะบัดมันออกไป
“ห้ามแตะต้องตัวฉัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ได้ครับ”
ในเวลานี้เอง เสียงจากโทรศัพท์มือถือของฮัวเหวินฮุยดัง ขึ้น เขามองไปแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วขึ้นมา แต่ยังคงรับสาย นั้น
“พ่อครับ.…….”
เรียกออกไปได้หนึ่งคำเท่านั้น หลังจากนั้นสีหน้าของฮัว เหวินฮุยก็เริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที เขาก็ทุ่มโทรศัพท์ มือถือลงไปบนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ชี้หน้าของฉู่เทียนเจียง พลางด่ากราดไปด้วย
“แม่งเอ้ย! แกมันไอ้เหี้ยหน้าตัวเมีย กลับมาคราวนี้ยังจะ ทำให้เราชิบหายไปทั้งครอบครัวอีก!
ฮัวจิ่นถิงรีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“คุณพ่อคะ! เกิดอะไรขึ้นคะ? ”
มองเห็นหน้าของลูกสาว ฮัวเหวินฮุยก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
“ฉู่เทียนเจียงใช้กำลังตบฮัวว่านถง? เรื่องนี้ทำไมแกไม่ บอกพ่อ”
เรื่องนี้? ฮัวจิ่นถึงขมวดคิ้ว
“นั่นเป็นเพราะฮัวว่านถงพูดจาไม่ดีก่อน สมควรจะโดนตี แล้ว ฉู่เทียนเจียงทำเพื่อปกป้องหนูนะคะ มันผิดตรงไหน
“ผิดตรงไหนงั้นหรอ? ”
ฮัวเหวินถงโกรธจนหัวเราะขึ้นมา
“อารองของแกเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในบ้าน? ถึงแม้ว ว่านถงจะเป็นแค่ลูกบุญธรรม แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกชาย แท้ๆของเขา เขาเอาใจคุณปู่จนหน้าชื่นตาบาน ผิดใจกับ อารองของแก ครอบครัวของเรามีอยู่อย่างมีความสุขได้ ยังไง? แกดูตอนนี้สิ เมื่อกี้ปู่ของแกพึ่งโทรมา ในเมื่อจู่ เทียนเจียงกลับมาแล้ว เรื่องเลือกลูกเขยกับเรื่องของอีอี ไม่ต้องพูดถึงหรอก แต่เพราะเขาปีกกล้าขาแข็งกล้าทำ ร้ายฮัวว่านถง กว่าครอบครัวของเราจะสืบทอดธุรกิจเพื่อ หาเงินนั้นมาได้เลือดตาแทบกระเด็นมันพังทลายไปใน พริบตา โยนโรงงานอิฐเฮงซวยนั่นมาให้เรา แก..….….…….
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ที่ผลิตโดยบาง ประเทศก็ดังขึ้น ฮัวเหวินฮุยรีบรับสายในทันที พูดด้วย ความโกรธ
“ดูซะ นี่เป็นสายจากอารองของแก ฉันจะเปิดแฮนด์ฟรี แล้วแกก็คอยดูซะว่าอารองในเวลาปกติที่น่าเคารพน่าถือ ตอนนี้น่ากลัวขนาดไหน”
แทบจะเป็นเวลาแค่ครู่เดียวหลังจากรับสาย เสียงเย็นชา ก็ดังลอดออกมาจากปลายสาย
“น้องสาม อย่าหาว่าฉันไม่สนใจความเป็นพี่น้องนะ ใน เมื่อฉู่เทียนเจียงกล้าทำร้ายลูกร้ายของฉัน มันเป็นใคร นอกเสียจากว่ามันจะไปคำนับขอโทษลูกชายของฉัน ไม่ อย่างนั้นข้อตกลงที่จะสนับสนุนของจากโรงงานอิฐให้กับ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ฮัวเฟิงก็จะถือว่าเป็นโมฆะ!”
ตุ๊ดๆๆ พอได้ยินสายถูกตัดไป ฮัวเหวินฮุยก็นั่งเข่าทรุดลง กับโซฟาอย่างเข่าอ่อน
โรงงานอิฐเป็นโรงงานที่เกิดขึ้นมาในภายหลัง อาศัย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองถึงอยู่รอดมาได้ ตอนนี้ มันจบลงแล้ว
สายตาของฉู่เทียนเจียงมีความเย็นยะเยือกแวบผ่านไป
ยังไม่ทันได้ตามหาพวกแก พวกแกก็โผล่ออกมาแล้ว สินะ ความทุกข์ทรมานที่ลูกสาวฉันได้รับ ความไม่เป็น ธรรมที่เมียของฉันต้องเผชิญ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้พวก แกตายง่ายๆแน่ พวกแกจะต้องค่อยๆลิ้มลองรสชาติของ ความสิ้นหวังทีละเล็กทีละน้อย
“ฉู่เทียนเจียง ตอนนี้มีเพียงแค่วิธีเดียวแล้ว ไปคุกเข่า ยอมรับผิดกับฮัวว่านถงซะ ไม่อย่างนั้น ครอบครัวของเรา ก็จะต้องอดยากไม่มีอันจะกินแน่ โดยเฉพาะตอนนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ฮัวเฟิงกำลังจะเปิดย่านใหม่ รอกู้ เงินผ่านก็สามารถเริ่มงานได้เลย ตัวแกเองสามารถอดทน ได้ หรือแกจะปล่อยให้อีอีต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอดอยาก งั้นเหรอ? ”
หลังจากที่ลังเลอยู่นาน ฮัวเหวินฮุยก็ตัดสินใจพูด ประโยคนี้ออกมา จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็มีเพียง แค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น
ฉู่เทียนเจียงส่ายหัวไปมาช้าๆ
คุณพ่อครับ วางใจเถอะครับ ในเมื่อตอนนี้ผมกลับมา แล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ทุกคนต้องกังวลใจในเรื่อง ความเป็นอยู่อีก”
ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าฉู่เทียนเจียงไปเอาความมั่นใจมา จากไหน แต่ฮัวจิ้นถิงยังคงแสดงออก
“หนูจะไม่ยอมให้ผู้ชายของตัวเองไปเสียศักดิ์ศรีคำนับ ขอโทษหรอกนะคะ หนูไม่เชื่อว่า ออกจากตระกูลนี้ไป แล้ว พวกเราจะไม่สามารถหาลูกค้าได้ ถ้ามันไม่ได้ หนูก็ จะไปหางานอย่างอื่นทำ”
พอเห็นนิสัยของภรรยาตัวเองที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าในใจของฉู่เทียนเจียงรู้สึกดีใจมาก
“เมียจ๋า พรุ่งนี้เช้าเราไปซื้อเสื้อผ้าให้อีอีกันนะครับ ผม อยากจะรีบชดเชยตลอดเวลาทั้งสี่ปีนี้ที่มันสูญเสียไป
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฮัวจั่นถึงก็พยักหน้า เรื่องที่ เกี่ยวข้องกับอีอี เธอจะไม่ใช้อารมณ์ตัดสินโดยเด็ดขาด
พอดีกับที่ เสียงโทรศัพท์ของฉู่เทียนเจียงดังขึ้น เป็น สายจากหม่าเหลียงโทรเข้ามา
“ท่านนายพลครับ คนเฝ้าสังเกตการณ์ส่งข่าวมาแล้ว ครับ เจ้าของห้างประมูลมาถึงแล้วครับ ท่านจะไปดูหน่อย ไหมครับ ? –
“รู้แล้ว”
ไปสิ! ทำไมจะไม่ไปล่ะ ฉู่เทียนเจียงต้องรู้ให้ได้ ว่าน อกจากตาแก่กับฮัวว่านถงแล้ว ยังมีใครร่วมขบวนการเอา ลูกสาวของเขาไปเข้าประมูล
ขอเพียงแค่ไขข้อสงสัย เขาไม่มีทางยอมปล่อยไปแน่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ